สัมภาษณ์ช่างภาพแต่งงาน sitphotograph 42

Weddinglist พาคุยกับผู้ชายขายบริการทางภาพกับช่างภาพแต่งงาน พี่สิท Sitphotograph


“คุณจะเป็นช่างภาพแต่งงานแบบไหนก็ได้ แต่คุณต้องจำไว้เสมอว่าเราคืออาชีพบริการ “

ประโยคเด็ดจาก พี่สิท สิทธิโชค สุระตโก เจ้าของแบรนด์ sitphotograph ผู้เป็นช่างภาพแต่งงานที่มีชื่อเสียงระดับต้นของประเทศไทย เป็นพี่ที่น่ารักของช่างภาพรุ่นน้อง เป็นครูของช่างภาพหน้าใหม่ ซึ่งผลงานของพี่สิทจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยสไตล์การจัดวาง Composition ที่ลงตัว โดยสามารถสื่อความหมายและถ่ายทอดอารมณ์ของภาพได้อย่างชัดเจน แต่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าที่พี่สิทจะเป็นที่ยอมรับในวงการช่างภาพแต่งงานและบรรดาคู่บ่าวสาวได้ใช้บริการ

บทสัมภาษณ์ต่อไปนี้จะบอกเล่าประสบการณ์การทำงาน การถ่ายภาพของพี่สิท ที่ผ่านการลองผิดลองถูกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก SITPHOTOGRAPH ช่างภาพผู้เป็นที่รักของลูกค้าที่เคยได้ใช้บริการแล้วบอกต่อถึงความประทับใจกับความสุภาพ สุขุม พูดน้อย เป็นที่รักของลูกค้าและพี่ ๆ น้อง ๆ ในวงการช่างภาพแต่งงาน

345 53

ก่อนจะเป็น Sitphotograph

หลังจากเรียนจบปริญญาตรี พี่สิทได้เริ่มต้นทำงานที่บริษัทเอกชน ก่อนที่จะสอบเข้ารับราชการในหน่วยงานผังเมือง ซึ่งพี่สิทเล่าให้เราฟังว่า การทำงานหน่วยนี้ต้องเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศอยู่เป็นประจำ ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องถ่ายรูปจึงจำเป็นต้องมีกล้องถ่ายรูปเล็ก ๆ ไว้คอยบันทึกประกอบรายงานและนอกจากนี้พี่สิทเองก็็ชอบการถ่ายภาพสถานที่แปลกใหม่ เนื่องจากการทำงานที่ได้เดินทางไปทำงานต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ จนรู้สึกซึมซับและชอบการถ่ายภาพมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรับราชการไปได้สักพัก ก็เริ่มรู้สึกว่า จะต้องพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ในระดับที่สูงกว่านี้เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพในอนาคต พี่สิทจึงขอลาศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาการวางผังเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ระหว่างที่เรียน พี่สิทเห็นเพื่อนที่เรียนป.โทด้วยกันมีกล้อง DSLR ซึ่งมีคุณสมบัติถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ โดยพี่สิทเล่าให้เราฟังว่า

“ตอนนั้นเห็นเพื่อนถ่ายภาพออกมาแล้วอึ้ง คือแบบต้องถ่ายยังไงถึงจะได้หน้าชัดหลังเบลอแบบนี้ และอีกหลายคำถามที่อยากรู้ อยากถ่ายสวยเหมือนเพื่อน ผมก็เลยไปซื้อกล้อง DSLR รุ่นเล็กสุด ณ ตอนนั้น (Nikon: D40x) มาฝึกฝีมือกับเขาด้วย”

พอซื้อมาแล้วก็ได้มีโอกาสถ่ายภาพตอนออกทริปกับเพื่อนในยามว่าง โดยส่วนใหญ่แล้วพี่สิทจะชอบถ่ายภาพ Landscape, Cityscape, Architecture และ Street Life

ตัวอย่างภาพถ่ายพรีเวดดิ้งบางส่วน ซึ่งเน้นฉากหลังกับการจัดวางองค์ประกอบภาพ
และถ่ายทอดความเป็นตัวตนของพี่สิทได้อย่างชัดเจน

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 68
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 1
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 48
sitphotograph056
sitphotograph065

หลังจากที่ซื้อกล้องตัวแรกมาฝึกฝีมือได้ประมาณ 1 ปี พี่สิทก็เริ่มจริงจังกับการถ่ายภาพมากขึ้นจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มงอกเงย ด้วยรายได้ที่ได้รับเงินเดือนจากราชการและต้องส่งตัวเองเรียนต่อนั้น การซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพแต่ละชิ้นจึงเป็นไปได้ยากมาก จึงมองหาช่องทางที่จะสร้างรายได้จากอุปกรณ์ที่มีอยู่ โดยเริ่มรับงานถ่ายภาพงานรับปริญญาเป็นงานแรก พอรับงานมาได้เกือบปี ก็มีคนมาติดต่อให้ไปถ่ายภาพงานแต่งงาน ซึ่งก็มาจากครอบครัวของน้องบัณฑิตคนหนึ่งที่พี่สิทเคยถ่ายงานรับปริญญาให้ น้องบัณฑิตไปบอกต่อว่า “ช่างภาพที่เคยถ่ายน้องเค้าถ่ายสวยนะ ลองติดต่อไปดูสิ”  ครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของพี่สิทที่เข้ามาในวงการช่างภาพแต่งงาน

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 35

มองแบบช่างภาพสถาปัตย์

วิธีการคิดก่อนเริ่มต้นการทำงานเป็นช่างภาพแต่งงานอาชีพ

” Composition, Vision และ Balance เป็นสิ่งที่ซึมซับและคุ้นเคยตลอด จึงนำมาต่อยอดกับงานถ่ายภาพ นอกจากเรื่องการถ่ายภาพแล้ว ตอนที่ผมตัดสินใจลาออกจากราชการ ผมก็วางแผนรับความเสี่ยงเป็นลำดับขั้นตอนเลยว่า ลาออกแล้วต้องมีทุนรองรับเท่าไหร่ ใช้เวลาแค่ไหน, ควรมีรายได้เท่าไหร่   ต้องใช้เวลากี่ปี ถึงจะเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้า, ตั้งใจว่าจะเกษียณตัวเองเมื่อไหร่ ฯลฯ กระบวนความคิดที่เป็นระบบ มีลำดับขั้นตอน ก็ได้จากการเรียนเหมือนกัน อันนี้ถ้ามีใครคิดจะออกจากงานประจำไปทำฟรีแลนซ์ ก็เอาไปปรับใช้ได้นะ “

ตัวอย่างภาพถ่ายงานแต่งงาน ซึ่งมีเอกลักษณ์ชัดเจนเรื่องการจัดวาง Composition ที่สมดุลและสบายตา

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 4
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 5
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 49
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 29
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 47
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 7

Sitphotograph ในฐานะช่างภาพแต่งงาน

พี่สิทเล่าถึงความรู้สึกตอนที่ได้ถ่ายงานแต่งงานครั้งแรก

“เหมือนเด็กน้อยที่หลงเข้าไปในกลุ่มคนแปลกหน้า รู้สึกกังวลไปหมด เพราะไม่รู้จักใครในวงการเวดดิ้งเลย”

พี่สิทผ่านจุดนั้นมาได้เพราะรู้จักลองผิดลองถูกในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งหลักการถ่ายภาพ การเลือกช่วงจังหวะในพิธีการที่เหมาะสม มุมกล้อง  การจัดวางองค์ประกอบ การจัดแสง เทคนิคอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งขั้นตอนการลำดับพิธีการภายในงานแต่ง พี่สิทก็หาข้อมูลจาก Google กับใช้วิธีครูพักลักจำจากเพื่อนช่างภาพด้วยกัน ก็ช่วยให้ผลงานพัฒนาได้มาก มีผลตอบรับจากลูกค้าที่ดีขึ้น และมีคนมาจ้างให้ไปถ่ายงานแต่งงานอย่างสม่ำเสมอ

“ ช่างภาพรุ่นใหม่ ๆ ถือว่าโชคดีมากที่ปัจจุบันมีสื่อโซเชียลต่าง ๆ ทำให้เข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น ไม่เข้าใจหรือสงสัยอะไรก็สามารถสอบถามกันได้ง่าย ผิดกับสมัยที่ผมเริ่มถ่ายงานเวดดิ้งใหม่ ๆ ที่ต้องเรียนรู้ทุกอย่างเอง ไม่มีใครมาคอยสอนหรือให้สอบถาม “

ตัวอย่างภาพถ่ายงานแต่งงาน Black & White

sitphotograph003
sitphotograph023
sitphotograph008
sitphotograph009
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 63
sitphotograph058
sitphotograph042

“พอผมรับงานเวดดิ้งมาได้เกือบ ๆ จะสองปี ทุกอย่างเริ่มลงตัว ปริมาณลูกค้าก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับเป็นช่วงที่เรียนจบปริญญาโทพอดี และกลับมารับราชการที่เดิม ทีนี้ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเพราะเวลาของงานทั้งสองด้านเริ่มจะไม่ลงตัว หากทำงานประจำไปด้วยและรับงานถ่ายภาพไปด้วย ตัวผมเองคิดว่าคงไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพใดอาชีพนึงได้เลย”

สุดท้ายพี่สิทจึงตัดสินใจลาออกจากราชการหลังจากที่ใช้ทุนปริญญาโทครบแล้ว และมาเป็นช่างภาพแต่งงาน sitphotograph ที่ถ่ายทั้งงานแต่งงานและพรีเวดดิ้งอย่างเต็มตัวจนถึงทุกวันนี้

345 40

เริ่มจาก “สอง” ของการสร้างทีม

ลองคิดดูว่า จำนวนแขกภายในห้องจัดเลี้ยงที่ไม่ต่ำกว่าหลักร้อย กับช่างภาพ 1 คนที่ต้องเก็บภาพทุกส่วนของงานแต่งงานที่มีแค่ครั้งเดียวนั้น ย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดและไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้ พี่สิทจึงได้เล่าให้ฟังว่า ทำไมช่างภาพแต่งงานต้องมีมากกว่า 1 คน

“ผมเริ่มสร้างทีมจากที่มีกันแค่สองคนคือ ตัวผมกับปิงปอง (PINGPONG Photography : คนนี้คือ เพื่อนในห้องเรียนที่จุดประกายให้ซื้อกล้อง) ผู้ช่วยก็ไม่มี รถยนต์ก็ไม่มี ตอนรับงานต่างจังหวัดยังจำภาพที่ต้องช่วยกันขนอุปกรณ์ขึ้นรถทัวร์ได้ดี  เราทำงานเป็นบัดดี้ คนหนึ่งเป็นช่างภาพหลัก อีกคนหนึ่งเป็นช่างภาพแคนดิต ก็เรียนรู้ประสบการณ์จากหน้างานไปเรื่อย ๆ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ จนถึงจุดที่ปริมาณงานของตัวเองต่างเริ่มมากขึ้นจึงแยกตัวออกไปรับงานของตัวเอง และต่างสร้างทีมของตัวเองขึ้นมา”

ตัวอย่างภาพถ่ายงานแต่งงาน (Candid)

sitphotograph016
sitphotograph052
sitphotograph072
sitphotograph062
sitphotograph038
sitphotograph061

” ประกอบกับงานถ่ายภาพงานแต่งเริ่มใหญ่ขึ้น ผมจึงต้องเพิ่มทีมงานเพื่อมาสนับสนุนการทำงานตรงนี้ด้วย ลำพังแค่ช่างภาพ 1 – 2 คนอาจทำงานได้ไม่ทั่วถึงทั้งงาน จนตอนนี้ในทีมของผมก็มีกันอยู่ประมาณ 3 – 4 คนแล้ว ประกอบไปด้วย ช่างภาพหลัก ช่างภาพแคนดิด และผู้ช่วยช่างภาพ ทุกหน้าที่ล้วนมีความสำคัญต่อทีม ช่างภาพหลักไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าทีมหรือเจ้าของแบรนด์ แต่ช่างภาพหลักต้องเป็นคนที่มีบุคลิกภาพดี มีไหวพริบดีในการสนทนากับลูกค้าและแขกที่มางาน และที่สำคัญต้องมีความชำนาญ ความแม่นยำในการถ่ายภาพ เพราะภาพที่เป็นทางการเกือบทั้งหมดจะมาจากช่างภาพหลัก เพราะฉะนั้น คนที่จะมาเป็นช่างภาพหลักของทีมจะโดนผมติวเข้มเป็นพิเศษ “

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 61

เทคนิคการถ่ายภาพของ sitphotograph

” จริง ๆ เทคนิคการถ่ายภาพไม่มีสูตรตายตัวเลย ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนถ่ายทั้งนั้น  เมื่อก่อนด้วยความที่ผมชอบถ่าย Landscape ภาพงานแต่งงานในช่วงแรก ๆ จะเป็นภาพมุมกว้าง เน้นองค์ประกอบที่มีคนอยู่ในเฟรมภาพ แต่พอได้สังเกตุที่คนแล้ว ตรงนี้แหละคือการสื่อสารที่สำคัญที่สุดของภาพถ่ายงานแต่งงาน ซึ่งอยู่ที่อารมณ์ของคนที่เรากำลังจับ ณ ตอนนั้นว่า สื่อความหมายได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งนอกจากจะต้องสังเกตคู่บ่าวสาวเป็นหลักแล้ว แม้แต่แขกท่านอื่น ๆ ที่อยู่ในเฟรมภาพ เช่น พ่อแม่ ญาติคู่บ่าวสาว หรือเพื่อน เราก็ต้องสังเกตควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ภาพที่ออกมาสามารถถ่ายทอดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ดี เล่าเรื่องได้หลากหลายมุมมองและมีอารมณ์ร่วมกับคนดู  เพราะจริง ๆ แล้วการแต่งงานเหมือนเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของครอบครัวที่ทุกคนจะได้ประทับใจร่วมกัน “

ตัวอย่างภาพถ่ายงานแต่งงาน (มุม Closed-Up)

sitphotograph017
sitphotograph014
sitphotograph050
sitphotograph022

ตัวอย่างภาพถ่ายงานแต่งงาน (มุมกว้าง)

sitphotograph015
sitphotograph010
sitphotograph027
sitphotograph070
sitphotograph057

พอพูดถึงภาพมุมกว้าง จริง ๆ แล้วเป็นมุมที่ถ่ายค่อนข้างยากเพราะมีองค์ประกอบในภาพมาก ขณะเดียวกันถ้าหากว่าจัดองค์ประกอบภาพไม่ดี จะทำให้ไม่เห็นใจความสำคัญของภาพ และถ้าเลือก Persepctive (มุมก้ม, มุมเงย, มุมระดับสายตา) ได้ไม่ดี ก็อาจทำให้ความหมายของภาพเปลี่ยนได้เช่นกัน ซึ่งในงานแต่งงาน 1 งานควรจะประกอบด้วยภาพมุมกว้างไม่เกิน 10% ของจำนวนภาพทั้งหมด เพราะสามารถใช้เล่าเรื่องราวแบบภาพรวมได้ดี

sitphotograph028

หน้าที่ในหน้างาน

ด้วยความที่งานแต่งงานเป็นงานถ่ายภาพที่จบในครั้งเดียว พี่สิทบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดของงานแบบนี้คือ เราจะสนิทใจกับคู่บ่าวสาวได้มากน้อยแค่ไหน ภายใต้เวลาที่มีจำกัด เพราะความสัมพันธ์กับลูกค้าย่อมมีผลต่องานที่ออกมาแน่นอน

“พอไปถึงหน้างาน ตัวผมเองต้องไปพบคู่บ่าวสาว เพื่อเก็บภาพเบื้องหลังตอนที่คู่บ่าวสาว แต่งหน้า แต่งตัว ในระหว่างนั้นย่อมมีโอกาสที่ได้พูดคุยกัน เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้แก่คู่บ่าวสาวก่อนเริ่มงานให้ได้มากที่สุด เพราะส่วนมากช่างภาพจะมีโอกาสได้พบหน้าค่าตาคู่บ่าวสาวแค่ครั้งเดียวคือที่หน้างาน ซึ่งการได้พบปะพูดคุยกันแบบ Face to Face จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างช่างภาพกับคู่บ่าวสาวได้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยติดต่อกันทางโทรศัพท์หรือแชทแล้วก็ตาม”

sitphotograph026

หน้าที่หลัก ๆ ของผมคือดูภาพรวมภายในงานทั้งหมด ซึ่งการประสานงานกับส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของช่างภาพ เช่น พิธีกร ออแกไนเซอร์ หรือแม้กระทั่งแขกที่เป็นญาติ หรือเพื่อนคู่บ่าวสาว จะช่วยให้ทีมช่างภาพทำงานได้ราบรื่นตลอดทั้งงาน แต่ทั้งหมดนี้ ช่างภาพต้องสอบถามคู่บ่าวสาวก่อนว่า ใครดูแลส่วนไหน ช่างภาพก็ไปติดต่อส่วนนั้น เพราะคู่บ่าวสาวจะต้องรอรับแขกที่ด้านหน้าทางเข้างานอย่างเดียว ไม่มีโอกาสได้มาบอกงานกับคนอื่น ๆ แล้ว

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 12

“งานพิธีเช้า” ก็สำคัญไม่แพ้ “งานเย็น”

งานพิธีมงคลสมรสช่วงเช้า ส่วนใหญ่จะมีแขกเฉพาะครอบครัวและเพื่อนสนิทไม่เกิน 100 – 150 ท่าน เหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะเก็บภาพบรรยากาศได้ทั่วถึง แต่พี่สิทบอกว่า แขกน้อยก็ใช่ว่าจะถ่ายง่ายเสมอไป

ผมว่าถ่ายงานเช้ายากกว่าถ่ายงานเย็นนะ คืองานพิธีเช้านอกจากจะเป็นงานครอบครัวแล้ว ยังเป็นงานชุมนุมของเหล่ากูรูด้วย ทั้งคุณตา คุณยาย อาอี๊ อาม่า และอีกหลายท่านที่มาช่วยกันจัดแจงงานแล้วบอกว่า ต้องจัดของ ทำตามลำดับขั้นตอนแบบนี้ ยิ่งมากคนก็มากความจนเล่นเอาสับสนได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นงานที่มีออแกไนซ์หรือเวดดิ้งแพลนเนอร์คอยจัดแจงให้อยู่แล้ว ก็ถ่ายได้ไม่ยากเลย”

ตัวอย่างภาพถ่ายงานพิธีเช้า (พิธีไทย)

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 64
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 76
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 67
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 32
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 20

“ปัญหาในงานเช้า จริง ๆ มีมากกว่างานเย็นอีก โดยเฉพาะปัญหาที่อยู่เหนือการควบคุม เช่น ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นงานครอบครัว ยังไงก็ต้องมีเด็กมาร่วมงานอยู่แล้ว อย่างตอนที่ถ่ายคู่บ่าวสาวกำลังสวมมงคลหรือเจิมหน้าผาก แต่มีเด็กมาดึงไหล่เจ้าสาว แล้วเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องเก็บภาพให้ได้ในตอนนั้น ก็ต้องตามเหตุการณ์ไปก่อน อย่าไปแสดงอารมณ์ ผมก็ถ่ายช็อตนั้นที่เด็กยังอยู่ในเฟรมภาพไปเลย คิดซะว่า เป็นอีกโมเมนต์หนึ่งของครอบครัวเขาไป แต่ถ้าเราต้องการภาพที่เป็นทางการจริง ๆ ก็ต้องให้น้องเขาออกไปก่อน”

“อีกงานพิธีเช้าที่ถ่ายยากมากคือ งานพิธีในโบสถ์คริสต์ คือในโบสถ์มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ มุม การเคลื่อนที่ภายในโบสถ์ และพิธีคริสต์ค่อนข้างเคร่งเรื่องข้อบังคับต่าง ๆ จนไม่สามารถถ่ายภาพได้ตามที่ต้องการ อย่างตอนพิธีสวมแหวนก็เข้าไปถ่ายมุม Close-up จากด้านหน้าไม่ได้ ก็ต้องถ่ายเป็นมุมกว้าง กับถ่ายจากด้านข้าง และด้านหลังไว้ก่อน แล้วค่อยมาถ่ายซ่อมเจาะหลังเสร็จพิธีอีกที”

ตัวอย่างภาพถ่ายงานพิธีเช้า (พิธีคริสต์)

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 83
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 81

“ลำดับพิธีการสำคัญมากสำหรับงานพิธีเช้า ต่อให้เราทำการบ้านมาแล้ว มันก็ยังเป็นคนละเรื่องกับหน้างานอยู่ดี เพราะฉะนั้นตัวช่างภาพเองต้องถามลำดับพิธีการกับคู่บ่าวสาวให้เรียบร้อยก่อนที่จะถึงวันงาน

“เอาเข้าจริง ๆ ผมชอบถ่ายงานพิธีเช้านะ ถึงจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ก็เป็นงานที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมครอบครัวได้เป็นธรรมชาติกว่า อย่างพิธีการต่าง ๆ เราจะได้เห็นความใกล้ชิดระหว่างคู่บ่าวสาวกับครอบครัวผ่านการไหว้ การกราบ รอยยิ้ม หรือน้ำตา ที่บอกเล่าความประทับใจของครอบครัวนั้น ๆ ได้ 

sitphotograph018

กรุ๊ปช็อต อีกหนึ่งช่วงเวลาที่ไม่ได้ถ่ายด้วยกันบ่อย ๆ แต่มีความหมาย

ที่ผ่านมาเราอาจได้เห็นโมเมนต์กรุ๊ปช็อตในหนังสือรุ่น งานรับปริญญา หรือโอกาสอื่น ๆ หลายคนอาจมองว่า กรุ๊ปช็อตในงานแต่งงานไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเลย แค่ถ่ายรวมกับคู่บ่าวสาวตรงหน้าแบ็กดร็อปก็เพียงพอสำหรับความยินดีแล้ว แต่พี่สิทบอกว่า วันหนึ่งถ้าเราได้ย้อนกลับมาดูภาพแต่งงานแล้วเสียดายทีหลังว่า ตอนนั้นน่าจะถ่ายกรุ๊ปช็อตก็ดีนะ แต่ก็ย้อนเวลากลับไปถ่ายใหม่ไม่ได้แล้ว

“จริง ๆ กรุ๊ปช็อตเป็นช็อตมาตรฐานของงานแต่งงานสากลเลยนะ เรียกว่าสำคัญเท่ากับช็อตในพิธีการเลยก็ว่าได้ แต่ที่ไม่ค่อยได้เห็นภาพกรุ๊ปช็อตในไทยก็เพราะว่า กำหนดเวลางานมักจะไม่ตายตัว ทำให้นัดรวมตัวกันยาก จะนัดถ่ายก่อนเริ่มพิธี เพื่อนบางคนมาสาย ซึ่งกว่าจะรวมตัวกันครบก็ได้ฤกษ์เข้าพิธีไปแล้ว พอจะนัดถ่ายตอนหลังจบงาน ปรากฏว่าเพื่อนบางคนมีธุระกลับไปแล้วก็มี

ตัวอย่างภาพถ่ายกรุ๊ปช็อต

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 40
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 39
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 77
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 74
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 75
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 78
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 79

“พอเริ่มมีภาพกรุ๊ปช็อตในอัลบั้มงานมากขึ้น คู่บ่าวสาวหลายคู่เริ่มมีการนัดหมายช่วงเวลาที่แน่นอนกับเพื่อน ๆ ให้มาถ่ายกรุ๊ปช็อตด้วยกัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่มีจำกัด ถ้าอยากถ่ายกรุ๊ปช็อต ผมขอย้ำว่า ทุกคนต้องตรงต่อเวลา”

“ส่วนเรื่องหลักการมีแค่อย่างเดียวคือ จะจัดวางยังไงให้สมดุล ซึ่งไม่มีสูตรตายตัว แค่ดูภาพรวมแล้วให้เล่าเป็นเรื่องเดียวกันได้ก็พอ ทั้งการเลือกฉากหลัง การจัดวางตำแหน่งคน อาจให้นั่งบ้าง ยืนบ้าง ส่วนการโพสท่าก็ขึ้นอยู่กับไอเดียของช่างภาพแต่ละคนว่า จะสื่อสารออกมาเป็นภาพได้ยังไง”

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 6

อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ

รายละเอียดบางอย่างภายในงานแต่งงาน เช่น ห้องจัดเลี้ยงที่ยังไม่มีแขกเข้ามา สมุดอวยพรคู่บ่าวสาว การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย หรือเด็ก ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นในงาน แม้จะเป็นส่วนย่อยที่คนทำงานอาจมองว่าไม่สำคัญเท่ากับคู่บ่าวสาว แต่สำหรับคู่บ่าวสาวและครอบครัวแล้ว ภาพทุกภาพในงานแต่งงานเอาไปเล่าสู่กันฟังได้

“ถ้าดูอัลบั้มภาพแต่ละงานของผม ผมจะไม่ได้ลงแค่ภาพที่เป็นช็อตหรือโมเมนต์ต่าง ๆ อย่างเดียว แต่จะมีภาพของรายละเอียดส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น แหวน เครื่องประดับ การ์ดแต่งงาน ชุดแต่งงาน รองเท้า และการตกแต่งสถานที่ ผมก็ถ่ายเก็บไว้ เพราะคู่บ่าวสาวเขาก็อยากเก็บความทรงจำทุกอย่างที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ถึงแม้ลูกค้าไม่ได้กำชับส่วนนี้ เราก็ควรทำ เพราะบอกได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คู่บ่าวสาวอาจบอกต่อคนอื่น ๆ ในวันข้างหน้าได้ ประเด็นนี้คนทำงานอาจมองว่า งานแต่งงาน 1 ครั้ง ก็เป็นแค่อีเวนต์ 1 วัน แต่สำหรับคู่บ่าวสาวแล้วคือ งานแต่งครั้งเดียวในชีวิตคู่ของเขาและครอบครัว เพราะฉะนั้นภาพทุกภาพที่คุณถ่าย ย่อมมีคุณค่าสำหรับคู่บ่าวสาวและครอบครัวแน่นอน”

ตัวอย่างภาพถ่ายงานแต่งงาน (สิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน)

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 45
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 44
sitphotograph060
Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 13

สิ่งที่ได้จากการเป็นช่างภาพแต่งงาน

” อย่างที่บอกไปว่า ผมเริ่มต้นเป็นช่างภาพแต่งงานจากศูนย์ที่ไม่รู้จักใครในวงการเวดดิ้งมาก่อน ลองผิดลองถูกมาตลอด การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ ตั้งใจทำทุกงานให้ดีที่สุด หากมีข้อผิดพลาดก็รับผิดชอบและแก้ไขแบบมืออาชีพ อย่าคิดว่าวัดกันที่ผลงานจากหลังกล้องเพียงอย่างเดียว การเอาใจใส่ลูกค้าหรือ Service Mind ก็มีผลที่จะทำให้เราได้งานจากบ่าวสาวคู่ต่อไปด้วยเหมือนกัน เพราะแขกที่มาร่วมงานจะเอาเราไปบอกต่อหรือบอกว่า คนนี้พอเถอะ ก็อยู่ที่การทำงานในหน้างานนี่แหละ “

345 40 1

ขอ 1 คำจาก Sitphotograph สำหรับความเป็นช่างภาพแต่งงานมืออาชีพ

แค่คำว่า “รับผิดชอบ” ผมว่าก็ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว

จงรับผิดชอบต่อข้อตกลงหรือสัญญาที่ทำกัน ไว้กับลูกค้า รับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจ และทำมันออกมาให้เต็มกำลังและดีที่สุด เพราะอาชีพช่างภาพมันสั้นมาก สั้นจนอาจไม่มีโอกาสได้แก้ตัวในงานต่อ ๆ ไปเลยก็ได้

Resize ช่างภาพแต่งงาน Sitphotograh 82

แถมอีกหนึ่งประโยคส่งท้าย

เวลาลูกค้าจะเลือกช่างภาพมาถ่ายงานแต่งก็จะเลือกจากสไตล์งานของช่างภาพที่ชอบ เช่นเดียวกันสไตล์งานของเรานี่แหระที่เป็นตัวคัดลูกค้าที่จะเข้ามา ดังนั้น

“อยากได้ลูกค้าสไตล์ไหน ให้ทำพอร์ตงานสไตล์นั้น” 

พี่สิทอธิบายเสริมว่า บางคนอาจเริ่มต้นจากรับถ่ายภาพทุกอย่าง เช่น งานรับปริญญา งานบวช งานอีเวนต์ ถ่ายสินค้า แฟชั่น และอื่น ๆ ไปพร้อมกันในเวลาเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่จะค้นหาตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องเดินมาถึงจุดที่ต้องเลือกโฟกัสอย่างใดอย่างหนึ่งแบบจริงจัง เหมือนเรียนหมอมา 6 ปีแล้วก็ต้องเลือกต่อเฉพาะทางอีก แม้แต่การถ่ายภาพงานแต่งงาน ก็ต้องชัดเจนเฉพาะทางไปเลยว่า เรานี่แหละคือช่างภาพแต่งงาน ไม่ใช่ช่างภาพสารพัดประโยชน์ เรามีความชำนาญเฉพาะทางในการถ่ายภาพแต่งงาน เป็นการสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นแก่ลูกค้า แต่ก็ไม่ผิดที่จะถ่ายภาพอย่างอื่นด้วย ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องมีการแยกพอร์ตงาน หรือแยกแบรนด์ออกมาให้ชัดเจนเฉพาะทางไป

พอเป็นช่างภาพแต่งงานแล้ว ก็ต้องมีความชัดเจนในสไตล์ของผลงาน ต้องสร้างเอกลักษณ์ จุดเด่น จุดขายให้ชัดเจน สมมุติว่าอยากได้คู่บ่าวสาวสไตล์มินิมอล ก็ต้องกำหนดทิศทางของพอร์ตงานให้ชัดเจนไปเลยว่า ถ่ายภาพสไตล์มินิมอล สไตล์นี้เราถนัด เราก็จะได้กลุ่มลูกค้าตามที่เราต้องการได้ชัดเจนขึ้น

sitphotograph031

นอกจากจะได้เรียนรู้การเป็นช่างภาพแต่งงานจากประสบการณ์ที่พี่สิทได้นำมาเล่าสู่กันฟังแล้ว อีกหลายแนวคิดจากการทำงาน ยังเป็นสิ่งที่ไม่ว่าคุณจะทำงานอาชีพใด ก็สามารถนำไปใช้ได้จริงทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบงาน ที่สามารถกำหนดอนาคตการทำงานของทุกคนได้ สุดท้ายนี้ทางทีมงาน Weddinglist ขอขอบคุณพี่สิท สิทธิโชค สุระตโก หรือ sitphotograph ที่มาแชร์ประสบการณ์ดี ๆ ผ่านทางบทสัมภาษณ์นี้

สำหรับท่านใจสนใจผลงานภาพถ่ายแต่งงาน สามารถดูรายละเอียดช่างภาพเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.weddinglist.co.th/sitphotograph