こんにちは ! คอนนิจิวะค่าทุกคน วันนี้ Weddinglist ต้องขออนุญาตทักทายกันเป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของรีวิวงานแต่งงานที่นำมาฝากทุกคนกันสักนิดนึงค่ะ งานแต่งงานนี้จัดขึ้นที่ “โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok)” โรงแรม 5 ดาว สัญชาติญี่ปุ่น ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านถนนวิทยุนั่นเองค่ะ แถมยังเป็นโอกาสอันดีที่ ‘คุณแน๊ต – คุณซัน’ คู่บ่าวสาวสุดเก๋เจ้าของงานจะมาร่วมแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับงานแต่งงานที่ผ่านมากันแบบจัดเต็มทั้งเคล็ดลับ เทคนิคในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด และการถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านงานแต่งงานครั้งนี้ บอกเลยว่าเป็นประโยชน์ต่อว่าที่คู่บ่าวสาวที่กำลังเตรียมงานแต่งงานหลาย ๆ คู่แน่นอน ดังนั้น พลาดไม่ได้ ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่า



3 สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
- ช่างแต่งหน้า งานแต่งงานของ คุณแน๊ต – คุณซัน จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว มีเวลาเตรียมงานเกือบปีไม่มากไม่น้อยเกินไป คุณแน๊ตเล่าว่าเธอเริ่มต้นจากการจองคิวช่างแต่งหน้าก่อนเป็นอับแรก เป็นเจ้าสาวไม่สวยไม่ได้นะคะบอกก่อน เคล็ดลับการเลือกช่างแต่งหน้าสำหรับคุณแน๊ตคือ การเลือกช่างที่รู้ใจ สามารถดึงจุดเด่นออกมาได้ตรงตามสไตล์ของเราค่ะ
- สถานที่จัดงาน จะแต่งงานทั้งทีอย่าลืมเลือกสถานที่จัดงานให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง และตอบโจทย์ความต้องการของงานได้ที่เราต้องการได้ คุณแน๊ตแอบกระซิบว่าอย่าลืมเผื่อเวลาในการจองด้วยนะคะ เพราะในช่วงที่ฤกษ์ดี โรงแรมจะเต็มเร็วมากกกกก
- ช่างภาพ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คุณแน๊ต – คุณซันอยากให้เตรียมการตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็คือ การหาช่างภาพที่ถูกใจค่ะ เนื่องจากคิวของช่างภาพเต็มเร็วมากเช่นกัน วิธีเลือกก็ดูจากผลงานของช่างภาพที่ผ่านมา ดูว่าเราชอบภาพสไตล์ไหน แล้วอย่าลืมคำนึงถึงจำนวนแขกในงานด้วยนะคะ ถ้าแขกเราเยอะ ช่างภาพน้อยอาจจะทำให้เก็บภาพได้ไม่ทั่วถึงค่ะ

ทำไมถึงเลือกแต่งงานที่ The Okura Prestige Bangkok ?
คุณแน๊ต : “เริ่มต้นมาจากการที่เราทั้งคู่ไม่อยากได้โรงแรมที่เป็น traditional หรือเป็นทางการมากเกินไป อยากให้ดู modern แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงความ classic ซึ่งเราจะพิจารณาจากการตกแต่ง โลเคชั่น และการบริการเป็นสำคัญค่ะ เราชอบสไตล์โดยรวมของ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ทั้งโทนสี และการตกแต่งเข้ากับตัวตนของเราทั้งคู่ อีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องของจำนวนแขกในงานที่กลาง ๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ดังนั้นในแง่ของไซส์ ที่นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์งานของเราได้เป็นอย่างดีค่ะ”

ห้องสวย เพดานสูง ตอบโจทย์ได้ทุกรายละเอียด
อีกหนึ่งจุดเด่นของห้อง Grand Ballroom โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ที่ถูกใจคุณแน๊ต – คุณซันเป็นพิเศษ คือ เพดานที่สูงถึง 9 เมตรค่ะ ด้วยความที่เพดานสูงทำให้บรรยากาศภายในงานแต่งงานของทั้งคู่ดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด ผสมผสานกับรายละเอียดการตกแต่งที่ค่อนไปทาง modern แม้จะดูเรียบ ๆ แต่ก็เก๋ไม่เบา แถมยังง่ายต่อการตกแต่งเพิ่มเติมตามไอเดียของคุณแน๊ตอีกด้วยค่ะ
คุณแน๊ต : “ต้องบอกเลยว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะกังวลเรื่องภาพรวมของงาน เวลาที่แขกถ่ายรูปไปลง social media เราไม่สามารถกะเกณฑ์ได้ว่าเขาจะถ่ายภาพในมุมไหน สิ่งที่เราทำได้คือ ทำให้ทุกรายละเอียด ทุกมุมภายในงานออกมาสวยตรงตามความตั้งใจของเรา”

จัดงานเอง ไม่พึ่ง planner ก็ออกมาเป๊ะได้
ว่าที่คู่บ่าวสาวหลายคู่อาจกำลังลังเลว่าจะจัดงานเอง หรือใช้บริการ wedding planner ดี อยากจะจัดงานเองแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้คุณแน๊ตมีคำตอบสำหรับทุกคนค่ะ
คุณแน๊ต : “ส่วนตัวแน๊ตค่อนข้างเป็นคนละเอียดอยู่แล้ว ไม่เคยคิดว่าจะจ้าง planner ที่ไหนเลยเพราะคิดว่าตัวเราเราย่อมรู้ดีว่าอยากให้งานออกมาเป็นแบบไหนมากที่สุด เริ่มแรกก็กำหนด mood & tone ของงานก่อนค่ะ แล้วค่อยลงรายละเอียดแต่ละจุด ๆ ไล่ไปตั้งแต่ การตกแต่ง, โทนสีชุดของญาติ และเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว แล้วค่อยตามด้วยชุดบ่าวสาว จนเพื่อน ๆ ยังแซวว่าของคนอื่นเตรียมพร้อม จะมา last minuite ที่บ่าวสาวเองนี่แหละค่ะ ฮ่า ๆ”



Budget และ Style สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
คุณแน๊ต : “การจัดงานแต่งงานก็คือ การจัด event งานหนึ่ง ความกลมกล่อมของงานนั้นมาจากสไตล์หรือโจทย์ที่ชัดเจนถึงสิ่งที่เราอยากได้ ส่วน Budget หรืองบประมาณ จะเป็นตัวที่บอกเราว่า เราฝันได้มากน้อยแค่ไหน และอะไรคือความจริง ความท้าย คือ เราต้องมานั่งคิดว่าจะทำยังไงให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการ และยังอยู่ในงบที่เรามีค่ะ ฮ่า ๆ”
ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณแน๊ตยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าหากคิดจะจัดงานเองนั้นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องจัดการให้ดีก็คือ ‘planning’ หรือการวางแผนนั่นเองค่ะ ทุกสิ่งที่เราวางไว้จะต้องดำเนินควบคู่ไปกับระยะเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นควรกำหนด timeline ให้ชัดเจน ส่วนไหนต้องเสร็จเมื่อไร รวมถึงในวันงานคุณแน๊ตแนะนำว่า บ่าวสาวควรมอบหมายคนที่จะมาดูแลในแต่ละส่วนให้ดีค่ะ เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น แขกสะดวกสบาย บ่าวสาวก็แฮปปี้


งานแต่งที่ไม่เหมือนงานแต่งกับคอนเซปต์ ‘Minimal Modern Craft’
มาที่บรรยากาศภายในงานแต่งงานของคุณแน๊ต – คุณซันกันบ้างค่ะ งานแต่งงานของคุณแน๊ต – คุณซัน จัดเป็นแบบ Cocktail สำหรับแขก 500 ท่าน ที่ห้อง Grand Ballroom ของ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ภายในงานก็เต็มไปด้วยบรรยากาศสบาย ๆ มีพิธีการครบถูกใจผู้ใหญ่ แถมยังมี after party ที่สนุกสุดมันส์เป็นไฮไลท์ของงานเอาใจแขกขาแดนซ์ทั้งหลายอีกด้วยค่ะ เสริมทัพความไม่ธรรมดาจากไอเดียของคุณแน๊ต – คุณซันที่ร่วมกันระดมความคิด เลือกคอนเซปต์ และเตรียมงานเพื่อให้งานแต่งงานของทั้งคู่ออกมา perfect เหมือนที่ตั้งใจไว้ค่ะ
คุณแน๊ต : “Minimal Modern Craft คือคอนเซปต์ของงานเราค่ะ เนื่องจากเราชอบอะไรที่มันเรียบ ๆ แต่ต้องมี gimmick อยากให้งานออกมาดูสนุกสนาน ไม่เน้นดอกไม้ เพราะเราไม่ชอบ และคู่เราก็ไม่เหมาะกับความหวานเท่าไร งานแต่งของเราจะต้องออกมาไม่เหมือนงานแต่งงานจ๋าค่ะ”


ะ.
ในช่วงงานเลี้ยงคุณแน๊ตสวมชุดเจ้าสาวสีขาวอมเทาดีไซน์แปลกตา แตกต่างจากชุดเจ้าสาวอื่น ๆ ซึ่งคุณแน๊ตเล่าให้ฟังว่า ชุดนี้สืบเนื่องมาจากความต้องการที่ไม่อยากให้งานแต่งงานออกมาเหมือนงานแต่งมากเกินไป ดังนั้นชุดเจ้าสาวก็จะต้องเข้ากันด้วย มาในคอนเซปต์ bride not a bridal นั่นเองค่ะ ได้รับการออกแบบ และตัดเย็บอย่างใส่ใจจาก Vatit Itthi
.
ชุดสูทของเจ้าบ่าวก็ไม่น้อยหน้านะคะ การันตีความเนี้ยบ ตัดเย็บแบบ tailor made สุด ๆ จากร้านโปรดในดวงใจของคุณซันอย่างร้าน Praise นั่นเองค่ะ แม้จะมีเวลาตัดแค่ 3 สัปดาห์แต่ทางร้านก็ทำออกมาได้เป๊ะ แทบจะไม่ต้องแก้กันเลย

The Okura Prestige Bangkok โรงแรมที่เหมาะกับ After Party แบบสุด ๆ
ต้องย้อนกลับไปถึงอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณแน๊ต – คุณซัน ตัดสินใจเลือกแต่งงานที่ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ก็เพราะที่นี่เป็นโรงแรมเพียงไม่กี่ที่ในกรุงเทพฯ ที่ให้ระยะเวลาจัด After Party แบบเต็มที่ไม่ต้องต่อเวลาเพิ่ม การมี Party สนุก ๆ ไว้ในงานแต่งถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ค่ะ งานแต่งงานไม่จำเป็นต้องมีแค่ความโรแมนติกเสมอไป อยากให้งานออกมาแบบไหน Weddinglist มองว่าขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของบ่าวสาวแต่ละคู่มากกว่า



ในช่วงเวลา After Party นั้นคุณแน๊ตเล่าว่าเป็นช่วงที่สนุกสุด ๆ ไปเลยค่ะ ตอกย้ำความ craft อย่างที่ตั้งใจ จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง ทำให้บ่าวสาว และแขกที่มาร่วมงานได้สุดเหวี่ยงไปกับการย้อนวันวาน มีวงดนตรีจาก The Cassette Music Bar Ekamai มาเล่นให้ฟังกันแบบสด ๆ ถึงขนาดที่ว่าจบงานแล้วยังมีเพื่อน ๆ ของคุณแน๊ตบอกว่าอยากให้จัดอีก เพราะอารมณ์สนุกยังค้างกันอยู่เลยค่ะ ท่าทางจะสนุกจริง ๆ

Service ดีเยี่ยม คลายทุกความกังวล
เนื่องจากทั้งคู่ให้ความสำคัญกับอาหาร และการบริการเป็นอย่างมาก ในฐานะที่เป็นโรงแรม 5 ดาว โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ก็ไม่ทำให้คุณแน๊ต – คุณซันผิดหวังค่ะ ก่อนวันงานก็เปิดโอกาสให้คู่บ่าวสาวเข้ามาชิมอาหารสุดพรีเมี่ยมก่อนได้ แถมยังเป็นการชิมแบบจัดเต็ม อาหารเหมือนในงานเป๊ะ ๆ อีกด้วยนะคะ
คุณแน๊ต : “งานของเราเลือกจัดเป็นแบบ cocktail ซึ่งเมนู cocktail ของ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok นั้นอร่อย และ portion ใหญ่กว่าทุกที่ที่เคยเห็นมา วันงานอาหารก็เพียงพอแบบไม่มีขาด แถมแขกก็ยังชมว่าอาหารอร่อยมากค่ะ”

“ทีมงานใส่ใจ ทุกอย่างออกมาดี ประทับใจทุกคน”
เมื่อพูดถึงความประทับใจ คุณแน๊ตได้กล่าวผ่าน Weddinglist ว่าทุกอย่างออกมาเหมือนกับภาพที่วาดไว้ในใจเลยค่ะ ทั้งภาพรวมของงาน การบริการจากทีมงานของ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ทุกคน แขกที่มาร่วมงานต่างก็ได้รับความประทับใจกลับไป ทำให้เจ้าของงานแฮปปี้ แถมยังมีภาพ selfie กับแขกทุกคนในงานแบบ hall shot เรียกได้ว่าภาพ scene แห่งความทรงจำที่น่าประทับใจจริง ๆ ค่ะ เห็นแล้วรู้สึกอย่างแต่งงานขึ้นมาเลยทีเดียว


“ถ้าคุณชอบความ modern classic
ความพอดีของสถานที่สำหรับแขกผู้ใหญ่ และแก๊งค์เพื่อน
เดินทางสะดวก อยู่ใจกลางเมือง ใกล้ BTS
อาหารดี after party ได้ยาวนาน
โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ตอบโจทย์ค่ะ”


เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับงานแต่งงานของคุณแน๊ต – คุณซันที่ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ถูกใจกันมั้ยเอ่ย ? อย่าลืมเก็บเกี่ยวไอเดีย และคำแนะนำจากคุณแน๊ต เจ้าสาวสุดเก๋ของเราไปด้วยนะคะ บอกเลยว่ามีประโยชน์ และใช้ได้จริงค่ะ ยังไง Weddinglist ก็เอาใจช่วยนะคะ ขอให้งานแต่งงานของทุกคนออกมาสมบูรณ์แบบตามที่ตัวเองหวังไว้กันทุกคนเลยค่า
- Decoration : Summer sunde’ | ANOTHER Sunde’
- ทีมรันคิว : Toon June wedding organize
- Bride’s Reception Dress : VATIT_ITTHI
- Groom’s Suit : Praise
- Make up Artist : Luxury Makeup by Treephipat ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวมืออาชีพ
- Photographer : the tohng | numchoks | nawaphon_present
-
After Party Live Band : The Cassette Music Bar Ekamai
