หากคุณกำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานที่พร้อมเนรมิตทุกภาพฝันให้เป็นจริงได้ดั่งใจและมีทีมงานมากประสบการณ์คอยดูแลตลอดการจัดงาน Weddinglist ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ ( Hotel Nikko Bangkok) โรงแรมสุดหรูสัญชาติญี่ปุ่นย่านทองหล่อค่ะ
สำหรับบทความรีวิวแต่งงานครั้งนี้ Weddinglist ได้รับเกียรติจาก “คุณบุ๊กและเจ้าบ่าว” มาร่วมแบ่งปันภาพวันพิเศษกับเราค่ะ พร้อมกับบอกเล่าถึงเคล็ดลับของการจัดงานแต่งงานและการจัดการในด้านต่างๆ ที่บ่าวสาวต้องเจอและเตรียมพร้อมในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ด้วย รับรองว่ามีประโยชน์ให้ทุกคู่นำไปใช้ได้จริงอย่างแน่นอนเลยและได้ชมความสวยงามของงานและโรงแรมด้วยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปอ่านรีวิวกันเลย

#BUKEWAIBETTERTOGETHER



โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ (Hotel Nikko Bangkok)
โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ ( Hotel Nikko Bangkok) ตั้งอยู่ซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท ที่คุณสามารถเดินทางได้ทั้งขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า (BTS) ลงสถานีทองหล่อและเดินเข้าซอยไปประมาณ 200 เมตรค่ะ หรือรถยนต์ส่วนตัวให้คุณใช้เส้นทางด่วนศรีรัชมาลงยังด่านทางลงเพลินจิต ซึ่งห่างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร ตอบทุกโจทย์ของการเดินทางอย่างแท้จริง
ตอบโจทย์ ตรงใจ @ Hotel Nikko Bangkok
คำถามแรกๆ ที่เรามักถามบ่าวสาวก็คือ เหตุผลหรือโจทย์ในการเลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน สำหรับคุณบุ๊กเธอบอกกับเราว่าอยากได้สถานที่ที่ใหม่ ห้องกว้าง เพดานสูง เพื่อความปลอดโปร่ง ไม่อึดอัดค่ะ จนได้มาเจอกับโรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ แห่งนี้ที่ตอบทุกโจทย์ของทั้ง 2 คนได้อย่างลงตัว

คุณบุ๊ก : “อยากได้ห้องที่เพดานสูงและพอดีเรามีน้องที่เป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วย เขาพาเราไปดูที่ต่างๆ จนมาถึงที่ Hotel Nikko Bangkok ที่นี่ตอบโจทย์มาก เพราะห้องกว้าง ห้องใหม่ และที่สำคัญเดินทางง่ายด้วย ในตอนจัดเลี้ยงเราอยากได้งานที่เป็นแบบโต๊ะนั่ง ไม่ชอบงานที่เป็นโต๊ะยืนแบบบุฟเฟ่ต์หรือค็อกเทล เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีส่วนร่วมกัน ต่างคนต่างยืนเป็นกลุ่มๆ เราเลยเลือกงานที่เป็นโต๊ะนั่งค่ะ พอเราเจอ Hotel Nikko Bangkok ก็ตอบโจทย์ เพราะพอเป็นงานนั่ง เราก็ไม่อยากให้รู้สึกว่าอึดอัด เพดานห้องที่สูงจะช่วยได้”


พิธีหมั้นแบบเรียบง่ายที่อบอุ่นหัวใจ @ ห้อง Sakura
บ่าวสาวจัดงานหมั้นในช่วงเช้าที่เริ่มจากพิธีสงฆ์และจบลงด้วยพิธียกน้ำชาตามธรรมเนียมจีนที่ผสมธรรมเนียมไทยค่ะ บรรยากาศสุดอบอุ่นพรั่งพร้อมด้วยครอบครัวและเพื่อนสนิท งานนี้ครบทุกพิธีการสำคัญ ไม่มีขาดตกบกพร่อง เพราะเจ้าสาวได้ครอบครัวที่น่ารักและทีมงานช่วยดูแลในส่วนนี้อย่างดีเลยค่า
เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้ใช้ออแกไนซ์หรือแพลนเนอร์ไหมคะ ?
คุณบุ๊ก : “จริงๆ เราก็ไม่ได้ใช้ขนาดนั้น เพราะอย่างที่บอกเรามีน้องที่เป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วย เลยเหมือนแบบมีการช่วยกันอยู่แล้วในครอบครัว ช่างภาพเอง ทุกอย่าง ทุกฝ่ายในงานเรารู้จักกันหมดเลย”













งานเลี้ยงฉลองที่อยากให้แขกทุกคนได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจ
งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเริ่มต้นขึ้นในเย็นของวันเดียวกันค่ะ งานนี้เจ้าสาวเล่าว่าไม่อยากมีธีมของงานอะไร ด้วยสถานการณ์ของโควิด-19 ด้วยจึงไม่กำหนด Dress-code เพราะไม่อยากให้แขกทุกคนต้องออกไปเสี่ยงเพื่อหาชุดที่เข้ากับงาน เรียกได้ว่าเป็นความรอบคอบและความเอาใจใส่ที่น่ารักมากๆ เลย คุณบุ๊กและเจ้าบ่าวยังเล่าต่ออีกว่าโจทย์ของงานเลี้ยงของทั้ง 2 คน คือ “จะต้องให้แขกทุกคนอิ่มในงาน ไม่ต้องแวะซื้ออาหารอย่างอื่นก่อนเข้าบ้านอีก
คุณบุ๊ก : “แฟนจะมีโจทย์ คือ อยากให้กินอาหารที่อร่อยและอยากให้ทุกคนอิ่มในงาน ไม่ต้องไปแวะซื้อของกินก่อนกลับบ้านอีก และเรา 2 คนไม่ได้สนใจเรื่องความสวยงามมากขนาดนั้น อยากให้ทุกคนอิ่มและมีความสุขจริงๆ มากกว่า ซึ่งตอนที่ทางโรงแรมมี food tasting สิ่งที่เราคอมเมนต์ไป มีแค่อร่อยมากกับขอน้ำจิ้มเพิ่มได้มั้ยคะ 5555 หมูหันเป็นซิกเนเจอร์ และอาหารในวันนั้นทุกคนชอบมาก เราทั้ง 2 คนมีความสุขและประทับใจมากค่ะ”



“งานเย็นเป็นโต๊ะจีน อาหารอร่อยมากและในตอนสุดท้ายที่จะกลับแล้ว เราประทับใจที่ทุกคนมีถุงหมี่ ถุงอาหารหิ้วกลับบ้านกัน เพราะแสดงถึงว่า อาหารที่เราเลือกให้ทุกคนนั้นอร่อยจริงๆ มีแบบเพื่อนถ่ายรูปกลับมาให้ดูว่า เนี่ย ให้พ่อกับแม่ทานด้วย ท่านก็ชมว่าอร่อย และเรารู้สึกประทับใจมาก ว่าความสุข ความอร่อยที่เราเลือกให้ทุกคนมันส่งต่อไปถึงครอบครัวของทุกคนด้วย”










ทุกคำชม ทุกรอยยิ้ม คือ ความสำเร็จของการจัดงานแต่งงาน
พอได้เห็นว่าบรรยากาศงานแต่งงานของคุณบุ๊กและเจ้าบ่าวทั้งน่ารักและอบอุ่นแบบนี้ เราก็เลยพูดคุยกันไปถึงภาพที่อยากให้เกิดขึ้น รวมไปถึงคิดว่าคุ้มค่าหรือไม่กับการเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ แห่งนี้
คุณบุ๊ก : “งานเราไม่ได้มีพิธีอะไรมากมายที่เป็นงานทางการ เพราะพอเราเชิญแต่คนที่สนิทกัน ครอบครัว เพื่อน เราก็จะรู้สึกสนุก ไม่เกร็ง เพื่อนของพ่อเรา สามารถเดินไปชนแก้วกับเพื่อนเราได้ มันเป็นอารมณ์แบบนั้น ที่เหมือนเชิญคนที่เรารักทุกคนมานั่งทานข้าวร่วมกัน เราชอบมาก”
คุ้มค่าไหมคะ ที่จัดงานแต่งงานที่โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ ?
คุณบุ๊ก : “คุ้มมาก เราคุ้มกับสิ่งที่เราจ่ายและเราได้มา ทั้งคำปรึกษา อาหาร การบริการต่างๆ และแค่ทุกคนชมว่างานแต่งงานของเราน่ารักมาก อาหารอร่อยมาก เท่านี้เราทั้งสองคนก็รู้สึกประทับใจและรู้สึกว่างานเราสำเร็จแล้ว”




สุดท้ายในฐานะที่คุณบุ๊กเป็นเจ้าสาวในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนเดียวที่จัดงานแต่งงานได้ แนะนำหน่อยได้ไหมคะ ว่าตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เครียดมากไหม?
คุณบุ๊ก : “เรามีการคุยกับโรงแรมตลอดเลย โรงแรมดีมาก เค้าบอกตลอดว่าเค้ามีมาตรการรองรับให้เราอย่างไรบ้าง เลื่อนได้นะ ถ้ายังไม่มั่นใจ ค่าใช้จ่ายอะไรค่อยมาว่ากันได้ หรือจะจัดเฉพาะงานเช้าอย่างเดียวก่อนก็ได้ แต่เราค่อนข้างจิตใจเข้มแข็ง 5555 เราก็รอดูและเราก็ยันว่าจะจัด 100 คน 50 คน เราก็จัดเท่าที่จัดได้ และสุดท้ายก็สามารถจัดได้จริงๆ ในตอนนั้นเรามีการพูดคุยกันตลอด ทางโรงแรมให้ความเชื่อมั่น มีมาตรการที่ดี โรงแรมดีมาก ช่วยเหลือเราดีมาก”


“ต้องดูจังหวะจริงๆ ว่าถ้าเราคุยกับโรงแรมแล้วหรือทางโรงแรมมีมาตรการรองรับเราก็ยืนยันไปสุด และถ้าไม่ได้จริงๆ ก็แค่แจ้งโรงแรมกับแขก เพราะแขกเองเค้าก็รู้ตัวและรอฟังอยู่แล้ว ว่าถ้าเราทำอะไรไม่ได้จริงๆ ก็ต้องเลื่อนค่ะ และมันจะง่ายมากๆ ถ้าเรามีโรงแรมและทีมงานต่างๆ ที่พร้อมช่วยเหลือและเป็นมืออาชีพ”



