สำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังมองหาไอเดียเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน คงกำลังปวดหัวอยู่ใช่ไหมครับว่าจะขอแต่งงานอย่างไรดี จะใช้วิธีการอะไร เลือกสถานที่แบบไหน แผนจะแตกไหม จะโดนจับได้หรือเปล่า หรืออีกหลายๆ คำถามที่กำลังถาโถมเข้ามาในหัว ถ้าใครกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ เรามีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มานำเสนอ ไว้เป็นแนวทางนำไปประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองกันครับ
1. ดูว่าแฟนของเรามีนิสัยอย่างไร
เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้การวางแผนในส่วนอื่นง่ายขึ้น เช่น หากแฟนเราเป็นคนขี้อาย วิธีขอแต่งงานของเราก็อาจเป็นแบบเรียบง่าย ส่วนตัว ใช้จำนวนคนไม่เยอะหรืออาจจะมีแค่เรากับแฟนเราสองต่อสองก็ได้ เพื่อไม่ให้แฟนเราเกิดอาการประหม่าจนเกินไป หรือหากแฟนเราเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา วิธีขอแต่งงานก็ควรปรับเปลี่ยนเป็นแบบปาร์ตี้ เซอร์ไพรส์ ให้เข้ากับสไตล์และนิสัยส่วนตัว ชวนเพื่อนฝูงคนสนิทให้มามีส่วนร่วมในเหตุการณ์สุดพิเศษนี้ด้วย เพื่อทำให้บรรยากาศการขอแต่งงานมีความสนุกสนานขึ้น
2. สถานที่ประทับใจ
สถานที่ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย ที่จะทำให้การขอแต่งงานเป็นที่น่าจดจำและประทับใจได้มากขึ้น จากข้อที่แล้วหากแฟนเราขี้อาย เราก็ควรเลือกสถานที่ที่จะขอแต่งงานเป็นแบบส่วนตัวนิดนึง คนไม่พลุกพล่าน อาจเป็นร้านอาหารวิวสวยๆ บรรยากาศสบายๆ หรือจะเป็นที่บ้านหลังมื้ออาหารเย็นก็ได้ ตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม โรยกลีบกุหลาบ จุดเทียน ให้ดูโรแมนติกนิดๆ จะเหมาะสมกว่าการเลือกสถานที่ที่มีคนเยอะ ซึ่งอาจทำให้แฟนของเราตกใจ เขินอาย จนพาลวิ่งหนีเราไปดื้อๆ เลยก็ได้ หรือถ้าแฟนเราชอบท่องเที่ยวธรรมชาติ ภูเขายอดดอย ทะเลน้ำใส ป่าไม้น้ำตก ก็ควรเลือกสถานที่ที่แฟนเราชอบไป มองหามุมสวยๆ ให้บรรยากาศของธรรมชาติช่วยเพิ่มความโรแมนติกได้อีกด้วย
3. เลือกจังหวะเวลาให้เหมาะสม
การที่เราจะขอแฟนแต่งงานไม่ใช่ว่าจะทำตอนไหนเวลาใดก็ได้ (ซึ่งจริงๆ แล้วก็ทำได้นั่นแหละ แต่ !!) หากแฟนเราทำงานมาเหนื่อยๆ หรือพึ่งตื่นนอนมา คงไม่ใช่ช่วงที่ดีนักหากเราจะขอแต่งงานในจังหวะนั้น เพราะถึงแม้เธอจะดีใจที่ถูกขอแต่งงาน แต่อาการเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน อาจทำให้เธอมีอารมณ์ร่วมในเหตุการณ์ได้ไม่เต็มที่ ซึ่งหากเราลองใช้ช่วงวันพิเศษอย่างเช่น วันเกิด วันครบรอบ วันวาเลนไทน์ ชวนแฟนไปดินเนอร์มื้อค่ำ ไปท่องเที่ยวที่ที่แฟนเราชอบ อาศัยจังหวะที่แฟนเรากำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศ เซอร์ไพรส์เธอด้วยการขอแต่งงาน ลองคิดดูว่ามันจะสร้างโมเมนต์ที่น่าประทับใจได้ขนาดไหน
4. หาผู้ช่วยมาร่วมแผนการ
การมีผู้ช่วยมาช่วยกันคิดช่วยกันวางแผนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเหตุการณ์นี้ เราอาจจะได้ไอเดียแปลกใหม่ที่เราคาดไม่ถึงจากผู้ช่วยของเราก็ได้ หรือหากช่วยออกไอเดียไม่ได้ก็ยังสามารถช่วยเหลือด้านอื่นๆ ได้ เช่น การจัดเตรียมงาน เตรียมอุปกรณ์ หรือเป็นตัวละครประกอบฉาก เพื่อให้บรรยากาศการขอแต่งงานมีความครื้นเครงมากขึ้น แต่ก็ควรเลือกคนที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ทำให้แผนการของเรารั่วไหลนะ หรือหากเราต้องการความเป็นส่วนตัว เราอาจให้พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ของร้านอาหารที่เราไปใช้บริการมาเป็นผู้ช่วยก็ได้ เชื่อว่าคงไม่มีร้านไหนที่จะไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเรา เตี๊ยมบทจดสคริปต์กับพวกเขาให้ดี แผนการของเราจะได้สำเร็จลุล่วงได้ง่ายขึ้น
5. คำพูดซึ้งกินใจ
หากใครคิดว่าคำพูดไม่ต้องเตรียมตัวก็ได้ ค่อยไปด้นสดบอกความในใจเอาตอนขอแต่งงานเลย ขอแนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะในขณะนั้นเราเองก็ต้องตื่นเต้นไม่น้อย ลิ้นอาจจะพันกัน พูดวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง ทำให้บรรยากาศความโรแมนติกลดลงได้ ฉะนั้นเรื่องคำพูดเป็นสิ่งที่เราควรคิดมาให้ดี จะเกริ่นนำว่าอะไร พูดแบบไหนให้ซึ้งกินใจมากที่สุด อาจจะเริ่มต้นด้วยการบอกถึงความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เจอกัน เรื่องราวที่เราประทับใจในตัวเธอ เหตุผลที่อยากให้เธอมาเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตเรา ซ้อมบทหน้ากระจกเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เรียบเรียงคำพูดให้ดี แม้ว่าในขณะนั้นหูของเธออาจจะอื้อไปหมดแล้วจากความดีใจต่อเหตุการณ์ก็ตาม
เทคนิคเหล่านี้ น่าจะช่วยให้เราวางแผนการขอแต่งงานได้ง่ายขึ้น อย่าลืมให้เพื่อนช่วยถ่ายรูปหรือคลิปวิดีโอ หรือจะถ่ายกันเองสองคนก็ได้ เพื่อเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้ดูในวันข้างหน้า และหากเราได้กลับมายังสถานที่นั้นอีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ความทรงจำของเราจะย้อนกลับมาสร้างรอยยิ้มเล็กๆ ให้กับทั้งสองคนได้อย่างแน่นอน
** ก่อนจากกันไป ทีมงานมี MV ขอแต่งงานที่ชอบมาก อยากให้ทุกคนได้ดูกัน
ขอบคุณเพลง My love ศิลปิน Lee Seung Chul
