คุณเคนนี่ : คุณหญิงที่เป็น Wedding Sale น่ารักมาก คือคุณหญิงจัดให้เราหมดเลยนะ แต่ด้วยความที่ว่าเคยเห็นงานแต่งใช่ไหมครับ ที่จะเป็นดอกไม้สีขาว ดอกไม้สีชมพู ผ้าม่านสีชมพู ธีมงานหวาน ๆ น่ารัก ๆ คือมันไม่เข้ากับพวกเราสองคนเลย ผมจึงไปทำการบ้านมาว่าถ้าทำเป็นคอนเซปต์จีน มีอะไรบ้าง เเล้วผมก็นั่งคิด เลยเข้าไปเสริช Google Shopee ปรากฏว่ามีแต่รูปโคมไฟสีแดง มีพัดสีเเดง อยู่แค่ประมาณนี้ เลยคิดในใจ ก็ต้องเอาเป็นพัด โคมไฟ แทนดอกไม้แล้วแหละ สุดท้ายต้องมาช่วยกันทำพัดกันเองครับ เพื่อน ๆ ก็มาช่วยทำด้วย 5555
คุณเจสซี่ : อีกอย่างคือเราไม่ได้ใช้ออแกไนซ์เซอร์เลย ไม่ใช่ว่าเราหยิ่งนะ เเค่รู้สึกว่า เราก็เป็นห่วงออแกไนซ์เซอร์เหมือนกัน ด้วยความที่ตัวเองเป็นคน Detail เหมือนกับว่าเรามีในใจแบบนี้ ถ้าเราจะใช้ออแกไนซ์เซอร์เราต้องมีภาพในหัวให้ชัดเลย แต่ตอนนั้นภาพในหัวเรายังไม่ชัดเราไม่รู้ว่าจะเอาอะไรดี ออแกไนซ์เขาจะมีแบบให้เราสัก 4-5 แบบ และเราต้องมาเลือกอีกที ซึ่งมันเสียเวลา เราจึงไปหาข้อมูลในเน็ตเเล้วก็อยากได้แบบนั้นแบบนี้มาผสมกันเลยดีกว่าในใจผมคิดแบบนั้น เลยตัดสินใจไป Wedding Fair เพื่อมาดูของชำร่วยเจ้านี้ การ์ดเเต่งงาน Photobooth Decoration และ อื่น ๆ พอทำได้เราไปวิ่งหาเองเลย
แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลา และใครที่รู้สึกว่า ไม่สามารถหาข้อมูลได้มากขนาดนั้น ไม่มีเวลาเตรียมตัว เราแนะนำให้มีออแกไนซ์เซอร์ แล้วบอกเขาไปว่า ต้องการอะไรบ้าง อยากได้ธีมแบบไหน แต่สำหรับเราทั้งคู่มีเวลาเตรียมตัวปีนึง ยังพอมีเวลาหาข้อมูล หาร้านต่าง ๆ ได้ครับ
คุณเคนนี่ : แต่การที่เราหา ๆ แต่ละร้านมา รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายจะเยอะกว่า ผมมานั่งคิดทีหลังอยู่ว่าทำไมไม่เอาออแกไนซ์เเต่แรกเลย อย่างเช่น Photobooth ก็14,000 – 15,000 วงดนตรีอีก 10,000 กว่า รวมไปรวมมา เกือบแสน ประมาณนี้ครับ ออแกไนซ์เซอร์ เขาน่าจะมีร้านที่เขารู้จักไว้อยู่เเล้ว ผมว่าเขาได้ราคาที่ถูกกว่าเราไปหามา คือผมไปเอามาอย่างละที่เเลย แต่ออแกไนซ์เซอร์จะได้ในราคาถูกลง เขาจะมาขายเราในราคาที่โอเค ซึ่งอันนี้เป็นการบ้านให้คู่ต่อไปว่าควรจะใช้ออแกไนซ์เซอร์นะ ประหยัดเวลาเเละค่าใช้จ่าย เราจะได้ไม่เหนื่อยมากด้วยครับ