5 Tips ออกกำลังกายอย่างไร ให้ฟิตเปี๊ยะ! แบบร่างไม่พัง สำหรับชาว Work from home

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้หลายๆองค์กรหรือภาคธุรกิจหลายแห่งเริ่มให้ทุกคน Work from home กันแล้วใช่ไหมคะ เมื่ออยู่บ้าน ออกไปไหนไม่ได้ ก็จะไม่ค่อยได้ขยับตัวมากนัก กลายเป็นกิน ทำงานแล้วก็นอนกัน สิ่งที่ตามมาก็คือ น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจนส่งผลเสียสุขภาพนั่นเอง ซึ่ง Weddinglist ไม่อยากให้ทุกคนเป็นแบบนั้นค่ะ เพราะ เราเป็นห่วงสุขภาพของทุกคน อยากให้ทุกคนสุขภาพดี หุ่นสวยได้ ถึงแม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม จึงได้รวบรวม 5 เทคนิคในการออกกำลังกายช่วง Work from home เพื่อเปลี่ยนความอ้วนให้กลายเป็นหุ่นสวย ด้วยวิธีการออกกำลังกายที่บ้าน ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ระหว่าง Work from home ค่ะ ถ้าพร้อมกันแล้ว ไปติดตามชมกันได้เลยค่ะ

1.Yoga

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญและสนใจเรื่องออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งนอกจากการวิ่งแล้ว โยคะ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการออกกำลังกายที่คนชื่นชอบ แน่นอนว่าไม่เพียงแค่ช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย และเป็นฝึกสมาธิได้ดีอีกด้วยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกท่าโยคะช่วยกระตุ้นอวัยวะและต่อมต่างๆของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น การควบคุมการหายใจ ทำให้ร่างกายและจิดใจผ่องใสขึ้นค่ะ ซึ่งเป็นความจริงอยู่ว่าการออกกำลังกายด้วยโยคะควรอาศัยครูฝึก จึงจะได้ผลดีที่สุด แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจะออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้านในสถานการณ์แบบนี้ ก็สามารถทำเองได้ง่าย ๆ โดยไม่เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บค่ะ โดยอาจจะทำได้โดนการปฏิบัติตามคำแนะนำในหนังสือ หรือดูจากวิดีโอในยูทูปก็ได้เช่นกันค่ะ

2.Body Weight

เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากไม่จำเป็นใช้เตรียมอุปกรณ์ และสามารถทำในเนื้อที่จำกัดได้ ซึ่งการออกกังกายประเภทนี้ คือ การใช้น้ำหนักร่างกายของผู้ออกกำลัง มาเป็นตัวต้านทานกำลัง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ให้เกิดความทนทาน แข็งแรงของร่างกาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ยกน้ำหนักต่างๆเข้ามาเสริม แต่ก็อาจนำอุปกรณ์พกพาง่ายบางชนิด เข้ามาช่วยในการออกกำลังกายก็ได้ เช่น บาร์โหน , เสื่อโยคะ, ลูกบอลโยคะเพิ่มความยืดหยุ่น เป็นต้น แต่อุปกรณ์ที่ใช้นั้นจะต้องไม่ใช่ลูกเหล็ก เพราะ ผู้ออกกำลังกายจะใช้น้ำหนักของตัวเองแทน ในการสร้างกล้ามเนื้อ เช่น การวิดพื้น Sit-up การ Plank เป็นต้น

3.Weight Training

การออกกำลังด้วยการใช้น้ำหนัก แรงต้าน จากอุปกรณ์ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง กับขนาดของกล้ามเนื้อ Weight Training คือ รูปแบบของการออกกำลังกายแบบออกแรงดัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ทำให้ร่างกายได้บริหารกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน สุขภาพกระดูกก็จะแข็งแรงตามไปด้วย ซึ่งทั้งมวลกล้ามเนื้อ และมวลกระดูกก็จะมีน้อยลงเรื่อยๆเมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น แต่การออกกำลังกายรูปแบบนี้สามารถช่วยได้ และระบบเผาผลาญก็จะทำงานดีขึ้นตามมาด้วย ผลดีที่ตามมาคือ เราจะไม่อ้วนง่าย ระดับคอเลสเตอรอลเลว (LDL) และไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) ในเลือดก็จะลดลง และร่างกายก็จะตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น หรือจะอธิบายง่ายๆก็คือ เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป สารอาหารจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานทันที ไม่เหลือเก็บไว้เป็นไขมันนั่นเองค่ะ

4.HIIT Cardio Workout

HIIT หรือ High-Intensity Interval Training เป็นการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงเวลาสั้น ๆ สลับกับการออกกำลังกายเบา ๆ ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 10-30 นาทีเท่านั้น โดยมีงานวิจัยชี้ว่า HIIT อาจเป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งนี้ แม้การออกกำลังกายแบบ HIIT จะใช้เวลาเพียงช่วงสั้น ๆ แต่ก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าการออกกำลังกายในระดับปานกลางถึง 2 เท่า ซึ่งวิธีการออกกำลังแบบ HIIT นั้นค่อนข้างหลากหลาย โดยอาจเลือกวิ่งเร็ว ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก หรือบอดี้เวทด้วยวิธีต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน

นอกจากการออกกำลังกายแบบ HIIT จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ในระยะเวลาอันสั้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มปริมาณมวลกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ใช้บ่อย ๆ กระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิซึมหรือการเผาผลาญพลังงานของร่างกายหลังออกกำลังกายได้มากกว่าการวิ่งและการเวทเทรนนิ่ง ลดอัตราการเต้นของหัวใจและลดความดันโลหิตในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานและผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และยังช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ดีกว่าการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอีกด้วยค่ะ

5.Body Combat

เป็นการออกกำลังกายแนวใหม่ ที่ใช้ท่าพื้นฐานของการต่อสู้หลายๆชนิด ทั้งมวยไทย คาราเต้ ไทชิ หรือชิกง มาปรับให้กลายเป็นท่าเต้นสนุกๆที่เข้ากับจังหวะเสียงเพลง การออกกำลังกายประเภทนี้ เรียกได้ว่า เป็นการออกกำลังกายแบบ Fighting Aerobic ซึ่งเป็นการออกแรงโดยอาศัยการผสมผสานกับศิลปะการต่อสู้ และเพิ่มบรรยากาศให้น่าสนใจโดยมีเสียงเพลงประกอบ

การออกกำลังแบบบอดี้ คอมแบท ทำให้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ฝึกให้กล้ามเนื้อแข็งแรง บริหารข้อต่อความอวัยวะต่างๆให้คล่องตัว และเผาผลานพลังงานหรือไขมันส่วนเกิน อีกทั้งยังเป็นการบริหารการหายใจ การทำงานของปอดและกล้ามเนื้อหัวใจเป็นอย่างดีค่ะ

สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกว่า ฉันจะน้ำหนักเยอะไปมากกว่าไม่ได้แล้วนะ แต่ไม่สามารถเข้าฟิตเนส หรือออกไปวิ่งสวนสาธารณะได้ สามารถใช้เทคนิคเหล่านี้ได้ค่ะ โดยสามารถเสิร์ตหาทางอินเทอร์เน็ต ทั้งเว็บไซต์ต่างๆ หรือยูทูปก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ควรหักโหมจนมากเกินไปนะคะ อะไรก็ตามที่มากไปย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายได้ค่ะ Weddinglist ขอเป็นอีก 1 กำลังใจให้กับคนที่ตั้งใจจะลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่ดีในช่วงวันหยุดยาวหนีโควิด-19 นะคะ

ขอขอบคุณรูปภาพ

Ig : MrandMrsMuscle

โควิด-19 เราป้องกันได้ ด้วยหน้ากากและแผ่นกรองอนามัยที่ได้มาตรฐาน

ผ้ามัสลิน เป็นผ้าที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันฝอยละอองของสารเหลว สารคัดหลั่งต่าง ๆ จากร่างกายได้มากที่สุดและมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์

Ok Mask “หน้ากากผ้ามัสลิน” หน้ากากผ้าคุณภาพมาตรฐานทางการแพทย์ รูปทรงกระชับรับกับทุกใบหน้า ป้องกันละอองฝอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19)

หน้ากากผ้าเย็บ 4 ชั้น พร้อมช่องใส่แผ่นกรองอนามัย