รวมสถานที่จัดงานแต่งงาน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

แค่ราคาแพ็คเกจแต่งงานก็ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทแล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนอื่นอีก รวม ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเก็บเงินก้อนใหญ่สำหรับจัดงานแต่งงานได้ เพราะรายได้แต่ละเดือนหลังหักรายจ่ายประจำไปแล้วปรากฏว่า ทำไมเงินเหลือน้อยจัง แล้วเมื่อไหร่ถึงจะได้จัดงานแต่งงานล่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้ว เรื่องเงินเป็นเรื่องที่คู่รักต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นปี ๆ เลยครับ แต่สำหรับคู่รักที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี สามารถมาอ่านรายละเอียดต่อไปนี้จาก Weddinglist ที่อาศัยประสบการณ์จากคนรอบข้างในการหาวิธีเก็บเงินแต่งงานที่เหมาะสมกับคุณและคู่รักที่สุดครับ

ขั้นตอนที่ 1 : วางเป้าหมาย ดูรายได้ประจำเดือน

ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะประเด็นงบประมาณจัดงานแต่งงาน (ไม่รวมค่าสินสอดซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย และเป็นประเด็นที่ควรจะจัดการให้เรียบร้อยก่อนวางแผนจัดงานแต่งงาน) หลังจากที่คู่รักได้ตัดสินใจแล้วว่าจะจัดงานแต่งงาน แต่ต่างฝ่ายยังมีเงินก้อนอยู่จำนวนน้อย อย่าเพิ่งกำหนดช่วงวันและเวลาจัดงานแต่งงานที่แน่นอน เพราะช่วงระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนจนถึงวันงานมีผลต่อการเก็บเงิน ขั้นตอนแรกให้คู่รักหาข้อมูลแต่งงานก่อนว่า ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในแต่ละส่วน รวม ๆ กันแล้วจะตกอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ แล้วนำมาเทียบกับรายรับ – รายจ่ายประจำเดือนของคู่รัก เพื่อที่จะได้ประเมินได้ว่า ต่อจากนี้จะต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยเดือนละเท่าไหร่ ใช้เวลาแค่ไหน แล้วค่อยไปหาฤกษ์แต่งงานก็ยังไม่สายครับ

ในที่นี้ขอสมมุติให้ นาย B เป็นพนักงานบริษัท ได้เงินเดือน ๆ ละ 25,000 บาท มีแผนจะแต่งงานกับ นางสาว A ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ได้เงินเดือน ๆ ละ 22,000 บาท โดยทั้งคู่ได้หาข้อมูลค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน ซึ่ง นาย B และ นางสาว A ได้วางงบประมาณอยู่ที่ 200,000 – 300,000 บาท

คำถามคือ ทั้งคู่จะหารสอง หรือคนใดคนหนึ่งเหมาจ่ายคนเดียว

หากพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว การออกค่าใช้จ่ายเพียงคนเดียวถือเป็นภาระที่หนักมาก ๆ เพราะทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงล้วนมีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน อีกทั้งการเหมาจ่ายเพียงฝ่ายเดียวย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาระหว่างครอบครัวได้ เพราะฉะนั้นควรจะยึดหลักใจเขาใจเราคือ ทั้งนาย B และนางสาว A ควรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกัน โดยอาจไม่ต้องแบ่งสัดส่วน 50 : 50 ก็ได้ ให้พิจารณาตามกำลังทรัพย์ที่ไหวของแต่ละฝ่ายจะสบายใจกว่าครับ

ซึ่งจากการค้นคว้าข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเก็บเงินแต่งงานจากประสบการณ์ที่หลากหลาย ทำให้ทางทีมงาน Weddinglist ได้คิดสูตรตั้งงบจัดงานแต่งงานขั้นต่ำอย่างง่าย ๆ แต่สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมครับ

รายได้รวมของทั้งคู่ต่อเดือน x 12 เดือน (ค่ากลางของระยะเวลาเตรียมงาน) / 2 (เฉลี่ยครึ่ง) = จำนวนงบประมาณจัดงานแต่งงานที่จะต้องหามาให้ได้

(25,000 + 22,000) x 12 / 2 = 282,000 บาท (ปัดขึ้นเป็น 300,000 บาท)

ขั้นตอนที่ 2 : รายจ่ายต้องชัดเจน

หลังจากที่รู้ตัวเลขของรายได้รวมกับเงินที่ต้องหามาให้ได้แล้ว ทีนี้ก็ต้องมาดูในส่วนของรายจ่าย ทั้งรายจ่ายร่วมและรายจ่ายส่วนตัวกันครับ เพื่อที่จะกำหนดได้ว่า ในหนึ่งเดือนควรเก็บเงินส่วนนี้ให้ได้อย่างน้อยเท่าไหร่ สมมุติว่า นาย B กับ นางสาว A อาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งไม่ว่าที่อยู่จะเป็นแบบเช่า ผ่อน หรืออะไรก็ตามแต่ ต้องมีรายจ่ายภายในที่ทั้งคู่ต้องรับผิดชอบร่วมกันแน่นอน (แต่ถ้าเป็นกรณีที่ทั้งคู่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน รายจ่ายก็จะเบาลง) ทั้งนี้นาย B และ นางสาว A ควรจะบอกรายละเอียดของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ ให้ชัดเจนด้วย

กรณีที่มีรายจ่ายร่วมที่ต้องหารสอง (คู่รักอยู่ด้วยกัน) ประกอบด้วยรายจ่ายเบื้องต้นดังนี้

• ค่าบ้าน / หอ / คอนโด
• ค่าน้ำ, ไฟ, อินเทอร์เน็ต และสาธารณูปโภคอื่น ๆ
• ค่าอุปโภคบริโภค เช่น ของใช้ภายในบ้าน อาหาร
• ค่าน้ำมันรถ (กรณีที่ขับรถส่วนตัวไป – กลับด้วยกันในวันทำงาน)

สำหรับรายจ่ายส่วนตัว เบื้องต้นมีดังต่อไปนี้

• ค่าเดินทาง / ค่าน้ำมันรถ (กรณีที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือต่างคนต่างมีรถส่วนตัวเหมือนกัน)
• ค่าอาหารระหว่างวันทำงาน
• ค่าของใช้ส่วนตัว
• ค่าบัตรเครดิต
• ค่าประกันชีวิต
• ส่งให้พ่อแม่
• เงินออมส่วนตัว
• เงินสังสรรค์ ท่องเที่ยว หรือช็อปปิ้ง

เมื่อ นาย B และ นางสาว A ได้หักรายจ่ายประจำส่วนนี้ออกไปทั้งหมดแล้ว มาดูกันว่าจะเหลือเงินเท่าไหร่ แล้วทั้งคู่ต้องเก็บเงินให้ได้เดือนละเท่าไหร่

หากทั้งคู่จะแต่งงานกันภายใน 2 ปี ซึ่งจะต้องเก็บเงินให้ได้ 300,000 บาท โดยเฉลี่ยแล้วทั้งคู่ต้องเก็บเงินรวมกันให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 12,500 บาท (300,000 บาท / 24 เดือน) ซึ่งหากต้องการให้ตัวเลขนี้ตายตัวทุกเดือน สามารถออมเงินโดยการเปิดบัญชีฝากประจำ 24 เดือน และเปิดอีกบัญชีหนึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์สำรองไว้ เผื่อบางเดือนอาจเก็บเงินได้มากกว่า 12,500 บาท ก็สามารถนำเงินส่วนต่างมาฝากไว้กับบัญชีนี้ได้ครับ

ขั้นตอนที่ 3 : คุมรายจ่าย เพิ่มรายได้

นอกจากจะต้องตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง เช่น เงินสังสรรค์ ท่องเที่ยว หรือช็อปปิ้ง กับหาช่องทางออมเงินให้ได้มากขึ้นแล้ว คู่รักยังต้องคิดเรื่องรายได้เสริมด้วย ไม่ว่าจะทำโอที ขายของออนไลน์ รับจ๊อบพิเศษตามความสามารถที่มี รวมทั้งลงทุนในสลากออมทรัพย์หรือกองทุนต่าง ๆ เพราะระหว่างทางต่อจากนี้อาจมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินจำนวนมากเมื่อไหร่ก็ได้ เช่น พ่อแม่ป่วย อุบัติเหตุ หมุนเงินไม่ทัน ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าต้องกระทบต่อการเก็บเงินแต่งงานแน่นอน

โบนัส ค่าคอมมิชชั่น อีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้คู่รักออมเงินได้เร็วขึ้น

*** กรณีที่คู่รักได้โบนัสกลางปีหรือปลายปี รวมทั้งค่าคอมมิชชั่นในช่วงระหว่างเก็บเงินแต่งงาน ขอแนะนำให้จัดการค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจริง ๆ ก่อน โดยที่ยังสามารถนำไปใช้จ่ายไลฟ์สไตล์ส่วนตัวได้ในสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับจัดงานแต่งงานอาจต้องแบ่งสัดส่วนมากหน่อย เพราะจะทำให้ร่นเวลาในการเก็บเงินได้ในระดับหนึ่งครับ

สำหรับช่องทางการออมเงิน คู่รักอาจเลือกออมเงินจากช่องทางอื่นที่นอกเหนือจากบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำก็ได้ เพราะยังมีอีกหลายช่องทางการออมที่มีเงินน้อยก็ลงทุนได้ แต่อาจได้ผลตอบแทนดีกว่า และยังมีความเสี่ยงที่ไม่สูงมาก เช่น

สลากออมสิน ออกโดยธนาคารออมสิน เป็นอีกเงินฝากประเภทหนึ่งที่มีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลได้ทุกเดือนเหมือนกับลอตเตอรี ซึ่งสลากออมสินมีอายุการฝาก 3 ปี ก็สามารถถอนคืนเป็นเงินสดพร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่ธนาคารกำหนดได้ โดยมีราคาหน่วยละ 50 บาท ยิ่งซื้อหน่วยมากก็จะมีโอกาสถูกรางวัลมากขึ้น

สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ออกโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งมีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลทุกเดือนเช่นเดียวกับสลากออมสิน โดยมีอายุการฝากสลาก 3 ปีเท่ากัน แต่สลาก ธ.ก.ส. จะมีราคาหน่วยละ 100 บาท

ออมทอง คนส่วนใหญ่จะซื้อทองเพื่อเก็งกำไร ซึ่งเป็นการออมอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลกำไรค่อนข้างดี (ในช่วงที่ราคาทองขึ้น) แต่คู่รักอาจไม่จำเป็นต้องออมทองทุกเดือนก็ได้ เพราะบางเดือนที่ราคาทองขึ้นแล้วสู้ไม่ไหว ก็สามารถเอาเงินส่วนนี้ไปออมในส่วนอื่นแทนได้ เช่น กองทุนรวม สลากออมทรัพย์ ฯลฯ

กองทุนรวม เป็นอีกทางเลือกที่ใช้เงินเริ่มต้นไม่มาก มีแค่หลักพันก็ลงทุนได้แล้ว ซึ่งกองทุนจะมีหลากหลายประเภท เช่น ตราสารหนี้ พันธบัตร ทองคำ หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว แต่ละกองทุนก็จะมีระดับความเสี่ยงแตกต่างกันไป โดยเงินปันผลที่ได้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุนนั้น ๆ

สลากกินแบ่งรัฐบาล ถ้าพูดภาษาบ้าน ๆ ก็คือหวยนี่แหละครับ ราคาตามท้องตลาดทั่วไปอยู่ที่ใบละ 80 บาท ซึ่งทุกใบล้วนมีโอกาสทั้งถูกรางวัลและถูกกิน ถ้าซื้อแล้วถูกรางวัลถือว่าเป็นผลพลอยได้อย่างหนึ่งที่ช่วยเก็บเงินแต่งงานได้เช่นกัน แต่ไม่ควรถึงกับต้องซื้องวดละหลาย ๆ ใบ เพราะถ้าถูกกินขึ้นมาจะไม่คุ้มกัน (แต่ถ้าซื้อน้อยก็ถือว่าแบ่งปันรายได้ให้กับรัฐไป) ซื้อแค่งวดละไม่เกิน 2-3 ใบให้ได้ลุ้นกันสนุก ๆ ก็พอครับ

สำหรับการเลือกออมหรือลงทุนในรูปแบบดังกล่าวนี้ คู่รักควรประเมินสภาพการเงินของตนเอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจนะครับ เพราะถ้าทำการบ้านมาไม่ดี งบจัดงานแต่งงานของคุณมีปัญหาตามมาแน่นอน

ขั้นตอนที่ 4 : ติดตามและประเมินผลสม่ำเสมอ

อย่างที่บอกไปว่า ระหว่างทางอะไรก็เกิดขึ้นได้ การติดตามผลเป็นประจำจะช่วยให้คู่รักรู้สถานการณ์ล่าสุดว่า ตอนนี้เก็บเงินได้เท่าไหร่แล้ว และในเดือนต่อ ๆ ไปจะมีแนวโน้มการเก็บเงินได้มากน้อยแค่ไหน สภาพการเงินมีปัญหาหรือไม่

“บัญชีรายรับ – รายจ่าย” จะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้การทำงานในส่วนนี้เป็นไปอย่างไม่สะดุด เพราะนอกจากจะทำให้รู้ว่าเดือนนี้เราใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว หากมีการควบคุมดี ๆ สิ้นเดือนอาจมีเงินเหลือจากรายจ่ายหลักด้วย ถือว่าเป็นกำไรให้กับชีวิตคู่ไป

โดยช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนถึงวันงานแต่งงาน คู่รักควรจะประเมินได้แล้วว่า เงินที่หามาได้ยังขาดเหลืออีกมากน้อยแค่ไหน ถ้าหาได้ครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว แนะนำว่าให้หาเพิ่มอีก 10 – 20% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่อาจเกิดขึ้นในวันงาน แต่ถ้าหากยังขาดเหลืออยู่ ช่วงโค้งสุดท้ายนี้คู่รักอาจต้องยอมเหนื่อยมากขึ้น ขอให้ระลึกไว้ว่า ยอมเหนื่อยก่อนแต่งงาน ย่อมสบายกว่าเป็นหนี้บานหลังจัดงานแน่นอน

ขั้นตอนที่ 5 : อย่านอกทาง

ต่อเนื่องจากขั้นตอนที่ 4 ที่สามารถทำควบคู่ไปกับขั้นตอนนี้ได้ เพราะคู่รักอาจกังวลระหว่างเก็บเงินว่า ใกล้จะถึงวันงานแล้ว แต่ยังขาดเงินอยู่อีกมาก อันนี้ยังไม่เท่าไหร่เพราะเรายังสามารถควบคุมรายจ่ายและหารายได้เพิ่มเติมได้อีก แต่หากเป็นกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ของงานแต่งงาน เช่น การตกแต่งสถานที่ การเพิ่มจำนวนแขก ซึ่งอาจมีส่วนต่างที่ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มได้ หากคู่รักต้องการจะเปลี่ยนแปลงส่วนใด อย่าลืมดูเงินที่มีอยู่ตอนนั้นด้วยนะครับว่าจะเกินงบหรือเปล่า เพราะมีหลายคู่รักที่อยากเปลี่ยนโน่นนี่นั่นจนคุมงบไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเดือดร้อนคนรอบข้างไปอีก

ในระหว่างที่เก็บเงินแต่งงาน ควรหลีกเลี่ยงการ “กู้เงิน” ทุกประเภท ห้าม “เล่นการพนัน” และ “หาเงินโดยผิดกฎหมาย” เด็ดขาด เพราะคุณอาจได้ความประทับใจในวันนี้ แต่พรุ่งนี้คุณจะต้องแลกกับการเป็นหนี้และความไม่สบายใจอื่น ๆ ในระยะยาวครับ

ถ้าโค้งสุดท้ายยังหาเงินได้ไม่ครบจริง ๆ ควรทำอย่างไร ?

กรณีนี้คู่รักอย่าเพิ่งตัดสินใจกันเอง อย่างแรกให้รีบปรึกษาพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ก่อนว่าพอจะมีทางช่วยได้หรือไม่ อย่างที่สองคือหาทางเจรจากับสถานที่แต่งงานหรือร้านค้าต่าง ๆ เพื่อขอยืดเวลาผ่อนชำระหรือเพิ่มงวดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลง เช่น อาจให้เพื่อนหรือคนกันเองมาเป็นพิธีกร เล่นดนตรี หรืออื่น ๆ แทนการจ้างคนจากข้างนอก ก็จะช่วยรัดเข็มขัดได้ระดับหนึ่ง

ขั้นตอนที่ 6 : เลือกสถานที่จัดงานแต่งงานที่ไหนดี

สำหรับสถานที่จัดงานแต่งงานมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น โรงแรม, เรือนไทย, สวน, Unique Space, รีสอร์ท, สวนอาหาร, สโมสร ฯลฯ ตามความชอบของคู่รักแต่ละท่าน แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงในส่วนของโรงแรมก่อน เพราะคู่รักหลายท่านอาจมองว่า จัดงานแต่งงานในโรงแรมมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งจริง ๆ แล้วมีหลายโรงแรมดังต่อไปนี้ที่มีราคาแพ็คเกจแต่งงานที่ไม่สูงเกินความสามารถในการเก็บเงินของมนุษย์เงินเดือน 20,000 – 30,000 บาทมากนัก และยังช่วยประหยัดเวลาในการวางแผน และหาไอเดียแต่งงานของคู่รัก ด้วยบริการครบทุกอย่างในแพ็คเกจเดียวอีกด้วยครับ

สำหรับ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมแต่งงานยอดนิยมในบริเวณย่านถนนสาทร เพราะที่ตั้งอยู่ระหว่างแยกสุรศักดิ์ – แยกช่องนนทรี ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานและสถานทูตหลายแห่ง โดยภายในโรงแรมมีห้องจัดเลี้ยงที่มีสไตล์ตอบโจทย์คู่บ่าวสาวยุคใหม่ได้อย่างดีเลยทีเดียว เพราะแต่ละห้องมีพื้นที่กว้าง ตกแต่งเรียบง่าย เน้นสีเอิร์ธโทนแบบโมเดิร์น ช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลายแก่บรรดาแขกที่มาร่วมงานได้ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันให้เลือกทั้งแบบ Indoor และ Outdoor โดยสามารถรองรับจำนวนแขกได้สูงสุดถึง 600 ท่าน ครับ

 ราคาแพ็คเกจงานพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 40,000 บาท
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 1,000 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบจาก : Mcsiri Photography

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 0-2210-8100 ต่อ 7315
• อีเมล : wedding@eastingrandsathorn.com
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/EastinGrandHotelSathorn
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/4YS3gCVM2Bm

โรงแรมเอทัส ลุมพินี ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 4 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับย่านมนุษย์ออฟฟิศหลายแห่ง เช่น สาทร, สีลม, วิทยุ ด้วยรถไฟฟ้า MRT ที่เดินจากสถานีลุมพินีไม่ถึง 5 นาทีก็มาถึงตัวอาคารโรงแรมฯ แล้วครับ

สำหรับห้องจัดเลี้ยงภายในโรงแรมฯ มีให้เลือก 2 ห้อง 2 ฟังก์ชัน ในสไตล์โมเดิร์นสุดชิค ซึ่งประกอบด้วยห้อง One80 อยู่บนชั้น 26-27 ของโรงแรม เหมาะสำหรับจัดพิธีหมั้น โดยสามารถมองเห็นวิวย่านพระราม 4 แบบพาโนรามาได้อีกด้วย อีกหนึ่งห้องสำหรับจัดงานเลี้ยงกับ Infinity Room ที่โดดเด่นทั้งเรื่องดีไซน์ห้องและการใช้สอยพื้นที่ โดยภายในห้องมีพื้นที่เป็นรูปตัว L สามารถรองรับจำนวนแขกได้สูงสุด 450 ท่าน ซึ่งตอบโจทย์คู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบเป็นส่วนตัวได้ดีเลยครับ

  ราคาแพ็คเกจแต่งงานเริ่มต้นที่ : 1,000 บาท / ท่าน (ค็อกเทล)

คลิกดูรีวิวโรงแรมเอทัส ลุมพินี เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบจาก : Friday Wedding

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-618-9500 ต่อแผนกเวดดิ้ง
• อีเมล : Lumpini@aetashotels.com
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/AetasLumpini
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/wYr2NZrTWqk

ถนนสีลมเป็นอีกย่านธุรกิจสำคัญแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยบริษัทและห้างร้านต่าง ๆ มีทั้งพนักงานออฟฟิศชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งคู่รักอาจเข้าใจว่า จัดงานแต่งงานในโรงแรมย่านธุรกิจดังอาจมีค่าใช้จ่ายสูงจนสู้ไม่ไหว แต่จริง ๆ แล้วในย่านถนนสีลมมีโรงแรมจัดงานแต่งงานยอดนิยมอย่าง โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม ที่อยู่บริเวณแยกสุรศักดิ์ โดยห้องจัดเลี้ยงของที่นี่มีฟังก์ชันให้เลือกทั้ง Indoor และ Outdoor ซึ่งแต่ละห้องจะมีพื้นที่กว้าง และตกแต่งแบบคลาสสิก สามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 400-800 ท่าน นอกจากนี้ ยังสามารถจัด After Party ให้คู่บ่าวสาวและเพื่อน ๆ ได้เต็มที่กับค่ำคืนพิเศษนี้อีกด้วยครับ

 ราคาแพ็คเกจงานพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 10,000 บาท / 50 ท่าน
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 900 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบจาก : Fahever Photography

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-207-4300
• อีเมล : merryme@holidayinnsilom.com
• เว็บไซต์ : weddinglist/HolidayInnBangkokSilom, bangkoksilom.holidayinn.com
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/uKwz9DzTDWk

โรงแรมนารายณ์ ตั้งอยู่ริมถนนสีลม เป็นสถานที่แต่งงานย่านใจกลางเมืองที่การันตีคุณภาพการบริการจัดงานแต่งงานมายาวนานกว่า 50 ปี ด้วยอาหารจัดเลี้ยงที่มีรสชาติอร่อยจนแขกต้องบอกต่อรุ่นสู่รุ่น โดยภายในโรงแรมฯ จะเน้นการตกแต่งสไตล์ไทยผสมผสานกับโมเดิร์นคลาสสิค เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งงานทั้งแบบเป็นทางการหรือเป็นกันเอง ด้วยห้องจัดเลี้ยงที่มีให้เลือกถึง 3 ห้อง ได้แก่ ห้องนารายณ์ บอลรูม ห้องลักษมี ห้องรัตนโกสินทร์-สุโขทัย ซึ่งจัดได้ทั้งงานพิธีมงคลสมรส (พิธีหมั้น) และงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส สามารถรองรับจำนวนแขกได้ตั้งแต่ 200 – 900 ท่าน

 ราคาแพ็คเกจงานพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 39,000 บาท / 50 ท่าน
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 250,000 บาท / 250 ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมนารายณ์ เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-237-0100 ต่อฝ่ายขายและการตลาด
• อีเมล : sm@naraihotel.co.th
• เว็บไซต์ : weddinglist.co.th/narai-hotel
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/xDN9XGstZZFMBEz48

พอขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมแต่งงานย่านธุรกิจใจกลางเมืองอย่าง “สาทร – สีลม – สุรวงศ์” คู่รักหลายท่านอย่าเพิ่งถอดใจคิดว่าราคาแพงครับ เพราะย่านนี้มีโรงแรมแต่งงานที่มีราคาแพ็คเกจแต่งงานที่จับต้องได้อย่าง โรงแรมตวันนา ที่อยู่บนถนนสุรวงศ์ โดยภายในโรงแรมมีการตกแต่งแบบคลาสสิกสไตล์วินเทจ มีเอกลักษณ์ชัดเจน และภายในห้องจัดเลี้ยงมีพื้นที่กว้าง จึงทำให้ห้องจัดเลี้ยงของที่นี่ตอบโจทย์งานแต่งงานทั้งแบบเป็นทางการและเป็นกันเอง โดยสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 900 ท่าน ครับ

 ราคาแพ็คเกจพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 9,999 บาท
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 750 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมตวันนา เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 0-2236-0361 ต่อ 252, 223, 302, 307 (ทีม Wedding)
• อีเมล : sukritta@tawanabangkok.com
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/TheTawanaBangkok
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/urRxQFkaEmr

โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งโรงแรมแต่งงานในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในที่มีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ และเดินทางสะดวกด้วยทางด่วนจากแยกยมราช โดยจุดเด่นของห้องจัดเลี้ยงที่นี่คือ มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 1,500 ท่าน อีกทั้งการตกแต่งสไตล์คลาสสิกแบบหรูหรา ยังถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญของงานแต่งงานที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ อีกด้วยครับ

 ราคาแพ็คเกจพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 35,000 บาท / 30 ท่าน
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 680 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบจาก : กาลนานเธอ The Wedding

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-628-1111 ต่อ 1256, 1355, 1254
• อีเมล : wedding@princepalace.co.th
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/PrincePalaceHotelBangkok
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/d1PdiCY1zqQ2

ที่ตั้งของ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค อยู่บริเวณย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้ทั้งทางด่วนพระราม 9 ทางด่วนดินแดง และทางด่วนโทลเวย์ ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการเดินทางสะดวกสบายที่ไม่ว่าจะเดินทางจากใจกลางเมืองหรือชานเมืองก็ตาม อีกทั้งโรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งงานแนวเรียบหรู ด้วยดีไซน์ห้องจัดเลี้ยงที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับความโมเดิร์น บวกกับพื้นที่บริเวณโถงด้านนอกที่กว้างขวาง ช่วยให้บรรยากาศงานแต่งงานดูโอ่โถง อีกทั้งยังมีพื้นที่บริเวณริมสระน้ำเป็นอีกทางเลือกสำหรับคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบเป็นกันเองด้วย โดยห้องจัดเลี้ยงของที่นี่สามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 600 ท่าน ครับ     

 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 800 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก : Fahever Photography

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 0-2246-7800 ต่อ 4402 แผนกเวดดิ้ง
• อีเมล : banquet@centuryparkhotel.com
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/CenturyparkHotelBangkok
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/WWgUWwDnVWC2

โรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งโรงแรมแต่งงานที่อยู่ไม่ไกลจากย่านอโศก – พระราม 9 ซึ่งสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT หรือ Airport Rail Link ได้ ส่วนห้องจัดเลี้ยงภายในโรงแรมมีให้เลือก 3 ห้อง 3 สไตล์ในคอนเซ็ปต์คลาสสิกแบบหรูหรา และมีบรรยากาศโอ่โถงด้วยเพดานห้องที่ยกสูง สามารถรองรับจำนวนแขกสูงสุดถึง 350 ท่าน อีกทั้งแพ็คเกจแต่งงานของที่นี่เรียกได้ว่าราคาถูกใจคู่รักที่มีงบไม่สูงมาก และมีบริการครบทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลยครับ

 ราคาแพ็คเกจพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 15,000 บาท
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 850 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบจาก : 4lovewedding

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-718-2000
• อีเมล : sangtawan_sa@avanihotels.com
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/AVANIAtriumBangkok
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/ZvFFBt516RE2

ถนนสุขุมวิทเป็นอีกหนึ่งย่านธุรกิจที่มีโรงแรมแต่งงานหลายแห่ง ซึ่ง โรงแรมวินเซอร์ สวีทส์ สุขุมวิท 20 (Windsor Suites Hotel Sukhumvit 20) เป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีราคาแพ็คเกจแต่งงานที่คู่รักมีงบไม่มากก็จัดได้ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกด้วยที่ตั้งอยู่บริเวณแยกอโศก ใกล้ทั้งสถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT  ส่วนห้องจัดเลี้ยงของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายขนาดถึง 18 ห้อง รองรับจำนวนแขกได้ตั้งแต่ 80 – 1,500 ท่าน โดยแต่ละห้องมีการตั้งชื่อตามอัญมณีต่าง ๆ เช่น เพชรไพลิน ไพฑูรย์ บุษราคัม เป็นต้น 

 ราคาแพ็คเกจพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 24,999 บาท / 30 ท่าน
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 950 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมวินเซอร์ สวีทส์ สุขุมวิท 20 เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก : Bird Eye View Wedding Studio และ Coffee Photo

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 0-2262-1234 ต่อ 1422 – 4
• อีเมล : wayuree@windsorsuiteshotel.com
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/WindsorSuitesHotelSukhumvit20
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/QN1wiQQs2gM2

ถัดมาที่ย่านเอกมัย – พระโขนง ยังมีอีกสถานที่แต่งงานสุดเก๋กับ E88 Bangkok Creative Space สุดเก๋ที่โดดเด่นด้วย Nest Rooftop พื้นที่จัดเลี้ยงบนชั้นดาดฟ้าที่มีรูปร่างวงรีคล้ายรังนก เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการครีเอทงานแต่งงานให้เป็นแนวสร้างสรรค์อย่างไม่เหมือนใคร อีกทั้งภายในพื้นที่จัดเลี้ยงยังสามารถมองเห็นวิวเมืองสุดโรแมนติกย่านถนนสุขุมวิทได้ โดยรองรับจำนวนแขกได้สูงสุด 300 ท่าน ในราคาแพ็คเกจแต่งงานที่พนักงานระดับ Officer สามารถเก็บเงินได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว

 ราคาแพ็คเกจพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 600 บาท / ท่าน (ไม่รวมอาหารกลางวัน)
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 990 บาท / ท่าน

ดูข้อมูลสถานที่และแพ็คเกจแต่งงาน E88 Bangkok เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 086-566-2929
• อีเมล : sales@w-district.com
• เว็บไซต์ : https://www.weddinglist.co.th/E88-Bangkok
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/xDDpTZDnGRE2

โรงแรม SC Park เป็นโรงแรมแต่งงานบรรยากาศรีสอร์ทย่านลาดพร้าว – วังทองหลาง ตั้งอยู่บริเวณทาวน์อินทาวน์ที่เต็มไปด้วยโฮมออฟฟิศหลายแห่ง และเดินทางสะดวกด้วยทางด่วนจากทั้งฝั่งพระราม 9 และรามอินทรา สำหรับห้องจัดเลี้ยงของที่นี่มี 3 ห้องซึ่งทุกห้องจะอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม ทำให้มีบรรยากาศเป็นส่วนตัวด้วยการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน โดยภายในห้องจัดเลี้ยงสามารถรองรับแขกได้สูงสุด 500 ท่าน อีกทั้งราคาแพ็คเกจแต่งงานของที่นี่ยังอยู่ในระดับที่ไม่เกินความสามารถในการเก็บเงินของคู่รัก และมีการบริการในแพ็คเกจที่ยืดหยุ่น สามารถปรับได้ตามความต้องการของคู่รักอีกด้วยครับ

 ราคาแพ็คเกจพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 10,000 บาท
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 730 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรม SC Park เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบจาก : Chetsada Wedding Photographer

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-530-0560 (-79)
• อีเมล : marcom@scparkhotel.com
• เว็บไซต์ : www.weddinglist.co.th/SCParkHotel
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/winXr21Jprt

ถัดจากย่านลาดพร้าว – วังทองหลาง มาต่อที่ย่านรามคำแหงบริเวณแยกลำสาลี ซึ่งมี โรงแรมอเล็กซานเดอร์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่จัดงานแต่งงานที่มีการบริการในแพ็คเกจแต่งงานครบถ้วนในแพ็คเกจเดียว ส่วนห้องจัดเลี้ยงของที่นี่มีให้เลือก 2 ห้อง 2 สไตล์ ซึ่งมีการตกแต่งผสมผสานกันระหว่างสไตล์ไทยกับโมเดิร์น โดยมีพื้นที่สามารถรองรับจำนวนแขกได้สูงสุดถึง 700 ท่าน เลยทีเดียวครับ  

 ราคาแพ็คเกจพิธีเช้าเริ่มต้นที่ 45,000 บาท
 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 600 บาท / ท่าน

ดูรีวิวโรงแรมอเล็กซานเดอร์ เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-715-8888 หรือ 085-111-8329
• อีเมล : info@alexanderhotel.co.th
• เว็บไซต์ : www.weddinglist.co.th/AlexanderHotel
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/P3Bski3tZkP2

สำหรับคู่รักที่กำลังมองหาโรงแรมแต่งงานบริเวณกรุงเทพฯ ชั้นนอก และใกล้สนามบินดอนเมือง โรงแรม Cinnamon Residence ที่อยู่ในย่านถนนวิภาวดีรังสิต และเดินทางสะดวกด้วยทางด่วนโทลเวย์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวครับ เพราะที่นี่มีจุดเด่นเรื่องสไตล์ห้องจัดเลี้ยงแบบโมเดิร์นที่มีบรรยากาศร่มรื่นด้วยสวนขนาดย่อมบริเวณรอบนอก เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่าย บรรยากาศเป็นส่วนตัว และมีแขกมาร่วมงานจำนวนไม่มาก โดยภายในพื้นที่ห้องจัดเลี้ยงรองรับจำนวนแขกได้สูงสุด 200 ท่าน เรียกได้ว่าคู่รักสามารถดูแลและพบปะพูดคุยกับบรรดาแขกได้อย่างทั่วถึงเลยครับ

 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 750 บาท / ท่าน

ขอบคุณภาพประกอบจาก : Naruephat Photography ช่างภาพเชียงใหม่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-941-4360, 089-968-2899
• อีเมล : sales_co@cinnamon-residence.com
• ที่ตั้ง : goo.gl/maps/GYsKULhtgpr

ปิดท้ายลิสต์สถานที่จัดงานแต่งงานฉบับมนุษย์เงินเดือนกันที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ย่านถนนแจ้งวัฒนะ ที่นอกจากจะเป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ เช่น คอนเสิร์ต, งานแสดงสินค้า, งานนิทรรศการ หรืออีเวนต์อื่น ๆ แล้ว ยังสามารถจัดงานแต่งงานได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยฟังก์ชั่นของพื้นที่จัดเลี้ยงที่มีให้เลือกกว่า 10 แบบ ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีหมั้นในห้องที่มีบรรยากาศเป็นส่วนตัว งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอย่างเป็นทางการในห้องบอลรูมขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งงานปาร์ตี้เล็ก ๆ แบบเป็นกันเอง เช่น Hen Night Party, After Party ในห้องอาหารหรือบาร์ Outdoor โดยพื้นที่จัดเลี้ยงทั้งหมดของที่นี่ สามารถรองรับจำนวนแขกได้ตั้งแต่ 50 – 3,500 ท่านเลยละครับ

 ราคาแพ็คเกจงานเลี้ยงเริ่มต้นที่ 820 บาท / ท่าน

ดูรีวิวอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพิ่มเติม

คลิกขอแพ็คเกจแต่งงาน

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก : Boatsciphotography และ Jigcho Photography

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

• โทร : 02-833-5252
• อีเมล : Marketinginfo@impact.co.th
• เว็บไซต์ : www.weddinglist.co.th/WeddingAtIMPACT
• ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/NWQEfmqcBp82

สำหรับข้อมูลค่าใช้จ่ายงานแต่งงานสำหรับคู่รักที่ต้องการจะจัดงานที่โรงแรมเหล่านี้ หากรวมทั้งงานเช้าและงานเย็นด้วยแล้ว ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 – 300,000 บาท และถ้ารวมส่วนต่างที่อยู่นอกเหนือจากแพ็คเกจแต่งงาน เช่น ชุดแต่งงาน ช่างแต่งหน้า ช่างภาพแต่งงาน ถ่ายพรีเวดดิ้ง ฯลฯ แน่นอนว่าคู่รักอาจต้องเก็บเงินเผื่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มเติมด้วย โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะมีเรทราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคู่รักแต่ละท่าน

นอกจากนี้ สำหรับคู่รักที่มีบัตรเครดิตอยู่แล้ว ยังสามารถใช้ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ในการจัดงานแต่งงาน เช่น ผ่อน 0% นาน 6 เดือน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง โดยคู่รักสามารถตรวจสอบข้อมูลโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ของบัตรเครดิตที่ถืออยู่ ณ โรงแรมที่ท่านสนใจจัดงานแต่งงานได้ครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก

  http://www.scb.co.th/th/tips/saving/wedding

  https://www.gsb.or.th/lotto.aspx

  https://www.baac.or.th

  https://money.kapook.com/view131153.html

  https://pantip.com/topic/36369690

  https://pantip.com/topic/36723750

  https://aommoney.com/stories/pajaree/เก็บเงินแต่งงาน-ผู้ชายเก็บคนเดียว-หรือผู้หญิงช่วยหารสอง/478#jcrbf86582

  https://aommoney.com/stories/pajaree/1000-บาท-เริ่มต้นออมทอง/21472#jcrblnhe68

คลิกดูข้อมูลโรงแรมและสถานที่จัดงานแต่งงานทั้งหมด