Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 5

ช่างภาพงานแต่งงานอารมณ์ดี Bird Eye View Wedding Studio


คุยกับช่างภาพงานแต่งงานอารมณ์ดี Bird Eye View Wedding Studio

"ช่างภาพแต่งงานไม่ได้ดูแลลูกค้าแค่สองคน แต่เราดูแลลูกค้าทั้งสองครอบครัว
ถ้าตอบโจทย์นี้ได้ เขาจะแนะนำเราต่อไป
เพราะเขามั่นใจว่า เราคือมืออาชีพ"

Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 5

เป็นเวลารวมกว่า 10 ปีที่ช่างภาพคนนี้สั่งสมประสบการณ์การถ่ายภาพแนวต่าง ๆ เริ่มจากที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถ่ายรูปสวย จนปัจจุบันนี้ เขาคือน้าเบิร์ด ทรงวุฒิ พัฒนศิลาพร ช่างภาพแต่งงานอารมณ์ดีแห่ง Bird Eye View Wedding Studio ที่มีว่าที่คู่บ่าวสาวมาว่าจ้างให้ไปถ่ายรูปงานแต่งงานอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นที่ยอมรับในวงการช่างภาพแต่งงานจนถึงทุกวันนี้

งานแต่งเพียงครั้งเดียวในชีวิต ใครคิดว่าความเป็นมืออาชีพไม่สำคัญ บทสนทนากับน้าเบิร์ดต่อไปนี้จะช่วยอธิบายให้ว่าที่คู่บ่าวสาวทุกท่านเข้าใจถึงเหตุผลที่ช่างภาพงานแต่งงานควรเป็นช่างภาพมืออาชีพ หลายคนอาจคิดว่าไม่ว่าจะเป็นช่างภาพระดับไหน รูปงานแต่งงานที่ออกมาสุดท้ายมันก็เหมือน ๆ กัน แต่ความประทับใจที่คู่บ่าวสาวจะได้รับ มันมีมากกว่าการดูรูปแล้วบอกว่า “รูปนี้สวยจัง”

Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 8

“รูปถ่ายงานแต่งงานไม่ได้มีแค่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยากดู พ่อแม่และบรรดาญาติผู้ใหญ่เองก็อยากดูรูปสวยๆ แล้วเอาไปเล่าให้ลูกหลานฟังด้วย” น้าเบิร์ด กำลังจะบอกเล่าที่มาและความสำคัญระหว่างงานแต่งงานกับช่างภาพงานแต่งงานให้ฟัง ท่ามกลางบรรยากาศการพูดคุยแบบสบาย ๆ ภายในร้านชุดแต่งงาน Love Concerto ซึ่งเป็นร้านของคุณอาท ภรรยาของน้าเบิร์ดนั่นเอง

ผลงานภาพงานแต่งงานที่สดใสและชัดเจนทุกรายละเอียดของ Bird Eye View ที่ปรากฏบนสื่อต่าง ๆ เป็นสิ่งที่การันตีถึงประสบการณ์และความน่าเชื่อถือที่ทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวหรือญาติผู้ใหญ่ประทับใจจนต้องบอกต่อ แต่จุดเริ่มต้นการเป็นช่างภาพแต่งงานของน้าเบิร์ดก็ไม่ได้เดินมาถึงจุด ๆ นี้ได้ง่าย ๆ แค่สมัยเด็กไปเที่ยวกับพ่อแม่ก็โดนว่าถ่ายรูปไม่สวย แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้น้าเบิร์ดเปลี่ยนความตั้งใจของตัวเองเลย

“ผมโตมาในยุคที่กล้องคอมแพ็กกำลังฮิต ผมมีอยู่หนึ่งตัว ว่าง ๆ ก็ไปถ่ายรูปแล้วมาตั้งกระทู้โพสต์รูปถ่ายแชร์บนอินเทอร์เน็ต ก็มีคนมาชมว่า ถ้าหัดไปเรื่อยๆ ฝีมือจะไปได้ไกลมากๆ มันเลยเป็นแรงผลักดันให้ผมพัฒนาฝีมือ เริ่มส่งรูปถ่ายประกวดตามงานต่าง ๆ จนได้รางวัลชนะเลิศแทบทุกงาน ที่โดดเด่นที่สุดคือ รางวัลชนะเลิศจากรายการ Asian Fashion Photographer of the Year 2010 จากนั้นเริ่มมีคนรู้จักและมาจ้างให้ผมไปถ่ายรูปงานต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆ แทบจะทุกแนว ทั้งงานรับปริญญา ถ่ายโฆษณา ถ่ายทิวทัศน์ ฯลฯ จนผมตั้งคำถามว่า เรา “สามารถ” ถ่ายรูปได้ทุกแนว แต่เรา “เชี่ยวชาญ” การถ่ายรูปแนวไหนล่ะ สุดท้ายก็ต้องโฟกัสไปที่แนวที่ผมคิดว่า ผมทำได้ดีที่สุด ก็คืองานแต่งงานนี่แหละที่ผมมีประสบการณ์มากที่สุด”

ไอเดียแต่งงาน Birdeyeviewstudio Group Shot6

แล้วถนัดถ่ายงานแต่งวันจริงหรือพรีเวดดิ้งมากกว่ากัน

“ถนัดวันจริงมากกว่า เพราะผมรู้ว่ากำหนดการในวันงานจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ควรและไม่ควรทำอะไรในระหว่างงาน ปัญหาในงานแต่งเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ ทำให้จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าถ่ายพรีเวดดิ้ง ที่ปัญหามักจะเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างสภาพอากาศ เจอพายุฝนทีก็ต้องยกกอง เสียแรง เสียเวลา และเสียความรู้สึกกันหมด ลูกค้าก็ไม่ได้รูปพรีเวดดิ้งสวย ๆ ไปโชว์ในวันงานอย่างที่ตั้งใจไว้”

Birdeyeview รีวิวแต่งงาน72

ถ่ายงานครั้งหนึ่ง คิดถึงตลอดไป

สำหรับความประทับใจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในงานแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินเปิดตัว ตัดเค้ก โยนช่อดอกไม้ หรือแม้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างตอนกราบคุณพ่อคุณแม่ ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เพราะเมื่อผ่านไปแล้วย่อมไม่อาจย้อนกลับมาแก้ไขใหม่ได้ ความสำคัญของช่างภาพแต่งงานจึงอยู่ที่ ต้องไม่พลาดที่จะเก็บช่วงเวลาสำคัญเหล่านั้น ที่อาจเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที แต่ทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวและครอบครัวจดจำภาพแห่งความประทับใจได้ตลอดชีวิต

Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 11
Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 9
Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 10

“แม้แต่ภาพลักษณ์ของตัวช่างภาพหรือทีมเองก็เป็นหนึ่งในโมเมนต์สำคัญของงานแต่งงานด้วย ตรงจุดนี้แหละคือโจทย์สำคัญ เราไม่ได้คิดแค่ว่าถ่ายทุกช็อตของงานแต่งงานให้ครบ จบงานหลังกล้องด้วยภาพสวย ๆ ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวชอบผลงานของเรา แต่ต้องคิดขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งว่า ทำยังไงให้พวกเขาบอกต่อคนอื่น ๆ ให้มาใช้บริการเรา ก็ต้องโฟกัสภาพรวมเป็นหลักไง รักษามาตรฐานให้ดี ตั้งแต่มารยาท การแต่งกาย ตรงต่อเวลา รักษาคำพูด ให้คำแนะนำคู่บ่าวสาวได้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบไม่สะดุด ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ยิ่งรูปงานออกมาแล้วสื่อสารกับลูกค้าได้รู้เรื่อง คือดูรูปแล้วบอกได้ทันทีว่า คนที่อยู่ในรูปคือใคร โมเมนต์ขณะนั้นเขารู้สึกยังไง ดังนั้นรูปถ่ายงานแต่งงานจึงต้องง่าย ใส ชัดเจน ดูแล้วสบายตา ที่สำคัญคือเน้นเห็นคนชัด เพราะลูกค้าไม่ได้ชอบงานศิลปะทุกคน เราจึงต้องทำตามมาตรฐานความต้องการทั่วไปของลูกค้าเป็นหลัก แล้วก็ต้องทำให้ได้ดีสม่ำเสมอด้วย”

Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 13

“ช่างภาพแต่งงานไม่ได้ดูแลลูกค้าแค่สองคน แต่เราดูแลลูกค้าทั้งสองครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่ของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว จะต้องถ่ายรูปให้ดูสวยเป็นพิเศษสุด ๆ ปฏิสัมพันธ์กับญาติผู้ใหญ่สำคัญมาก เราต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเขา ไม่ใช่รอแต่ให้เขามาเรียกถึงจะไปถ่ายรูปให้ มีญาติผู้ใหญ่บางท่านตั้งกำแพงสูงเหลือเกิน แต่สุดท้ายผมผ่านมันมาได้เพราะอดทน และพยายามชนะใจเขาด้วยรอยยิ้ม พูดชมให้เขารู้สึกดีตลอดทั้งงาน แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าผมเป็นมืออาชีพ ทำงานเป็น ไว้ใจได้ เขาก็จะรู้สึกปลื้มและบอกต่อ ๆ กันไปเอง” น้าเบิร์ดอธิบายเหตุผลที่ทำไมคู่บ่าวสาวถึงเลือก Bird Eye View เป็นช่างภาพงานแต่งงานของบรรดาคู่บ่าวสาว

Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 14
Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 12
Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 1

ทุกสถานการณ์ เคลียร์แบบเบิร์ด

หลายคนอาจเห็นภาพความประทับใจในงานแต่งงานแล้วรู้สึกปลื้มปิติ แต่อาจไม่ได้สังเกตว่า ในระหว่างงานมักมีปัญหาแอบแฝงตามช่วงงานต่าง ๆ อยู่ แล้วถ้าปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง ๆ อาจทำให้งานขาดความต่อเนื่องและสะดุดลง ทักษะสำคัญของช่างภาพแต่งงานมืออาชีพจึงไม่ได้มีแค่การกดชัตเตอร์ แต่ยังต้องรู้จักเตรียมพร้อมและแก้ปัญหาได้ทุกสถานการณ์

05 BirdEyeview ช่างภาพแต่งงาน2016 02

“ช่างภาพแต่งงานจะถ่ายงานออกมาดีมีมากกว่าการกดชัตเตอร์เพื่อเก็บโมเมนต์สำคัญนั้น ๆ ได้ทันเวลา แต่ยังต้องศึกษาข้อมูลพิธีแต่งงาน และรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดลำดับเหตุการณ์อะไรในพิธีบ้าง พอสิ่งที่เราทำการบ้านมาตรงกับภาพที่เห็นข้างหน้า ก็จะกดชัตเตอร์ หามุมกล้อง จัดวางองค์ประกอบที่ลงตัวได้อย่างราบรื่น พอแขกผู้ใหญ่เห็นว่าเราจัดการกับปัญหาโน่นนี่นั่นได้ เขาก็จะไว้ใจเราแล้วว่าทำงานเป็น” น้าเบิร์ดอธิบายความเป็นช่างภาพแต่งงานมืออาชีพให้ฟัง

ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจอหน้างานมีอะไรบ้าง

 

“งานแต่งงานเช้ามักเกิดจากความไม่ชัดเจนของพิธีการ โดยเฉพาะในงานที่ไม่มีออร์แกไนซ์หรือแพลนเนอร์มืออาชีพคอยดูลำดับพิธีงานหรือการจัดวางประกอบฉาก  ก็จะทำให้ช่างภาพทำงานยากขึ้น เพราะภาพหน้างานไม่เหมือนกับที่ช่างภาพคิดไว้ อย่างคู่บ่าวสาวจัดพิธีจีน แต่ครอบครัวคู่บ่าวสาวต่างเป็นจีนที่ต่างถิ่นกัน ก็มีขนบธรรมเนียมต่างกันแล้ว ช่างภาพที่ไม่เข้าใจภาพงานแต่งงานจีนท้องถิ่นมากพอก็จะไม่แตกฉานว่า ต้องกดชัตเตอร์ตอนจังหวะไหน เลือกมุมตรงไหนถึงจะทำให้ภาพช็อตนั้น ๆ ออกมามีความหมายและความรู้สึกที่น่าประทับใจสุด ๆ”

เท่านี้ก็คงจะเข้าใจกันแล้วว่า จะรู้ข้อมูลพิธีงานแต่งงานทั้งทีต้องรู้ให้แตกฉานด้วย ทั้งเรื่องลำดับพิธี การจัดวางสินสอด ของรับไหว้ต่าง ๆ ให้ได้องค์ประกอบที่สวยงามอย่างลงตัว เพื่อที่ว่าเวลาอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและภาพถ่ายงานแต่งงาน ก็จะทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวและครอบครัวเชื่อถือช่างภาพมากขึ้น และลดปัญหาการทำงานในพิธีของช่างภาพแต่งงานลงได้

“ส่วนงานแต่งช่วงเย็นจะมีปัญหาหลัก ๆ สองประเด็นคือ ควบคุมแขกในระหว่างที่ต้องเก็บภาพช็อตสำคัญไม่ได้ ต้องยอมรับว่าแก้ยาก โดยเฉพาะแขกที่มายืนบังรันเวย์และแขกช่างภาพมือถือ แถมช่างภาพบางคนก็เล็งนาน กดชัตเตอร์ช้า ช้าจนช่างภาพหลักพลาดช็อตสำคัญไป ในเมื่อปัญหานี้ห้ามกันไม่ได้ ก็ต้องแก้ปัญหาในส่วนที่ช่างภาพพอจะทำได้

บนรถผมมีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมสำหรับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในงาน บางคนอาจมองว่าเกินความจำเป็น หรือยังไม่เห็นความสำคัญของอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังมีอคติส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องอุปกรณ์เสริม อยากให้เปิดกว้างมากกว่านี้  แต่สำหรับงานแต่งงานที่เกิดขึ้นแล้วแก้ไขไม่ได้ เตรียมพร้อมเผื่อเหลือย่อมดีกว่าเผื่อขาด เพราะไม่รู้ว่าหน้างานจะเจอปัญหาอะไรบ้าง ก็แล้วแต่สถานการณ์ อย่างเช่น ถ่ายพรีเวดดิ้งกลางแดดแรง ๆ มักเกิดปัญหาเงาช่วงหน้าเยอะ ก็ต้องแก้ด้วยรีเฟล็กซ์เปิดเงาจากแดด พอบ่าวสาวแพ้แสงสะท้อนก็เปลี่ยนมาใช้แฟลชแทน คู่บ่าวสาวอยากได้ฉากหลังเป็นท้องฟ้าแต่ฟ้าไม่สด ก็ต้องยิงแฟลชให้ฟ้าเข้มขึ้น 

ส่วนวันงานจริงก็ต้องเตรียมไฟ LED ให้ผู้ช่วยช่างภาพคอยส่องไปที่คู่บ่าวสาวในบางช่วงที่แสงไฟในห้องงานมืดเกินไป เช่น จังหวะเปิดตัว หรือตัดเค้ก เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้แก่คู่บ่าวสาว ส่วนอีกประเด็นคือ สภาพห้องจัดงานอาจไม่เป็นใจให้กับการทำงาน อย่างห้องจัดงานนี้แสงน้อยไปช่วงเวที ผมก็ต้องเตรียมไฟส่องสว่างไปด้วยเพื่อเติมแสงสว่างให้คู่บ่าวสาวด้วยเช่นกัน ถ่ายงานแต่งที่จัดเลี้ยงค็อกเทล ผมก็ต้องเตรียมบันไดไปเพราะงานแต่งงานแบบค็อกเทล เมื่อถึงช่วงการตัดเค้ก หรือช่วงไฮไลท์ในงานต่างๆ แขกก็จะมาร่วมถ่ายรูปบ่าวสาวด้วย ถ้าเราพกบันไดไป ช่างภาพก็จะไม่ถูกมือถือหรือแท็บเลตที่ชูขึ้นเหนือหัวของแขกบังมุมกล้อง”

โดยส่วนตัวน้าเบิร์ดแล้วเจอปัญหาที่จัดการไม่ได้เหล่านี้น้อยมาก เพราะด้วยความที่ถ่ายภาพในวงการแต่งงานมานานกว่า 10 ปี นับว่ามากพอที่จะการันตีถึงประสบการณ์การแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างเป็นมืออาชีพได้แล้ว

Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 16

คิดไม่ผิด แต่อยากให้คิดอีกครั้ง

รูปถ่ายงานแต่งงานระหว่างช่างภาพมืออาชีพกับช่างภาพสมัครเล่น ดูเผิน ๆ อาจมองว่าสวยเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองแบบมีความแตกต่างที่ไม่ได้เห็นจากรูปถ่ายออกมาอย่างชัดเจนมาก

มีอีกหนึ่งความคิดของคนทั่วไปในการจ้างช่างภาพงานแต่งงานของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ควรทำความเข้าใจให้มากกว่านี้ เพราะตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับงานเย็นมากกว่างานเช้า น้าเบิร์ดเล่าประสบการณ์ของบ่าวสาวคู่หนึ่งที่ให้เพื่อนซึ่งเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นมาถ่ายงานพิธีเช้าเพราะเห็นว่าจำนวนแขกน้อยกว่างานเย็น เลยจ้างช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายเฉพาะงานเย็นดีกว่า

05 BirdEyeview ช่างภาพแต่งงาน2016 04
05 BirdEyeview ช่างภาพแต่งงาน2016 03

“มีงานเช้างานหนึ่งที่บ่าวสาวให้เพื่อนถ่าย ห้องที่ใช้จัดงานมีเพดานสีดำ แล้วไฟบนเพดานก็เป็นไฟ Top ยิงลงมาตรง ๆ เงาก็ตกกระทบหน้าคน ถ่ายออกมาก็หน้ามืด เพื่อนคนนี้ก็ใช้แฟลชแยกติดหัวกล้องยิงสะท้อนขึ้นไปบนเพดานดำ (Bounce) ซึ่งไม่มีทางติดแน่นอน เพราะหลักการ Bounce แฟลชจะต้องยิงใส่ผนังหรือเพดานที่มีสีขาวถึงจะเห็นหน้าคนชัด สุดท้ายรูปที่ออกมาก็ใช้ไม่ได้เพราะบ่าวสาวหน้ามืด แต่ถ้าเป็นช่างภาพที่มีประสบการณ์มากหน่อยก็จะแก้ปัญหาด้วยการตั้งไฟสปอตไลท์ที่เตรียมมาส่องไปที่คู่บ่าวสาวและเวทีช่วงพิธีการตลอดเวลา”

น้าเบิร์ดยังอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของงานพิธีเช้าอีกว่า

“จริง ๆ แล้วพิธีแต่งงานเช้าเป็นงานที่รวมผู้ใหญ่ที่คู่บ่าวสาวเคารพมาไว้ที่งานแทบจะทั้งหมดเลย แล้วทุกลำดับพิธีผู้ใหญ่มีส่วนร่วมหมด ไม่ว่าจะเป็นแห่ขันหมาก นับสินสอด ยกน้ำชา หรือหลั่งน้ำสังข์ ซึ่งผู้ใหญ่เห็นแล้วอาจอินกว่าที่คู่บ่าวสาวคิดไว้ ความสำคัญของงานเช้าอยู่ที่ตรงนี้แหละ ทุกภาพที่ถ่ายมาจึงควรให้เกียรติแขกผู้ใหญ่ หมายความว่า รูปต้องสวยและว้าว เก็บไว้อวดลูกหลานญาติพี่น้องได้”

“แม้แต่การเลือกตำแหน่งการถ่าย การเลือกมุมกล้อง หรือการทำงานร่วมกับช่างภาพทีมอื่น ๆ รวมทั้งช่างภาพที่เป็นแขกในงาน ช่างภาพแต่งงานต้องตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้ด้วย เพราะเป็นปัจจัยที่ควบคุมลำบาก ภาพทุกช็อตต้องถ่ายแข่งกับเวลาและต้องเป๊ะ เพราะไม่มีเวลาเซ็ตอะไรให้ได้ตามต้องการเลย ถ้าเลือกมุมหรือตำแหน่งถ่ายโดยไม่ได้สังเกตว่ามีสิ่งรอบด้านที่ไม่พึงประสงค์ติดเฟรมภาพมาด้วยหรือเปล่า อาจทำให้ภาพนั้น ๆ สื่อความหมายผิดเพี้ยนไปเลยก็ได้ เช่น ช็อตที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ แต่พอถ่ายติดช่างภาพฝั่งตรงข้าม ภาพที่ออกมากลายเป็นว่า เจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังกราบเท้าช่างภาพ วิธีแก้ปัญหาคือ ต้องบิดไปยืนอีกด้านที่เห็นช่างภาพคนนั้น ๆ ยืนอยู่ข้างเจ้าบ่าวเจ้าสาวแทน”

ประสบการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลที่ช่วยสนับสนุนว่า ทำไมถึงควรจ้างช่างภาพแต่งงานมืออาชีพทั้งงานเช้าและงานเย็น เพราะช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นอาจมีเทคนิคการถ่ายภาพให้สวยงาม แต่ต่างกันตรงที่ช่างภาพมือสมัครเล่นอาจยังเตรียมพร้อมและแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ไม่ดีเท่ากับช่างภาพมืออาชีพ

อยากให้ลองคิดใหม่ ถ้าคิดว่าให้คนกันเองหรือช่างภาพสมัครเล่นมาถ่ายวันงานสำคัญก็ได้ ผลที่ออกมาจะคุ้มค่าไหม กับงานเพียงวันเดียว แต่เล่าสู่กันฟังได้ทั้งชีวิต

Bird Eye View Wedding Studio สัมภาษณ์ 17

บินต่อไป แม้บินไม่ไกลมาก แต่อย่าหยุดบิน

ถามว่าเป้าหมายของผมคืออะไร ผมอยากเป็นช่างภาพกรุงเทพฯ แค่มีงานแต่งในกรุงเทพฯ ให้ถ่ายทุกวันก็พอใจแล้ว ถ้ารู้สึกเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ผมก็ไปดูบ้านตามโครงการ หรือไม่ก็ไปดูรถตามโชว์รูม ก็เป็นแรงบันดาลใจมากพอที่จะทำให้ผมอยากทำงานต่อได้แล้ว” น้าเบิร์ดกล่าวทิ้งท้ายพร้อมเสียงหัวเราะ

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันวงการช่างภาพแต่งงานมีอัตราการแข่งขันสูงมาก มีพอร์ตผลงานดี ถ่ายรูปสวย อาจยังไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้คู่บ่าวสาวตัดสินใจเลือกช่างภาพแต่งงานคนนั้น ซึ่งค่อนข้างยากตรงที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนและพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ แต่ที่ยากและสำคัญกว่าคือ รักษามาตรฐานและพัฒนาตัวเองในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความเป็นมืออาชีพได้ดีกว่าผลงานที่ออกมา

ปิดท้ายขายของ : รวมแพ็กเกจแต่งงานจาก Bird Eye View

คลิกขอแพ็คเกจถ่ายภาพแต่งงาน

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่