จบม.3 ก็เจ๋งได้ สไตล์ Fullrichbride

“พี่อยากเห็นบรรยากาศสวยๆ ภายในบริเวณบ้านแบบตื่นปุ๊บก็เห็นปั๊บ เพราะพี่เป็นคนติดบ้าน ไม่ชอบไปเที่ยวข้างนอก มันเลยเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราอยากจัดบ้านให้ดูสวยงามโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปหาไอเดียจากข้างนอก แถมต่อยอดเป็นโลเกชันขนาดย่อมให้ลูกค้าเข้ามาถ่ายรูปเก๋ๆ ชิคๆ ได้”

หากพูดถึงตัวเลือกบริการระดับพรีเมียมสำหรับคู่รักที่มีแพลนกำลังจะแต่งงานแล้ว ร้านชุดแต่งงานชื่อดังอย่าง Fullrichbride ย่อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณต้องนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน แล้วเป็นเพราะอะไร Fullrichbride ถึงครองใจบรรดาคู่บ่าวสาวและครอบครัวได้นานหลายปี มุมมองต่างๆ ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเห็นคุณค่าของ Fullrichbride ได้กระจ่างขึ้นโดย คุณตั๊ก ปิยาภัสร์ ค้ำชู ผู้เป็นเจ้าของกิจการชุดคู่บ่าวสาวชื่อดังแห่งนี้

“พี่อยู่ในวงการเสื้อผ้าตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนนั้นพี่สาวเปิดร้านเช่าชุดราตรี ซึ่งทั้งพี่และพี่สาวต้องทำทุกอย่างเองหมดเพราะไม่มีเงินพอที่จะจ้างคนช่วย ตั้งแต่เลือกผ้า ทำแพทเทิร์น ตัด เย็บ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ สุดท้ายผลของการทำซ้ำๆ กันทุกวันมันทำให้เราเริ่มจับทางได้คล่องขึ้นว่าต้องทำยังไง”

“จริงๆ แล้วความฝันของพี่คือการได้ตัดชุดแต่งงาน พอพี่มีประสบการณ์ทำชุดมากขึ้น พี่ลงทุนเปิดร้านของตัวเองเลย ไม่รอ เพราะตอนนั้นที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินหนักมาก แล้วมันเป็นแรงผลักดันให้พี่ต้องฝ่ามันออกไปโดยเร็วที่สุด คุณพ่อก็เสียไปตั้งแต่เด็กแล้ว ส่วนคุณแม่ก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะสนับสนุนเราได้ สิ่งที่พี่มีอยู่ ณ ตอนนั้นคือ ชุดเจ้าสาว 1 ชุดที่ต้องขายให้ได้เพื่อเอากำไรไปต่อยอดเพิ่มต้นทุน จากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสี่ พอลูกค้าสวมชุดแล้วสวยดีก็ไปบอกต่อคนอื่นๆ ว่าชุดร้านนี้สวยดีนะ พี่เลยเริ่มขยายร้านจนเป็น Fullrichbride ในทุกวันนี้” คุณตั๊กเล่าให้ฟังถึงที่มาของร้าน

ไม่มีธุรกิจใดที่ไร้ปัญหาตลอดการเริ่มต้น ถึงแม้ว่าคุณตั๊กเองจะมีประสบการณ์ด้านการทำชุดแต่งงานมาอย่างโชกโชนก็ตาม แต่พอลงมือทำเป็นธุรกิจจริงๆ แล้วพบว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก เรียกได้ว่าต้องนับหนึ่งใหม่เลยทีเดียว

“ลงมือทำทั้งๆ ที่ไม่พร้อมหรือพร้อมแล้วยังไงก็ต้องเจอปัญหาทั้งนั้น อย่างปัญหาแรกที่พี่เจอเลยก็คือ เรามีความรู้เฉพาะด้านเสื้อผ้าอย่างเดียวมันไม่พอสำหรับสมัยนี้แล้ว อย่างเรื่องทำการค้าบนโลกออนไลน์ พี่ไม่รู้เรื่องนี้เลยก็ต้องรวมความกล้าไปถามผู้รู้ว่าทำยังไง อยากจะบอกว่าเรื่องไหนที่เราไม่รู้จริงๆ ถามไปเถอะ เพราะความฉลาดมันเริ่มต้นจากการถามนี่แหละ”

การสร้างธุรกิจให้เป็นรูปร่างว่ายากแล้ว แต่การรักษาธุรกิจให้ยั่งยืนกลับเป็นสิ่งที่ยากกว่าหลายร้อยเท่า เพราะมันไม่ได้จบที่ลูกค้ารับของแล้วแยกย้าย แต่ต้องทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้บอกต่อคนอื่นๆ ให้ได้ว่าธุรกิจของเรามีดีอย่างไร ทำไมถึงเลือกใช้บริการร้านนี้

“ลูกค้าไม่ได้ตัดสินใจเลือกใช้บริการกับ Fullrichbride เพราะหน้าร้านมีชุดสวย ฉากสวยๆ สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง หรือคำพูดสวยหรูที่ได้ยินแล้วรู้สึกดีเพียงชั่วขณะ แต่ลูกค้าเลือกเราเพราะเรามีการจัดการที่เป็นระบบ แบ่งหน้าที่ให้ลูกน้องอย่างชัดเจนเลยว่าใครรับผิดชอบส่วนไหน ทำตรงนั้นให้เต็มที่ไปเลย ไม่มีการทำงานแบบจับฉ่ายหลายหน้าที่ มีการแบ่งโซนสินค้าที่ชัดเจน ชุดเจ้าสาวอยู่ห้องหนึ่ง เครื่องประดับอยู่อีกห้องหนึ่ง แล้วสินค้าทุกชิ้นต้องมีคุณภาพ ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ลูกค้าใช้แล้วต้องไม่มีปัญหา หรือแม้แต่ทางเดินชมห้องชุดหรือสตูดิโอ เราก็ต้องออกแบบผังทางเดินที่ไม่สลับซับซ้อนและใช้เวลาน้อยที่สุด”

“ถ้าพี่เจอลูกค้าไม่มีเหตุผล พยายามเอาเปรียบร้าน ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่าลูกค้าคือพระเจ้าก็ตาม แต่คุณสามารถคัดกรองพระเจ้าที่น่ารักได้ และการทำธุรกิจแต่งงานเราไม่ได้ดูแลเฉพาะพระเจ้าที่เป็นลูกค้าอย่างเดียว แต่ยังต้องดูแลครอบครัวของพระเจ้าถึง 2 ครอบครัว พี่ว่าสู้เอาเวลาไปดูแลบรรดาพระเจ้าที่ดีให้เต็มที่ยังจะคุ้มค่ากว่าเลย เพราะการแต่งงานของหลายคนมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต และต้องเสียเงินไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น คุณภาพที่ออกมาจึงต้องได้เป็นแสนและมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวังไว้ ซึ่งถ้าเรามัวแต่เอาใจพระเจ้าแย่ๆ แต่ไปกระทบความรู้สึกพระเจ้าดีๆ คิดดูว่ามันคุ้มกันหรือเปล่า”

พอจะรู้แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจของคุณตั๊กคร่าวๆ แล้ว ทีนี้มาพูดถึงเรื่องชุดแต่งงานซึ่งเปรียบเสมือนไฮไลท์สำคัญของ Fullrichbride กันดีกว่า

“อย่างแรกที่ต้องรู้ก่อนทำชุดเลยคือศึกษา Anatomy (กายวิภาค) ของกลุ่มลูกค้าให้ละเอียด จะได้รู้ว่า ต้องออกแบบแพทเทิร์นแบบไหน ดีไซน์ชุดต้องเป็นยังไงถึงจะเข้ากับคนที่มีรูปร่างแบบนี้ ไม่ใช่ทำแพทเทิร์นแบบนี้ออกมาแล้วคิดว่าเหมาะกับทุกรูปร่าง ยกตัวอย่างผู้หญิงไทยกับผู้หญิงยุโรป แค่สรีระก็ต่างกันแล้ว แต่ด้วยนิสัยของผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ที่มีค่านิยมว่า นางแบบคนนี้ใส่ชุดนี้แล้วดูสวย เพรียว ฉันใส่ชุดนี้แล้วก็ต้องสวยเหมือนแบบสิ ทั้งๆ ที่นางแบบคนนั้นสูง 190 เซนติเมตรกว่า แต่คุณสูงแค่ 150 เซนติเมตรกว่า ภาพที่ออกมายังไงก็ไม่มีทางเหมือนกับนางแบบคนนั้นเป๊ะๆ อยู่แล้ว ปัญหานี้จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ชุดแต่งงานทุกชุดของ Fullrichbride เลยคือ ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างยังไง ใส่ชุดของเราแล้วต้อง ขาว สูง ผอม”

ประเทศไทยในปีๆ หนึ่งมีงานแต่งงานไม่ต่ำกว่า 300,000 คู่ และมีแนวโน้มว่าตลาดธุรกิจการแต่งงานจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งอำนาจการตัดสินใจเลือกใช้บริการร้านต่างๆ ส่วนใหญ่จะมาจากบนโลกออนไลน์ทั้งสิ้น ทำให้ธุรกิจร้านแต่งงานหลายแห่งเริ่มหาช่องทางใหม่ๆ ให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่เน้นสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น

“พี่ไม่หยุดพัฒนา Fullrichbride เพียงเท่านี้แน่นอน นอกจากมีแผนจะขยายกิจการให้เป็นอาณาจักรเวดดิ้งแบบ One Stop Service คือจากที่เน้นเฉพาะชุดแต่งงานและเครื่องประดับ ก็จะเพิ่มอีกหนึ่งบริการคือ สตูดิโอขนาดย่อมสำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง และในอนาคตจะมีการเลือกชุดเจ้าสาวให้เหมาะสมกับรูปร่าง โดยสแกนรูปร่างผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้การเลือกชุดของคุณดูสนุกขึ้น”

เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคนมักเรียนจบสูงกว่าปริญญาตรี แต่ใครจะเชื่อว่า คนที่สร้างรายได้ให้กับ Fullrichbride ถึง 100 ล้านบาท พร้อมดูแลลูกน้องหลายสิบคนและลูกค้าอีกนับพันคนอย่างคุณตั๊กจะจบแค่ม. 3

“ตอนนั้นพี่อยากเรียนต่อใจแทบขาด แต่ไม่มีโอกาสเพราะช่วงนั้นการเงินที่บ้านเป็นอะไรที่ตกต่ำสุดๆ สิ่งที่พี่ทำได้ในตอนนั้นคือ ใช้สิ่งที่เรามีอยู่และทำได้ดีนำเราออกไปจากความจน แล้วพี่ก็ทำมันได้สำเร็จแล้ว”

“มีหลายคนยึดถือตัวพี่เป็นไอดอลของคนจนแล้วรวย แต่ก่อนที่จะยึดพี่เป็นไอดอล คุณหาพื้นฐานการทำธุรกิจของคุณเจอแล้วหรือยัง สื่อสารกับคนอื่นได้เข้าใจตรงกันแล้วหรือยัง ถ้าทำสองอย่างนี้ได้แล้วก็ลงมือทำเลย แล้วก็อย่ามัวเอาแต่แข่งกับคนอื่น เพราะมันจะทำให้เรากลัวโน่นนี่นั่นไปหมด แล้วเราจะไม่มีวันชนะตัวเองได้เลย ซึ่งการทำธุรกิจที่ได้ผลดีที่สุดคือ เอาชนะตัวเอง ทำตัวเองให้เจ๋ง เป็นตัวของตัวเอง เดี๋ยวสิ่งดีๆ ก็จะมาหาเราเอง และถ้ามีใครมาถามวิชาความรู้ต่างๆ ก็จงเต็มใจให้เขาไป เพราะผลที่จะทำให้เขาได้ดีไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่เราให้ แต่อยู่ที่เขาเอาสิ่งที่เราให้มาลงมือทำจริงได้อย่างไรต่างหาก”

“พี่มองว่ายิ่งคู่แข่งเยอะยิ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเลย เพราะตอนนี้ประเทศไทยกำลังมีปัญหาขาดแคลนช่างฝีมือ ยิ่งพี่ให้ความรู้แก่คนอื่นๆ ไป ถึงคนนั้นอาจเป็นคู่แข่งของเราก็ตาม พี่ไม่แคร์ เพราะพี่ถือว่ามันคือการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย” คุณตั๊กได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเคล็ดลับการทำธุรกิจการแต่งงานสำหรับคนที่สนใจ

การเสียโอกาสทางการศึกษาไม่ได้บอกว่าเราล้มเหลวเลย หากรู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่และตรงกับความชอบที่เราถนัดต่อยอดให้เป็นความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ และทำสิ่งนั้นให้ประสบความสำเร็จ เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งการเรียนรู้ที่เราภาคภูมิใจอย่างไม่สิ้นสุด

ความเจ๋งของ Fullrichbride ที่ทาง Weddinglist นำมาเสนอในวันนี้เป็นเพียงออเดิร์ฟเบาๆ ที่เย้ายวนชวนให้คู่รักได้ไปสัมผัสบรรยากาศของจริง ณ Fullrichbride ซึ่งสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่