จัดงานแต่งแบบ “จัดเอง” อย่างไรให้ได้ตามงบ พบกับคำตอบจากรีวิวแต่งงานนี้

หัวใจสำคัญของงานแต่งงานคือ “งบประมาณ” ที่สามารถเลือกทุกอย่างตามงบที่ตั้งไว้ได้

นอกจากเรื่องงบประมาณการจัดงานแต่งงานแล้ว การจัดการรายละเอียดส่วนต่างๆ ของงานแต่งงานเองถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ภาพวันงานแต่งงานออกมาอย่างน่าประทับใจได้เช่นกัน แต่สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณอย่างคุณบิวกับคุณโด่งแล้ว การวางแผนจัดงานแต่งงานให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดจึงเป็นโจทย์ที่ทั้งคู่ต้องทำการบ้านร่วมกัน และรายละเอียดต่อไปนี้คือส่วนที่ทั้งคุณบิวและคุณโด่งได้วางแผนร่วมกัน

ฤกษ์แต่งงาน

ถือเป็นสูตรสายตัวของการวางแผนแต่งงานเลยว่า ฤกษ์แต่งงานต้องเป็นสิ่งแรกที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องทำก่อนสิ่งอื่นใด เพราะเมื่อได้วันจัดงานแต่งงานแล้วจะสามารถดำเนินส่วนอื่นๆ ต่อไปได้ ตอนแรกคุณบิวกับคุณโด่งได้ฤกษ์แต่งงานเป็นวันที่ 6 พฤศจิกายน 2559 แต่มีเหตุจำเป็นที่ต้องเลื่อนเป็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 แทน

คอนเซ็ปต์จัดงานแต่งงาน

เจ้าบ่าวเจ้าสาวหลายคู่มักจะเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานก่อนแล้วคิดคอนเซ็ปต์ทีหลัง แต่คุณบิวบอกว่า จริงๆ ควรคิดคอนเซ็ปต์ของงานก่อน เพื่อที่จะได้สเกลงานคร่าวๆ และเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานที่เหมาะกับคอนเซ็ปต์ ซึ่งคุณบิวกับคุณโด่งอยากจัดงานแต่งงานที่เป็นงานเล็กๆ มีบรรยากาศเป็นกันเอง ได้อารมณ์อบอุ่นและสนุกสนาน แขกที่มาร่วมงานเน้นญาติสนิทและเพื่อนๆ จำนวนไม่เกิน 150-200 คน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

คุณบิวบอกว่าเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานเป็นร้านอาหาร เพราะสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์งานแต่งงานที่วางไว้คร่าวๆ ซึ่งคุณบิวเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานที่ Mellow Garden ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก ภายในร้านมีบรรยากาศเหมือนเป็นสวนในบ้าน แถมอาหารอร่อยและราคาเป็นกันเอง ซึ่งที่ร้านจะมีอาหารจัดเลี้ยงเฉพาะบุฟเฟ่ต์ ราคาต่อคนจะอยู่ที่ 590-990 บาท โดยคุณบิวเลือกราคาอาหารที่ 690 บาท/คน โดยรวมค่าเครื่องดื่มแล้ว แต่ยังไม่รวมภาษี จำนวนแขก 200 คน

ส่วนค่าสถานที่ คุณบิวเลือกจัดทั้ง 3 โซนเลย ตั้งแต่โซน Outdoor ทั้งหมด 2 โซน และห้องแอร์ที่ติดกับโซน Outdoor สำหรับแขกผู้ใหญ่โดยเฉพาะ รวมค่าสถานที่ทุกโซนแล้วอยู่ที่ 20,000 บาท แถมข้อดีอีกอย่างของ Mellow Garden คือ ไม่เสียค่านำเข้าต่างๆ ที่บางที่ต้องเสีย

Mellow Garden ถือเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานแต่งงานในสวนยอดนิยมแห่งหนึ่ง ซึ่งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องจองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เลย

ธีมงานแต่งงาน

ต่อจากได้สถานที่จัดงานแต่งงาน คุณบิวเริ่มต้นคิดธีมงานแต่งงานโดยการเลือกสีเหลืองขาวเป็นสีนำธีม แนวคิดมาจากสถานที่ที่เป็นสวน สีเหลืองเป็นสีที่เข้ากับบรรยากาศสีเขียวได้ดีที่สุด และใช้สีขาวมาเป็นสีหลักของธีม เพื่อให้โดยรวมไม่ดูเหลืองจ๋าเกินไป แถมความหมายของทั้งสองสีที่สื่อถึงความสนุกสนานอย่างมีชีวิตชีวาก็เข้ากับธีมและคอนเซ็ปต์ของงานได้ดีเลยทีเดียว

ในส่วนนี้มีสิ่งที่ทางคุณบิวและคุณโด่งไม่ได้จ้างใครเลย เพราะได้เพื่อนๆ มาช่วยคือ

• การคิดรูปแบบงานทั้งหมด
• อุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ในงาน
• พิธีกร และการรันคิวงานตามกำหนดการ

ตามหาเวดดิ้งออร์แกไนเซอร์

ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่ได้รายละเอียดธีมงานแต่งงาน คุณบิวกับคุณโด่งต้องหาออร์แกไนเซอร์ตกแต่งงาน ซึ่งคุณบิวกับคุณโด่งเลือกใช้บริการ Glasshouse Studio ซึ่งมีพอร์ตผลงานที่ตรงตามสไตล์ที่ต้องการมากที่สุด และราคาเป็นกันเองที่สุดเท่าที่หาข้อมูลมาแล้ว โดยคุณบิวได้เลือกธีมตกแต่งงานแต่งงานสไตล์ Rustic Wedding เน้นอุปกรณ์ประกอบฉากเป็นลังไม้ มีสีเหลืองเล็กน้อย

วงดนตรีแต่งงาน 

คุณบิวกับคุณโด่งเลือกใช้บริการวง หัวกะทิ ซึ่งเป็นวง 3 คน ประกอบด้วยนักร้องนำ 1 คน มือกีตาร์ 1 คน และมือกลองไฟฟ้า 1 คน เพื่อเพิ่มบรรยากาศในงาน

ช่างภาพแต่งงาน

รายละเอียดส่วนของวันงานเรียบร้อยไป ต่อมาที่คุณบิวกับคุณโด่งต้องตามหาคือ ช่างภาพถ่ายพรีเวดดิ้งและช่างภาพวันงาน คุณบิวกับคุณโด่งเลือกใช้บริการ Wedding studio ย่านทองหล่อ ร้านอยู่ระหว่างซอย 4 กับ 6 และติดถนน คุณบิวบอกว่า ที่เลือกร้านนี้เพราะดูผลงานแล้วถ่ายรูปสวย เลยเลือกแบบร้านเดียวจบครบทุกรายการดีกว่า จะได้ไม่ต้องหาของเพิ่ม

สิ่งที่คุณบิวกับคุณโด่งได้มาจากร้านนี้ที่บริการแบบ One Stop Service ได้แก่ 

• ชุดถ่ายพรีเวดดิ้งจำนวน 5 ชุด แบ่งเป็นของร้าน 4 ชุด และเจ้าบ่าวเจ้าสาวเอามาเองอีก 1 ชุด รวมค่าแต่งหน้าแล้ว แต่ไม่รวมค่าสถานที่ และค่าเดินทาง
• วีดิโอพรีเซนเทชั่นเบื้องหลังวันถ่ายพรีเวดดิ้ง + สัมภาษณ์เจ้าบ่าวเจ้าสาว ดูผลงาน คลิก!
• อัลบั้มรูป
• กรอบรูป
• ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวสำหรับวันจริง รวมทั้งช่างแต่งหน้าทำผมด้วย ซึ่งดูผลงานเพิ่มเติมของช่างแต่งหน้าได้ที่นี่ IG:  bank_theera33 และ IG: zam_zambe
• ช่างภาพวันงานแต่งงาน ทั้งภาพนิ่งและวีดิโอ

การ์ดแต่งงานและของชำร่วย

คุณโด่งเป็นผู้ออกแบบการ์ดแต่งงานแล้วส่งพิมพ์ที่ร้าน ส่วนของชำร่วยเป็นแก้ว ซึ่งคุณบิวกับคุณโด่งได้เลือกร้านแถวจตุจักรค่ะ ส่วนลายคุณโด่งเป็นคนออกแบบอีกเช่นเคย

ช่อดอกไม้แต่งงาน

ช่อดอกไม้เจ้าสาว คุณบิวอยากได้เป็นดอกทานตะวัน ก็ไปถามราคามาหลายร้านอยู่ แต่ราคาดอกไม้ช่วงใกล้เทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ วาเลนไทน์ ถือว่าแพงมาก ขนาดคุณบิวบอกร้านว่า ขอดอกถูกๆ แล้ว ยังตกที่ช่อละ 2,800 บาท แต่ของเขาทำมาดีจริงๆ

ว่ากันเมื่อถึงวันงาน

คุณบิวได้กำหนดธีมการแต่งกายของแขกที่มาร่วมงานให้เป็นแบบ Minimal Style คือเสื้อผ้าไม่ต้องมากลวดลาย เน้นเรียบๆ สบายตาไว้ก่อน โดยแขกผู้ชายให้สวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ ส่วนแขกผู้หญิงสวมเดรสสีขาว คุณบิวทำโบว์เหลืองติดให้ทุกคน บิวคิดว่าเสื้อผ้าที่ใส่มางานแต่งแขกน่าจะหาง่าย ได้ใส่ต่อ

ส่วนของ Reception หน้างาน คุณบิวกับคุณโด่งให้แขกที่มาร่วมงานทุกคนเขียนคำอวยพรลงบน Post it แล้วม้วนลงขวดโหล และให้แขกเขียนคำถามที่อยากถามเจ้าบ่าวเจ้าสาวคนละ 1 ข้อ เพื่อจับฉลากบนเวที

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องปรินต์โพลารอยด์สำหรับปรินต์รูปที่แขกอยากเก็บเป็นที่ระลึก ซึ่งตอนแรกคุณบิวกับคุณโด่งอยากได้ตู้สติ๊กเกอร์ แต่ด้วยความที่มีงบจำกัด เพราะราคาตู้ส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ 15,000 – 25,000 บาท ซึ่งเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ คุณบิวกับคุณโด่งจึงซื้อเครื่องปรินท์ Instax Share SP-2 ราคา 4,990 บาท ผ่าน Central Online ซึ่งกำลังลดราคาอยู่พอดี มีพี่สะใภ้ของคุณบิวช่วยแชร์ค่าเครื่องให้ เพราะเขาจะใช้ต่อในงานเขาด้วย ส่วนฟิล์ม คุณบิวซื้อผ่าน Shopee ใช้ Code ลดราคา ทำให้ซื้อมาได้ในราคาเฉลี่ยแผ่นละ 13 บาท รวมๆแล้วประมาณ 6,000 บาท ซึ่งจริงๆ แล้วคุณบิวบอกว่า ถือเป็นของสิ้นเปลือง แต่ภาพที่ได้มาสวยมากก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

ลำดับพิธีการ

สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ไม่ได้จ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ ควรรู้ไว้เบื้องต้นดังนี้ค่ะ

1. เปิดตัวพิธีกร พร้อมแนะนําตนเองและกล่าวต้อนรับแขก
2. จากนั้นเป็นการเปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว ใช้ Bubble สลับกับไฟเย็น
3. เปิดวีดิโอพรีเซนเทชั่น คลิก! ซึ่งปกติแล้ว วีดิโอพรีเซนเทชั่นจะเปิดก่อนเปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่คุณบิวคิดว่า ถ้าเปิดตัวก่อนจะดึงความสนใจให้แขกดูวีดิโอพรีเซนเทชั่นได้ดีกว่า ดูผลที่ออกมาแล้วคุณบิวคิดว่าประสบความสำเร็จได้ดีเลย
4. พิธีกรแนะนําตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว
5. พิธีกรเชิญคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายขึ้นบนเวที เพื่อมอบดอกไม้และอวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาว
6. พิธีกรสัมภาษณ์บ่าวสาว โดยจับฉลากคำถามจากโหลคำอวยพร และคำถามจากสคริปต์ของพิธีกร
7. เจ้าบ่าวเจ้าสาวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน
8. พิธีกรเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวจุดไฟเย็นและรดน้ําต้นไม้
9. เจ้าบ่าวเจ้าสาวโยนตุ๊กตา 2 ตัว
10. กล่าวปิดพิธีการ

คำแนะนำเพิ่มเติมจากบ่าวสาว

การจัดงานแต่งงานเองจำเป็นต้องมีคนช่วย เพราะลำพังเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่สามารถจัดงานให้ออกมาได้

ซึ่งคุณบิวได้เพื่อนที่มาช่วยเป็นแม่งาน 1 คน สามารถตัดสินใจแทนเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ทุกอย่าง รู้ทุกขั้นตอนของงาน ประสานงานกับทุกฝ่ายได้และต้องยอมรับด้วยว่า เราไม่ใช่มืออาชีพ ทุกอย่างมีสิทธิ์ผิดพลาดได้เสมอ ต้องพร้อมแก้ไขทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้าสำคัญที่สุด

คุณบิวเริ่มต้นวางแผนจากการมีงบประมาณจำนวนหนึ่งแล้วแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

• ถ่ายพรีเวดดิ้ง
• ค่าอาหารจัดเลี้ยงและสถานที่จัดงานแต่งงาน
• ค่าจัดตกแต่งงาน

แต่จริงๆ ถ้าจะลดส่วนอื่นอีก เช่น ค่าจัดตกแต่งงาน ก็สามารถลดได้ ถ้าสถานที่มีการประดับตกแต่งที่สวยงามอยู่แล้ว

“ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายในงาน แขกที่มาร่วมงานอาจไม่คิดอะไรมาก เพราะเขาแค่อยากมาแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้น ถึงแม้เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเห็นความผิดพลาด แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ตำหนิอีกเลย เพราะพอทั้งคู่เดินเข้างานแล้ว ก็จะทำได้แค่เพียงอยู่ในพิธีการ โพสท่าสวยๆ ให้ช่างภาพแต่งงานได้แชะรัวๆ เท่านั้น” คุณบิวได้กล่าวทิ้งท้าย

ดังนั้น สิ่งสำคัญของการจัดงานแต่งงานเองคือ ต้องวางแผนและจัดการเป็น

สรุปค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงาน

คุณบิวบอกว่าประมาณ 200,000 บาท ถ้าไม่รวมค่าถ่ายพรีเวดดิ้ง ค่าช่างภาพงานแต่งงาน ค่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว และค่าแต่งหน้า

ขอบคุณรีวิวจาก : https://pantip.com/topic/36147943