Highlight
ถ้าหายป่วยจากโควิด-19 แล้ว ยังมีโอกาสที่จะกลับมาติดเชื้อหรือแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่
โรคโควิด-19 ไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรงที่ถึงขั้นต้องรังเกียจกัน เมื่อผู้หายป่วยออกจากโรงพยาบาลและกลับมาบ้านแล้ว ทุกคนในบ้านยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติต่อไปในมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing)
หลังจากที่หายป่วยและกลับบ้านแล้ว ผู้ป่วยยังคงต้องพักฟื้นต่อที่บ้านเพื่อเฝ้าระวังอาการ อย่าเพิ่งออกไปไหน ให้กักตัวเอง และทำ Social Distancing หรือรักษาระยะห่างจากคนใกล้ชิด 1-2 เมตร อย่างน้อยอีก 14 วัน – 1 เดือน
ช่วงระหว่างพักฟื้น ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น Work from Home, ออกกำลังกาย, รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เป็นต้น
โควิด-19 ไม่ใช่โรคติดต่อประเภทสังคมรังเกียจ เราทุกคนยังอยู่ร่วมกันได้ แต่ต้องไม่ใกล้ชิดกัน
เนื่องจากมีข่าวผู้ป่วยจากโควิด-19 บางคน เมื่อหายดีจนคุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ปรากฏว่าคนในบ้านไม่ยอมให้กลับเข้ามาอยู่บ้านเพราะกลัวผู้ป่วยเอาเชื้อมาแพร่คนในบ้านจนถูกตั้งข้อรังเกียจ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วโควิด-19 เป็นโรคที่ทุกคนสามารถป้องกันได้ แค่รักษาความสะอาดให้ตัวเองบ่อย ๆ และไม่อยู่ใกล้กัน วันนี้เรามาดูแนวทางกันว่า ถ้าในบ้านของคุณมีสมาชิกที่หายป่วยและได้กลับมาอยู่บ้านแล้ว เราควรช่วยเหลือ ปฏิบัติต่อเขาได้อย่างไรบ้าง
โอกาสกลับมาติดเชื้อเมื่อหายป่วย
เนื่องจากในตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อหายป่วยแล้วคือหายขาดไปเลย หรือยังมีโอกาสกลับมาป่วยซ้ำได้อย่างไร เพราะฉะนั้นทุกคนที่หายป่วยและกลับบ้านได้แล้ว จึงยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะกลับมาป่วยซ้ำสองได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าทุกคนยังทำ Social Distancing และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด ความเสี่ยงตรงนี้ก็จะลดน้อยลงครับ
เมื่อกลับบ้านแล้ว จะได้ใช้ชีวิตตามปกติเลยหรือไม่
ถ้ามีคนในบ้านรู้สึกไม่มั่นใจหรือเป็นห่วงว่า เมื่อผู้หายป่วยกลับมาอยู่บ้านแล้วจะมีโอกาสติดเชื้อหรือแพร่เชื้ออีกหรือเปล่า เพราะเชื้อโควิด-19 ในร่างกายของผู้หายป่วยอาจยังไม่หายสนิทและมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้อีก เบื้องต้นแนะนำให้ทำ Social Distancing กับผู้หายป่วยต่อไปอีกอย่างน้อย 14 วัน – 1 เดือน คือผู้หายป่วยกลับมาบ้านแล้วก็ยังต้องกักตัวเอง ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารแยกเพียงลำพัง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงติดเชื้อทุกประเภท
มีกิจกรรมอะไรที่ผู้หายป่วยทำได้เหมือนคนทั่วไปแล้วบ้าง ? ถ้าผู้หายป่วยไม่มีไข้ หรืออาการติดเชื้ออื่น ๆ แล้ว ก็สามารถทำทุกอย่างภายในบ้านได้ตามปกติเลย เช่น ทำอาหาร, ทำความสะอาดพื้นที่กักตัว, Work from home, ดูหนัง ออกกำลังกาย และติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือต้องอยู่ภายใต้การเว้นระยะห่างทางสังคมนั่นเอง
ทุกคนต้องเข้าใจและให้กำลังใจซึ่งกันและกันว่า “เรายังไม่ได้หนีไปไหนนะ เรายังอยู่ข้างคุณ แค่เราต้องห่างกัน เพื่อไม่ให้โรคมันติดต่อกันเท่านั้นเอง”
บทสรุปการพักฟื้น : ต้องสู้ถึงจะชนะ
เหมือนที่คุณหมอหลายท่านได้กล่าวไว้ตามสื่อต่าง ๆ ว่า สุดท้ายแล้วเราจะเอาชนะโรคร้ายนี้ไปได้หรือไม่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่ร่างกายและจิตใจของเราต้องควบคู่ไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของผู้หายป่วยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการที่คุณได้ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่บ้าน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีโอกาสกลับมาติดเชื้อซ้ำสองเสมอไป
ผมขอสรุปแนวทางการฟื้นฟูตัวเองอย่างง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (ควรนอนให้ได้อย่างน้อยคืนละ 8 ชั่วโมง และไม่ควรนอนดึกเกินเที่ยงคืน)
- ออกกำลังกายในบ้านอย่างง่าย ๆ เช่น วิ่งสายพาน ยกดัมเบล กระโดดเชือก ทำคาร์ดิโอ เป็นต้น
- หางานอดิเรกง่าย ๆ ทำแก้เหงา เช่น ทำอาหาร ดูหนัง เล่นดนตรี ปลูกต้นไม้ ประดิษฐ์ของ D.I.Y. เป็นต้น
- คุยกับคนรอบข้างบ้าง จะได้ไม่รู้สึกเหงาจนฟุ้งซ่าน
- พูดคนเดียวก็ได้ แต่ขอให้พูดแล้วได้พลังบวกก็พอ
- ถ้าคุณรู้สึกไม่โอเคกับข่าวสารประจำวัน คุณก็แค่หยุดเสพข่าว สลัดตัวเองออกจากหน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์ หรือมือถือ แล้วไปหาอย่างอื่นทำแทน
การฟื้นฟูทางจิตใจถือว่าสำคัญไม่น้อย เพราะถ้าคุณไม่สามารถควบคุมให้จิตใจสู้ไปด้วยกันกับร่างกายได้ นอกจากคุณจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว ยังจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 รอบสองจากการเดินทางไปพบจิตแพทย์อีกด้วย เพราะฉะนั้น อะไรที่สามารถพยายามด้วยตัวเองในเบื้องต้นได้ ขอให้ลองสู้กับมันดูสักตั้งนะครับ ถึงสู้ไม่ได้ก็ให้ประคับประคองตัวเองจนสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงได้ก็ยังดีครับ