สวัสดีว่าที่คู่บ่าวสาวที่กำลังจะแต่งงานและมองหาแพลนเนอร์ที่ถูกใจอยู่ เมื่อคุณเจอร้าน Wedding Studio ที่ถูกใจแล้ว อย่างแรกที่ทำคือต้องดูผลงานของร้านและรีวิวโดยลูกค้าใช่มั้ยคะ โดยเฉพาะรีวิวงานแต่งงานจากคนทั่วไปที่ไม่ใช่ดาราหรือคนดังซึ่งดูน่าเชื่อถือและตรงไปตรงมามากกว่า
วันนี้เราขอนำเสนอประสบการณ์การจัดงานแต่งงานจาก คุณชุติมา โฆษิตชัยวัฒน์ และ คุณกิตติภัทร สิทธิธำรงกุล คู่รักป้ายแดงที่เพิ่งผ่านการแต่งงานได้ไม่กี่เดือน พวกเขาบอกว่าเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากหากให้ร้าน Wedding Studio เป็นคนจัดหาทุกอย่างที่ต้องการ แต่จริงๆ แล้วมันมีรายละเอียดมากกว่าที่เราคิด
ทั้งคู่ใช้เวลาวางแผนจัดงานแต่งงานทั้งหมดถึง 1 ปีเต็มๆ เริ่มต้นจากคิดธีมคอนเซ็ปต์ของงาน ซึ่งได้เป็นธีมแฟนซีมิกซ์กับกรีกโรมัน จากนั้นก็ติดต่อจองสถานที่จัดงานแต่งงานยอดนิยมอย่าง Benedict Studio ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและใกล้เคียงกับธีมหลักมากที่สุด (ต้องจองก่อนวันแต่งงานจริงถึง 1 ปี เพราะที่นี่มีคิวงานแน่นมาก)
การเริ่มต้นวางแผนจัดแต่งงานด้วยการคิดธีมคอนเซ็ปต์และหาสถานที่จัดงานแต่งงานให้ได้ก่อนถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะสถานที่จัดงานแต่งงานจะเป็นตัวตั้งที่จะช่วยให้คุณกำหนดทิศทางรายละเอียดต่างๆ ของงานแต่งงาน เช่น ชุดแต่งงาน อาหารจัดเลี้ยง ฉากและอุปกรณ์ประดับตกแต่งงาน รวมทั้งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการแต่งหน้าทำผม จำนวนแขกที่จะมาร่วมงานให้เป็นไปในทางเดียวกันได้ง่าย ประหยัดเวลาในการวางแผนจัดแต่งงาน และมีเวลาพักผ่อนก่อนเริ่มงานแต่งงานได้มากขึ้นด้วย
ต่อจากนั้นก็เริ่มหาชุดแต่งงาน เครื่องประดับ แพลนเนอร์ ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า จัดเลี้ยงอาหาร ฯลฯ ถามเพื่อนที่แต่งงานแล้วว่าเลือกเจ้าไหนดี เพื่อนก็แนะนำชื่อร้านให้ไปหาข้อมูลต่อในโซเชียล ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องจองคิวล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน (ยกเว้นช่างแต่งหน้าที่ต้องจองคิวล่วงหน้า 1 ปีเพราะช่างแต่งหน้าส่วนใหญ่คิวแน่นมาก)
ทีนี้เราจะมาว่ากันเฉพาะส่วนของ วั น ง า น แ ต่ ง ง า น เพราะคนส่วนใหญ่จะตัดสินใจเลือกใช้ Wedding Studio เจ้าไหนดี ก็อยู่ที่ผลงานที่ออกมาในหน้างานนั่นเอง
ภาพรวมของบรรยากาศงานแต่งงาน
แพลนเนอร์คือทีมควบคุมภาพรวมของงานให้เป็นไปตามธีมของลูกค้า ซึ่งธีมแฟนซีมิกซ์กับกรีกโรมันของพวกเขาจะมีสีแดงเป็นตัวนำธีมโดยใช้ดอกกุหลาบประดับตกแต่งภายในงานแต่งงานเป็นหลัก พวกเขาบอกว่าจุดเด่นของแพลนเนอร์เจ้านี้อยู่ที่ Creative Identity ที่สามารถต่อยอดสิ่งที่เราต้องการให้ออกมาดูหลากหลายและโดดเด่นกว่างานแต่งงานทั่วไป
แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างที่เจ้าภาพหรือแขกอาจมองข้าม แพลนเนอร์ใส่ใจได้ดีใช้ได้เลย เช่น รูปทรงของโต๊ะกับลายผ้าปูโต๊ะที่เลือกต้องสอดคล้องกับธีมงานหลัก รวมทั้งอาหารเลี้ยงแขกก็ต้องเป็นอาหารฝรั่งสไตล์อิตาเลียนเพื่อให้ใกล้เคียงกับธีมหลักมากที่สุด และดีไซน์ของอาหารจะเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำเพื่อให้ทานง่ายและสะดวกต่อแขกร่วมงานด้วย
ตลอดทั้งงานแต่งงาน พวกเขามีปัญหาแค่เรื่องเดียวคือ ไม่ถูกใจของชำร่วยที่แพลนเนอร์จัดหามาให้ ต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกจนใกล้จะถึงวันงานก็ยังไม่ถูกใจซะที พวกเขาจึงต้องหาของชำร่วยเองเลยเพราะใกล้จะถึงวันงานแต่งงานแล้ว และได้ของที่ถูกใจในวันสุดท้ายก่อนวันแต่งงาน นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรในงานแต่งงานเลย
ภาพรวมของผลงานที่ออกมาของแพลนเนอร์เจ้านี้ สำหรับพวกเขาแล้วถือว่าพอใจในระดับค่อนข้างดี คุ้มค่ากับราคาที่เสียไป แต่สำหรับคนมีเวลาเตรียมตัววางแผนจัดงานแต่งงานน้อยอย่างพวกเขาแล้ว มันคือการแลกกับการได้ประหยัดเวลาในการคิดรายละเอียดต่างๆ และเอาเวลาไปทำงานอื่นๆ ได้มากขึ้น
สำหรับผลงานเพิ่มเติมของรีวิวงานแต่งงานครั้งนี้ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่
สถานที่จัดงาน : https://www.facebook.com/Benedictstudio/?fref=ts
แพลนเนอร์, จัดสถานที่แต่งงาน : https://www.facebook.com/Hug-Wedding-Planner-407430452635968
อาหารจัดเลี้ยงงานแต่งงาน : https://www.facebook.com/idocateringparty
ชุดแต่งงาน : https://www.instagram.com/amata_wedding/
เครื่องประดับ : High Link Gems, https://www.facebook.com/Activityone-490001807749203/
รองเท้า : http://www.weddingshoesthailand.com/th/wedding_shoes.aspx
ช่างแต่งหน้า : https://www.instagram.com/nongchat
ช่างภาพงานแต่งงาน : https://www.facebook.com/LerkdeeProduction