หากพูดถึงงานแต่งงาน จะนึกถึงเจ้าสาวแสนสวยในชุดแต่งงานสีขาว นับเป็นวันสำคัญอีกหนึ่งวันเลยสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งนอกจากชุดเจ้าสาวแล้วองค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างและขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวถือนั่นเอง วันนี้ Weddinglist จะมาแนะนำรูปแบบของช่อดอกไม้เจ้าสาวเพื่อเป็นไอเดียสำหรับเจ้าสาวมือใหม่ค่ะ
1. ช่อดอกไม้ Nosegay
เป็นช่อดอกไม้ขนาดเล็ก มีองค์ประกอบของดอกไม้เพียงไม่กี่ดอกในช่อเดียวกัน โดยการจัดดอกไม้แซมด้วยใบ จัดให้ก้านความยาวเสมอกันประมาณหนึ่งฝ่ามือครึ่งแล้วตัดปลายก้านให้เท่าๆกัน ถือเป็นตัวเลือกที่น่ารักสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความเรียบง่ายค่ะ
2. ช่อดอกไม้ Posy-Bouquet
ช่อดอกไม้เจ้าสาวแบบโพซี่ สไตล์ช่อดอกไม้แบบคลาสสิกที่เจ้าสาวนิยมใช้กัน ช่อดอกไม้เจ้าสาวจะมีขนาดเล็กถือสะดวกเป็นพุ่มทรงกลม ตัวก้านจะถูกตัดแต่งให้เท่ากันและมัดรวมกันหลวมๆแบบง่ายๆ มักจะใช้ดอกไม้ชนิดเดียวกัน มีใบแทรกมาเล็กน้อยหรือไม่มีใบเลยก็ได้
3. ช่อดอกไม้ Round Bouquet
ช่อดอกไม้เจ้าสาวทรงกลม เป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวแบบคลาสสิกอีกแบบหนึ่ง โดยช่อดอกไม้มักมีดอกไม้ประเภทเดียว หรือดอกไม้ที่มีลักษณะสีหรือรูปดอกคล้ายคลึงกันประกอบกันแน่นเป็นทรงโดม สไตล์ช่อดอกไม้นี้มักพบเห็นได้ทั่วไปในงานแต่ง นิยมใช้ดอกพีโอนี รานังคูลัส และกุหลาบ
4. ช่อดอกไม้ Composite Bouquet
เป็นช่อดอกไม้ที่มีรูปแบบการทำที่ยุ่งยากที่สุด แต่สวยโดดเด่นที่สุด ด้วยการนำกลีบดอกไม้มาเรียงร้อยซ้อนกันเป็นดอกใหญ่เพียงดอกเดียวบางช่อถึงกับใช้กลีบดอกไม้มากเป็นร้อยกลีบ ช่อดอกไม้แบบนี้ดูสวยแปลกตาอย่างมาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยขั้นตอนการทำที่ปราณีตมากๆ แต่บางครั้งเจ้าสาวก็เลือกที่จะจัดทำช่อดอกไม้ประเภทนี้ด้วยผ้าไหมสวยๆเพื่อความสวยงามคงทนและเก็บไว้ได้นาน
5. ช่อดอกไม้ Pageant Bouquet
หรือที่เรียกว่าช่อดอกไม้ Presentation Bouquet ช่อดอกไม้นี้จะมีลักษณะการถือแตกต่างจากทั่วไป โดยช่อดอกไม้นี้จะถูกประคองไว้ที่ข้อพับของแขนเจ้าสาวข้างหนึ่ง มักนิยมเลือกใช้ในงานแต่งแบบวินเทจ โดยใช้ดอกเดลฟีเนียมและดอกคาลล่าลิลลี่เพื่อความสวยงามทันสมัย
6. ช่อดอกไม้ Cascading Bouquet
ช่อดอกไม้ยาวที่ลดหลั่นเป็นรูปทรงของน้ำตก โดยมีดอกไม้จำนวนมากที่กระจายตัวเป็นละอองฝอยที่แผ่ลงมายังพื้น ช่อลดหลั่นที่เป็นธรรมชาติจะใช้เถาวัลย์หรือกิ่งก้านใบพันหลวมๆ กับดอกไม้เพื่อให้ได้รูปทรง นิยมใช้ดอกกล้วยไม้ เนื่องจากพุ่มดอกมีลักษณะลดหลั่นห้อยย้อยเหมือนน้ำตก
7. ช่อดอกไม้ Crescent Bouquet
ช่อดอกไม้แบบจันทร์เสี้ยวจะมีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว โดยที่ทั้งสองด้านโค้งลง ช่อเสี้ยวที่เอนเอียงพบว่าความโค้งนั้นมาจากเถาวัลย์หรือใบไม้ที่ลดหลั่นลง เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานแต่งงานที่โรแมนติกหรือในสวน
8. ช่อดอกไม้ Single-Stem Bouquet
ช่อดอกไม้ก้านเดียว ใช้ดอกเบ่งบานขนาดใหญ่ บางครั้งประดับด้วยใบไม้เล็กน้อยรอบๆ เพื่อความเขียวชะอุ่ม และไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก มักใช้ดอกที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรง เช่นดอกดาเลีย, โพรเทีย และดอกโบตั๋น
9. ช่อดอกไม้ Hand-Tied Bouquet
ช่อดอกไม้แบบ“ผูกมือ” เป็นช่อดอกไม้แบบง่ายๆ นิยมผูกด้วยริบบิ้น ช่อดอกไม้ที่ผูกด้วยมือแบบคลาสสิกจะเห็นก้านมัดรวมกันแน่นและแทบจะพันด้วยริบบิ้น ช่อดอกไม้ประเภทนี้ที่โรแมนติกหรือเรียบง่ายกว่าอาจเห็นก้านผูกติดกันใต้ดอกและก้านกระจายออกที่ฐาน
10. ช่อดอกไม้ Pomander Bouquet
ช่อดอกไม้ปอมเดอร์เป็นการจัดดอกไม้เป็นรูปลูกบอลที่ห้อยลงมาจากริบบิ้นที่สวมรอบข้อมือ รูปแบบดอกไม้ประเภทนี้จำเป็นจะต้องใช้ดอกไม้จำนวนมาก เนื่องจากมีดอกไม้ครอบคลุมทั้ง 360 องศา
11. ช่อดอกไม้ Asymmetrical Bouquet
เป็นรูปแบบช่อดอกไม้ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยช่อดอกไม้ทั้งสองด้านจะดูไม่เหมือนกัน มักจะใช้ดอกไม้หรือใบไม้ด้านหนึ่งสูงกว่าอีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่เจ้าสาวเลือกรูปแบบช่อดอกไม้ได้แล้ว แต่คงยังไม่แน่ใจใช่ไหมคะ ว่าจะใช้ดอกไม้ชนิดไหนใส่ในช่อดอกไม้ในวันแต่งงานดี ซึ่งนอกจากเรื่องรูปแบบและความสวยงามแล้วดอกไม้แต่ละชนิดก็มีการสื่อความหมายพิเศษด้วยนะคะ และแน่นอนว่า Weddinglist ก็ไม่พลาดหยิบยกความหมายของดอกไม้ชนิดต่างๆมาฝากให้คุณเจ้าสาวกันด้วยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับรูปแบบช่อดอกไม้เจ้าสาว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับการเลือกช่อดอกไม้ในวันแต่งงานของคุณนะคะ มีช่อดอกไม้แล้ว ก็ต้องนึกถึงการโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวด้วยนะคะ การโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวมีที่มาที่ไปอย่างไร หลายคนอาจเคยสงสัย ความเชื่อและความหมายของการโยนช่อดอกไม้เจ้าสาว ซึ่งวัฒนธรรมการโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวมีความเลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยจนกระทั่งมาได้เห็นกันในทุกวันนี้ค่ะ
cr.pic
- Freepik