รีวิวแต่งงาน 03

รีวิวนี้มีคำตอบ : จัดงานแต่งเองแบบจัดเต็มอย่างไรให้เป็นเรื่องง่าย


D.I.Y. จัดงานแต่งงานเองแบบจัดเต็ม ใครว่าเป็นไปไม่ได้ !

 

รีวิวแต่งงาน 01

 

“มีเจ้าสาวบางท่านที่กำลังวางแผนแต่งงานสนใจรายละเอียดข้อมูลแต่งงาน โดยเฉพาะการหาชื่อร้านค้าหรือบริการรับจัดงานแต่งงานในส่วนต่าง ๆ  ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวนี้ค่ะ”

เป็นอีกหนึ่งรีวิวแต่งงานที่อธิบายข้อมูลแต่งงานส่วนต่าง ๆ ได้ละเอียดมาก สำหรับงานแต่งงานของคุณลักษิกากับคุณวงศกรที่จัดงานแต่งงานไปเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งคุณลักษิกาได้วางแผนแต่งงานตั้งแต่ปลายปี 2558 แล้ว โดยใช้งบประมาณรวม ๆ แล้วอยู่ที่ 350,000 บาท ซึ่งงานแต่งงานที่ออกมาจะจัดเต็มได้แค่ไหน เชิญว่าที่คู่บ่าวสาวดูรายละเอียดต่อไปนี้กันเลยค่ะ

คุณลักษิกาบอกว่า ขั้นตอนแรกของการวางแผนแต่งงาน ว่าที่คู่บ่าวสาวต้องคำนึงถึง 4 ปัจจัยแรกที่สำคัญที่สุดเลยคือ

  1. งบประมาณ  
  2. จำนวนแขก
  3. ฤกษ์แต่งงาน
  4. สถานที่จัดงานแต่งงาน

ส่วนข้อมูลแต่งงานอื่น ๆ ที่คุณลักษิกาจะพูดถึงนั้น เรียงลำดับตามนี้เลยค่ะ

  • งบประมาณ
  • จำนวนแขก
  • ฤกษ์แต่งงาน
  • สถานที่จัดงานแต่งงาน
  • ลำดับพิธีการ
  • ชุดแต่งงาน
  • ช่างภาพแต่งงาน
  • ช่างแต่งหน้า ทำผม
  • ถ่ายพรีเวดดิ้ง
  • การ์ดแต่งงาน
  • ทีมตกแต่งสถานที่ (Wedding Organizer)
  • D.I.Y.
  • แหวนแต่งงาน
  • ลิสต์บริการและของที่ใช้ในงาน
  • อยากฝากว่าที่เจ้าสาว

งบประมาณ

คุณลักษิกาเล่าให้ฟังว่า ถ้าว่าที่คู่บ่าวสาวกำหนดตัวเลขเอาไว้ในใจแต่เนิ่น ๆ จะทำให้วางแผนง่ายขึ้นและลดขั้นตอนกับรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้มากเลย ถ้ามีส่วนไหนที่ทำเองได้โดยไม่ต้องจ้างหรือหาซื้อก็ทำ แต่การที่ต้องจัดงานแต่งงานเองแล้ว ควรเผื่องบกันพลาดเอาไว้ด้วย เพราะเผื่อเหลือย่อมดีกว่าเผื่อขาดแน่นอน เพราะถ้าหน้างานมีของบางอย่างขาดไป อาจทำให้มีปัญหาตามมาหลังจบงานได้

จำนวนแขก

เรื่องการตั้งจำนวนแขกไม่ได้ยุ่งยากอะไร คุณลักษิกาแค่คาดคะเนคร่าว ๆ ว่า พ่อ แม่ ตัวเราและแฟน แต่ละท่านมีแขกที่อยากเชิญคนละเท่าไหร่ แล้วมาเฉลี่ยให้แต่ละคนได้ปริมาณใกล้ ๆ กัน ซึ่งคาดคะเนจำนวนแขกได้ประมาณ 300 ท่าน แต่พอถึงวันงาน แขกที่มาร่วมงานจริงมีเพียง 250-270 ท่าน ถือว่าเป็นเรื่องปกติของงานแต่งงานอยู่แล้ว ที่จำนวนแขกที่มาวันงานจริงจะไม่ได้ตามจำนวนที่ตั้งไว้เป๊ะ

รีวิวแต่งงาน 02

ฤกษ์แต่งงาน

หลังจากที่คุณลักษิกากับคุณวงศกรตั้งงบประมาณแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือหาฤกษ์แต่งงาน ซึ่งทั้งคู่ใช้วิธีหาข้อมูลจาก Google ซึ่งทุกเว็บที่หาล้วนมีข้อมูลที่ไม่ต่างกันมาก ถึงให้พระช่วยหาฤกษ์ให้ก็อาจจะค่าเท่ากัน สรุปคือเลือกฤกษ์แต่งงานที่สะดวกที่สุดดีกว่า ซึ่งก็ได้เป็นวันที่ 12 เดือน 12 คุณลักษิกาบอกว่าเลขนี้สวยและจำง่ายด้วย แต่ที่สำคัญคือ วันนั้นเป็นวันจันทร์ซึ่งถือว่าเป็นฤกษ์ดี เป็นวันแห่งการเริ่มต้นใหม่ และเป็นวันหยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญด้วย

ซึ่งคุณลักษิกาได้ขอร้องพ่อแม่และคุณวงศกรเลยว่า จัดงานเวลาไหนก็ได้ที่ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 ตี 4 เพื่อมาแต่งหน้าและเข้าพิธีให้ทันฤกษ์เด็ดขาด เพราะคุณลักษิกาเข็ดมากกับการไปงานแต่งญาติแล้วตื่นเช้าขนาดนั้น คุณลักษิกาจึงได้กำหนดช่วงเวลางานพิธีเป็นช่วงบ่าย เลี้ยงเย็น เรียกได้ว่าจัดให้สบาย ๆ เป็นกันเองให้ถึงที่สุด แต่พอถึงวันงาน คุณลักษิกาก็ต้องตื่น 6 โมงเช้าอยู่ดี เพราะต้องมาเตรียมงานส่วนอื่น ๆ ด้วย

สถานที่จัดงานแต่งงาน

คุณลักษิกาเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานที่สนามกอล์ฟธนาซิตี้ เพราะราคาไม่สูงและมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบ แต่คุณลักษิกาฝากเตือนมาว่า ควรจะดูสถานที่จัดงานแต่งงานอื่น ๆ เผื่อไว้เป็นทางเลือกด้วย และไม่ว่าจะเลือกจัดงานแต่งงานที่ไหน ก่อนเซ็นสัญญากับวางมัดจำควรอ่านและเคลียร์ทุกข้อสงสัยกับทางเจ้าของสถานที่ให้เข้าใจตรงกัน เพราะคุณลักษิกาเจอปัญหาระหว่างงานกับที่นี่มาแล้ว

รีวิวแต่งงาน 03

ลำดับพิธีการ

ด้วยความที่ครอบครัวของคุณวงศกรเป็นลูกครึ่งไทย-จีน แต่ครอบครัวของคุณลักษิกาอยากให้จัดพิธีแต่งงานแบบไทย ดังนั้นจึงต้องผสมสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน คุณลักษิกาเล่าให้ฟังว่า ตอนหาข้อมูลต้องเจาะลึกยิ่งกว่าทำรายงานวิชาประวัติศาสตร์อีก ขุดไปถึงรากเหง้าของพิธีกันเลยทีเดียวว่ามีอะไรบ้าง

คุณลักษิกาแนะนำว่าที่คู่บ่าวสาวว่า เรื่องนี้ควรถามผู้ใหญ่ดีกว่าว่าอยากได้อะไร ตัดส่วนไหนออกได้บ้าง ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องปรึกษาหารือไม่ต่ำกว่า 1 ครั้งแน่นอน พอได้ข้อสรุปแล้วให้อธิบายรายละเอียดพิธีการต่าง ๆ ให้ฟัง ว่าขาดตกอะไรไปไหม ซึ่งเรื่องนี้ว่าที่เจ้าสาวต้องใจเย็นและใช้ความอดทนสูงมากในการอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจ เพราะคุณพ่อคุณแม่รวมทั้งญาติผู้ใหญ่ก็อยากให้ลูก ๆ ออกมาดูดีที่สุดในวันสำคัญที่มีเพียงครั้งเดียว ถ้าท่านอยากได้เพิ่มเติมก็เป็นเรื่องปกติ

คุณลักษิกายังอธิบายเพิ่มเติมว่า พิธีการต่าง ๆ ไม่มีผิดถูกเลย สุดท้ายอยู่ที่ความชอบหรือวัฒนธรรมของแต่ละบ้านเลย ว่าที่คู่บ่าวสาวลองดูลำดับพิธีการได้ตามสะดวกเลย ซึ่งคุณลักษิกาตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไปค่อนข้างเยอะ เหลือแต่ที่พ่อแม่ต้องการเอาไว้จริง ๆ ก็พอ

ลำดับพิธีการตามกำหนดการ

13:50 พิธีกรกล่าวเปิดเวที

“พิธีกรจะกล่าวนำว่าจะทำอะไรบ้าง อธิบายคร่าว ๆ ว่าวันนี้จะเป็นพิธีผสมไทย-จีน เพื่อป้องกันญาติหรือแขกท่านใดไม่ให้เข้าใจผิดแล้วลุกขึ้นมาโต้เถียงกันกลางงาน อันนี้อาจจะฟังดูเวอร์ไป แต่เชื่อว่าต้องเคยมีกรณีญาติขึ้นไปเถียงกับพิธีกรมาแล้ว อธิบายให้เข้าใจตรงกันตั้งแต่แรกจึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด” คุณลักษิกาอธิบาย

รีวิวแต่งงาน 04

14:09 เคลื่อนขบวนขันหมาก

ตอนแรกคุณลักษิกาบอกว่า จะใช้ขันหมากปลอม แต่พอเทียบราคาแล้วปรากฏว่าพอ ๆ กัน ข้าวตอกดอกไม้ที่ต้องใช้โรยก็ไม่มีให้ ต้องหาเอาเอง แถมยังต้องเอาไปคืนอีกด้วย ดูแล้วไม่คุ้มค่าน้ำมันรถเลย สรุปคือเอาขันหมากจริงดีกว่า ซึ่งคุณลักษิกาใช้ขันหมากของ Flowers Skill นอกจากจะงานละเอียดมากแล้ว ยังส่งได้ตรงเวลาเป๊ะ ๆ ด้วย เลือกสีพานได้ตามใจ ซึ่งสั่งเป็นพานเอก มี 5 ใบด้วยกัน แล้วก็สั่งมาลัยคล้องคอคู่บ่าวสาว 1 คู่ และพวงมาลัยไหว้ผู้ใหญ่ไป 8 พวง รวมราคาทั้งสิ้น 13,200 บาท

ส่วนพานขันหมากโท คุณลักษิกาผสมเอาพานขันหมากจีนมาใช้ โดยสั่งจาก บ.อั่งกี่ ร้านทำขนมเทศกาลจีนชื่อดัง ซึ่งผู้ใหญ่ทานแล้วชมว่าอร่อยมาก แป้งไม่แห้งติดคอ ตอนมาส่งก็มาตามนัดเช่นกัน ซึ่งคุณลักษิกาสั่งขนมไปทั้งหมด 6 อย่าง รวมราคาทั้งสิ้น 6,320 บาท

รีวิวแต่งงาน 05

นอกจากนี้ยังมีเช่าอุปกรณ์เพิ่มอีกเล็กน้อย เช่น ประตูเงินประตูทองที่ทำจากดอกรักประดิษฐ์ ดอกไม้สดติดอกแขก VIP จากร้าน Weddingceleb ซึ่งคุณแนนเจ้าของร้านเอาของมาให้ด้วยตัวเองเองแต่เช้าและรอรับกลับเองเลย ประทับใจมาก ๆ

รีวิวแต่งงาน 06

14:15 รับตัวเจ้าสาว

ตอนไปรับก็มีดอกไม้มารับตัวด้วย ซึ่งคุณลักษิกาก็ทำเองโดยได้ไอเดียจากงานแต่งงานต่างประเทศ เป็นดอกกล้วยไม้สีขาว แต่ถ้าเป็นดอกไม้สดจะได้ราคาเกือบ ๆ 5,000 บาท ซึ่งเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ คุณลักษิกาจึงต้องใช้ดอกไม้ประดิษฐ์จากตลาดนัดสวนจตุจักรเอามาห่อกระดาษสาแทน

รีวิวแต่งงาน 07

14:20 พิธีหมั้น

พิธีหมั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ทำตามธรรมเนียมเลย เพียงเพิ่มสคริปต์บรรยายความหมายของข้าวตอกดอกไม้แต่ละอย่างว่า หมายถึงอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเงียบเหงาเกินไป ส่วนเรื่องสินสอด คุณลักษิกาบอกว่า เราสามารถแจงหรือไม่แจงสินสอดก็ได้

รีวิวแต่งงาน 08

14:40 พิธีรับไหว้ผู้ใหญ่แบบไทย

พิธีรับไหว้ผู้ใหญ่ในงานนี้มีสองแบบคือ ไทยกับจีน ในส่วนของพิธีไทย คุณลักษิกาเชิญญาติฝ่ายเจ้าสาวมานั่งทีละคู่ซึ่งเป็นญาติสายตรงตามที่พ่อแม่ต้องการ คือเป็นพี่น้องกับพ่อแม่โดยตรง และญาติผู้ใหญ่เช่นคุณย่ากับคุณยาย มารับไหว้เรา โดยคู่บ่าวสาวจะยกพานพวงมาลัยไหว้และให้ของรับไหว้แก่ท่าน ซึ่งของรับไหว้เป็นข้าวจากโครงการหลวงมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง กก.ละประมาณ 100 บาท และซื้อถุงผ้าโปร่งมาใส่และแปะสติ๊กเกอร์ให้ดูสวยงาม

รีวิวแต่งงาน 09

15:00 พิธีรับไหว้ผู้ใหญ่แบบจีน

ในส่วนของพิธีจีนเป็นการยกน้ำชาให้กับญาติผู้ใหญ่ทีละคู่ ให้ศีลให้พรกัน แล้วก็ให้ซองหรือสิ่งของแทนใจตามแต่ละท่าน ส่วนคู่บ่าวสาวก็ให้ของรับไหว้เหมือนกับตอนไหว้ผู้ใหญ่ในพิธีไทย

รีวิวแต่งงาน 10

15:30 พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

ตั่งรดน้ำสังข์ ทางสถานที่จัดงานมีให้พร้อมแล้ว ส่วนด้ายแฝดมงคลกับเครื่องเจิมหน้าผาก (ดินสอพอง+น้ำอบไทย) คุณลักษิกาซื้อมาเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว (ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของคุณวงศกรก็นำไปเข้าพิธีมงคลให้พระท่านประสาทพรให้เรียบร้อย เพราะพิธีแต่งงานไม่ได้มีพิธีสงฆ์ในงาน)

16:00 พักเปลี่ยนชุด

รีวิวแต่งงาน 11

18:00-21:00 งานฉลองมงคลสมรส

ช่วงเย็นคู่บ่าวสาวถ่ายรูปต้อนรับแขกหน้าแบ็คดร็อป พอถึงช่วงที่คู่บ่าวสาวเดินขึ้นไปเปิดตัวบนเวที ก็จะคั่นด้วยวีดีโอพรีเซ็นเตชั่น ซึ่งคุณลักษิกาเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้จ้างช่างภาพวีดิโอ คู่บ่าวสาวถ่ายและตัดต่อกันเองเลย หลังจากคู่บ่าวสาวขึ้นเวทีแล้วก็เชิญแขกคนสำคัญขึ้นอวยพร ก่อนที่จะจบด้วยพิธีแลกแหวนแบบฝรั่งน่ารัก ๆ มีกล่าวคำในใจกันเล็กน้อยด้วย ซึ่งทางพี่ช่างภาพแต่งงานแนะนำให้ใช้ไฟเย็นให้แขกถือยืนเรียงรายสองข้างทาง เพื่อให้คู่บ่าวสาวเดินลงไปกัน พอถ่ายออกมาแล้วรูปสวยมาก ๆ ดูโรแมนติกดี

คุณลักษิกาปิดท้ายงานแต่งงานนี้ด้วยการเล่นเกมส์กับแขก โดยก่อนเริ่มงาน คุณลักษิกาให้เพื่อนเจ้าบ่าวแอบเอากระดาษเขียนชื่อคู่บ่าวสาวไปแปะใต้เก้าอี้ตามโต๊ะต่าง ๆ 10 แผ่น แล้วให้แขกหาว่าอยู่เก้าอี้ใคร แล้วก็เชิญเขาขึ้นมาบนเวที ตอบคำถามเพื่อเช็กว่า คุณรู้จักคู่บ่าวสาวดีแค่ไหน จนเหลือคนสุดท้ายก็ได้รางวัลไป

งานจบประมาณเวลา 21:30 ผู้ใหญ่บอกว่า เวลากำลังดีเลย ไม่เหนื่อยจนเกินไป จบแบบสวย ๆ อย่างน่าประทับใจไปค่ะ

รีวิวแต่งงาน 12

ชุดแต่งงาน

ด้วยความที่คุณลักษิกาตัวเล็กมาก (สูง 156 หนัก 40 กก) แต่ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะจะหาชุดเจ้าสาวที่ดูดีสำหรับผู้หญิงตัวเล็กได้ยากมาก ทำให้คุณลักษิกาต้องสั่งตัดชุดจากร้าน Furic โดยได้แบบมาจาก Rikidala ซึ่งก็ออกมาสวยสมใจทุกประการ ส่วนราคาตัดอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท (ยังไม่รวมค่าผ้าลูกไม้) ส่วนผ้าลูกไม้ซื้อที่ร้าน Gandhi คันธี ย่านพาหุรัด ซึ่งโชคดีมากเพราะไปซื้อตอนกลางปีที่กำลังลดราคาถึง 50-80% พอดี

รีวิวแต่งงาน 13

ส่วนชุดไทยของเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว คุณลักษิกาเช่าจากร้าน Lovely Home Studio ย่านพัฒนาการ ราคาเช่าอยู่ที่ 2,500 บาท เพื่อนเจ้าสาวชุดละ 500 บาท และมีการซักแห้งให้ก่อนใช้เป็นอย่างดีด้วย

รีวิวแต่งงาน 14
สำหรับรองเท้าเจ้าสาว คุณลักษิกาสั่งตัดจากร้าน Debuter Tailor Made Shoes ทางอินสตาแกรม เพราะคุณลักษิกาสวมรองเท้าเบอร์ 34-35 จึงทำให้หารองเท้าเจ้าสาวยากกว่าหาชุดอีก จึงจำใจต้องสั่งตัดอีกแล้ว ส่วนแบบรองเท้าก็เลือกที่สวมใส่สบายและสามารถใช้ได้อีกหลาย ๆ โอกาสค่ะ สั่งตัดทั้งทีก็ต้องใช้ให้คุ้ม

ส่วนผ้าคลุมผม หรือที่เขาเรียกกันว่า Vail นั้น คุณลักษิกาให้น้องสาวนั่งทำเองกับมือให้ เพราะสู้ราคาผ้าคลุมผมที่แพงเกินจริงไม่ไหว อย่างผ้าตาข่ายที่เอามาติดก็เมตรละ 100-150 บาท ทำได้ตั้งหลายผืน ลูกปัดก็หาซื้อเอาไม่เกิน 100 บาท แต่ไปเจอตามห้างนี่ 800+ บาททั้งนั้น สรุปคือทำเองดีกว่า ถูกใจแถมถูกสตางค์ด้วย

รีวิวแต่งงาน 15

ส่วนชุดเจ้าบ่าวก็สั่งตัดเช่นกัน แต่ราคาชุดเจ้าบ่าวถูกกว่ากันครึ่ง ๆ เลยทีเดียว ซึ่งซื้อที่พาหุรัดเช่นกัน ช่างตัดชุดเป็นคนเดียวกับชุดเจ้าสาว ออกมาดูดีเข้าทรงมาก ไม่มีหลวมหรือไหล่ตกเลย

ช่างภาพแต่งงาน

คุณลักษิกากับคุณวงศกรเลือกช่างภาพแต่งงานจาก Facebook แล้วก็ทำเป็นตารางใน Excel เอาไว้เลย ซึ่งช่างภาพแต่งงานทุกท่านในรายชื่อ คุณลักษิกากับคุณวงศกรติดต่อไปคุยทุกคน สุดท้ายก็เลือก Fann Foto เพราะจากที่คุยกันแล้วโอเคทุกอย่างเลย ไม่ขายมากไป และทีมช่างภาพมาแบบอลังการสุด ๆ บวกกับสไตล์ผลงานที่ผ่านมาของเขาตรงตามต้องการ

รีวิวแต่งงาน 16

ซึ่งตลอดเวลาที่คุณลักษิกากับคุณวงศกรเตรียมงานแต่งงาน ทางทีมช่างภาพก็จะคอยให้คำปรึกษาเรื่องพิธีการ คิวงานต่าง ๆ ที่ไม่แน่ใจ เรียกว่าได้ทีมนี้รวมร่างระหว่างช่างภาพแต่งงานกับเวดดิ้งแพลนเนอร์เลย ส่วนผลงานที่ออกมาในวันงาน Fann Foto ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย พี่ช่างภาพทุกคนทำงานกันเป็นทีม มาก่อนเวลาเพื่อมาเก็บภาพบรรยากาศตอนแต่งหน้าทำผม ผลงานที่ได้ก็มาในกล่องไม้น่ารักโรแมนติก แถมเปิดมามีกลิ่นหอมฟุ้งหวานกระจายด้วย ซึ่งคุณลักษิกาได้แนะนำว่าที่คู่บ่าวสาวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะเลือกช่างภาพแต่งงานที่ผลงานกับการบริการแล้ว ควรตกลงเรื่องกำหนดส่งงานให้ชัดเจนด้วยนะคะ

ช่างแต่งหน้า ทำผม

คุณลักษิกาให้คุณฟาน ที่มาจากทีมช่างภาพของ Fann Foto เป็นช่างแต่งหน้า ซึ่งคุณฟานเป็นคนใจเย็นมาก เพราะคุณลักษิกาค่อนข้างกังวลตลอดว่า แต่งหน้าออกมาแล้วจะดูเฟคหรือเปล่า คุณฟานก็ให้คำแนะนำมา แถมยังทำผมให้ถึงที่บ้านด้วย ส่วนในวันงาน คุณฟานก็ดูแลความเรียบร้อยให้แก่ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ที่ต้องแต่งหน้าทุกคนเป็นอย่างดีไม่มีบกพร่องเลย

รีวิวแต่งงาน 17

ถ่ายพรีเวดดิ้ง

ภาพพรีเวดดิ้งไม่ได้มีไว้แค่ถ่ายรูปสวย ๆ แล้วเอาไปประดับหน้างานเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์สำหรับคู่บ่าวสาวได้อย่างดี เพราะจุดประสงค์ของพรีเวดดิ้งจริง ๆ คือให้บ่าวสาวได้ถ่ายรูปด้วยกันแบบชิล ๆ เพื่อเก็บเป็นความทรงจำดี ๆ เนื่องจากในวันงานส่วนใหญ่แล้วคู่บ่าวสาวจะไม่ค่อยมีเวลาถ่ายรูปเดี่ยวด้วยกัน เพราะต้องถ่ายกับแขกคนนั้นคนนี้ตลอดเวลา การถ่ายพรีเวดดิ้งจึงเป็นทางออกให้คู่บ่าวสาวได้มีรูปคู่ที่สวย ๆ ในแบบที่เป็นตัวเองเอาไว้ดูกัน

รีวิวแต่งงาน 18

ตอนจะถ่ายพรีเวดดิ้งก็ลิสต์โลเคชั่นไว้มากมาย ซึ่งคุณลักษิกาเล่าให้ฟังว่า จริง ๆ แล้วอยากให้การถ่ายพรีเวดดิ้งเป็นการบอกแขกว่า เราคือใคร ใช้ชีวิตกันอย่างไร คุณลักษิกากับคุณวงศกรจึงตัดสินใจถ่ายพรีเวดดิ้งที่เรือนหอ เพราะส่วนใหญ่จะใช้เวลาทำงานกันที่บ้านนี้กว่า 90% เลย โดยให้น้องสาวถ่ายพรีเวดดิ้งให้ ซึ่งถ่ายออกมาแล้วสวยใช้ได้ ส่วนหน้าและผมก็แต่งกันเอง จัดไปตามฝีมือที่พอมีบ้าง

นอกจากนี้ ทางสถานที่จัดงานแต่งงานยังให้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย ซึ่งทางคุณลักษิกากับคุณวงศกรได้สิทธิ์นี้หลังจากที่ถ่ายพรีเวดดิ้งไปรอบแรกแล้ว ก็เลยเฉย ๆ แต่ก็แอบเสียดาย คุณลักษิกากับคุณวงศกรเลยเกิดไอเดียว่า พาพ่อแม่มาถ่ายด้วยดีกว่า ให้เป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวรุ่นพ่อรุ่นแม่และรุ่นลูกกัน คงจะมันส์ดี ซึ่งการถ่ายพรีเวดดิ้งครั้งนี้ก็ให้น้องสาวมาถ่ายให้อีกเช่นเคย ส่วนคุณแม่เป็นคนแต่งหน้าทำผมให้

รีวิวแต่งงาน 19

“ได้เห็นแม่ ๆ ยิ้มและดูมีความสุขกับการแต่งชุดสวย ๆ ไปถ่ายรูป คนเป็นลูกอย่างเราก็ชื่นใจหายเหนื่อยทันที เป็นประสบการณ์ที่สนุกดีค่ะ”

การ์ดแต่งงาน

คุณลักษิกาให้คุณวงศกรออกแบบการ์ดให้ เนื่องจากคุณลักษิกาย้ายสถานที่จัดงานแต่งงาน 1 ครั้ง ทำให้ต้องพิมพ์การ์ดแต่งงานใหม่อีก 1 รอบ จากโรงพิมพ์ นายทำถูก ซึ่งเซลเป็นคนใจเย็นมาก ไม่เคยเหวี่ยงวีนใส่ เพราะคุณลักษิกาให้แก้งานเป็นสิบ ๆ ครั้งกว่าจะถูกใจ ส่วนราคาการ์ดแต่งงานขึ้นอยู่กับขนาดแล้วก็การพิมพ์ ของคุณลักษิกาจะแพงตรงพิมพ์สีทองหน่อย ตกใบละประมาณ 15 บาท

รีวิวแต่งงาน 20

สำหรับซองเราไปซื้อจากร้าน 555 Paper มีหลายสาขาตามห้างทั่วไป หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางเว็ปไซต์เขาก็ได้

ทีมตกแต่งสถานที่

คุณลักษิกาเลือกทีมตกแต่ง Photodiff มาจากสถานที่ที่ไปดู ๆ มา ซึ่งทีมนี้ทำงานเป็นระบบ นัดเป็นนัด และสุภาพเสมอ ส่วนสไตล์การตกแต่งเป็นแนววินเทจหวาน ๆ สามารถดูผลงานเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Photodiff

รีวิวแต่งงาน 21

โดยคุณลักษิกาวางแผนให้ทางทีมช่วยจัดส่วนทางเดินเข้าและบริเวณเลี้ยงฉลองในสนามหญ้า ซึ่งจากการที่สถานที่จัดงานแต่งงานมีการเปลี่ยนแปลงตลอด เพราะทางสถานที่จัดงานไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าจะมีการรีโนเวทสถานที่ เมื่อคุณลักษิกาถามว่า รีโนเวทแล้วกระทบกับงานแต่งงานของเราไหม เขาบอกว่าไม่ คุณลักษิกาจึงจ่ายมัดจำและตกลงใจเลือกที่นี่เลย แต่พอเหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือนก่อนวันงาน กลายเป็นว่าสถานที่มีการรีโนเวทบริเวณทางเข้างาน และสนามหญ้าที่ต้องใช้ ณ จุดนั้นเขาจะคืนเงินมัดจำให้ แต่คุณลักษิกาบอกว่า เหลือเวลาแค่นี้หาสถานที่จัดงานแต่งงานใหม่ไม่ทันแล้ว เขาจึงให้ส่วนลดมาจำนวนหนึ่ง แต่พอคุณลักษิกาขอให้ช่วยจัดสถานที่ให้น่าดูกว่านี้ คำตอบที่ได้รับก็คือ มันเกินงบเขาแล้ว และไม่ได้มีการช่วยเหลือจากทางผู้ใหญ่ของสถานที่แต่อย่างใด มีแต่พนักงานเซลที่อยู่คอยช่วยเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ คุณลักษิกาจึงต้องเขียนแพลนการตกแต่งใหม่ถึง 3 รอบ แต่ทาง Photodiff ก็เข้าใจและให้คำแนะนำตลอด คุณลักษิกาประทับมากจากตอนที่ไปดูสถานที่ด้วยกันแล้วเพิ่งเห็นว่า พื้นที่จัดงานแต่งงานโดนกั้นโซนสนามหญ้าเพิ่ม แต่ทาง Photodiff บอกว่า เดี๋ยวพวกผมจะคอยซัพพอร์ตนะ คุณลักษิกาไม่ต้องกังวลเลย ถ้าเจ้าสาวคนไหนที่จัดงานเองจะรู้เลยว่า ณ วินาทีนั้นการได้เพื่อนร่วมทางมันคือสิ่งที่ต้องการจริงๆ

1 วันก่อนวันงาน ทีม Photodiff ก็มาติดไฟและติดผ้าให้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่เสียอย่างเดียวตรงที่ไฟมีแรงวัตต์ไม่ถึง ทำให้ไม่สามารถปล่อยสายไฟลงมาห้อยระย้าตามภาพที่ต้องการได้ แต่โดยภาพรวมแล้วประทับใจและดีเยี่ยมทั้งหมด

คุณลักษิกาบอกว่า งานแต่งงานครั้งนี้แทบจะไม่ใช้ดอกไม้ประดับตกแต่งเลย เพราะว่าค่อนข้างสิ้นเปลือง เน้นใช้ไฟกับผ้าและดอกไม้ปลอมเท่าที่จำเป็น

D.I.Y

สำหรับของตกแต่งสถานที่ คุณลักษิกาทำเองกับมือแทบทุกชิ้น เนื่องจากธีมงานแต่งงานเป็น Beauty and the Beast ทำให้หาไอเดียในการทำของใน Pinterest ได้ไม่ยากเลย เริ่มจากขวดแก้วดอกกุหลาบ คุณลักษิกาซื้อมาจากตลาดนัดสวนจตุจักร ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท แล้วก็ซื้อดอกกุหลาบเทียมมาใส่ ใช้กาวร้อนติดแล้วก็ติดกาวตามขอบฝาครอบก่อนปิดตายไปเลย

รีวิวแต่งงาน 22

รีวิวแต่งงาน 23

ต่อมาเป็นป้ายหน้างาน ซึ่งที่บ้านคุณลักษิกาทำกระดานชนวนขายอยู่แล้ว เลยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โดยเริ่มจากให้คุณวงศกรทาสีทองตามขอบกระดานก่อน ส่วนดอกกุหลาบก็มาจากตลาดนัดสวนจตุจักรเช่นกัน ค่อย ๆ เอามาพันแล้วติดกาวร้อนตามจุดต่าง ๆ จนได้ตามแบบที่ต้องการ

รีวิวแต่งงาน 24

แหวนแต่งงาน

คุณลักษิกาเล่าให้ฟังว่า ตอนที่อยากได้แหวนต้องเป็นแหวนคู่ เพราะดูเป็นคู่กันและน่ารักที่สุด แต่พอมานั่งเลือกแหวนด้วยกันแล้ว ไปคนละทางเลย เพราะคุณลักษิกาชอบแหวนแบบที่ดูอ่อนช้อย แต่ต้องแข็งแรง สามารถใส่ใช้งานทุกวันได้ไม่เกะกะ แต่ทางคุณวงศกรชอบสไตล์แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร เช่น แหวนรูปหัวกะโหลก แหวนเพชรเม็ดสีแดง แหวนทรงเหลี่ยม ๆ

รีวิวแต่งงาน 25

สุดท้ายแหวนคู่ก็มีอันต้องพับไป แล้วจบที่ เลือกแบบที่ตัวเองชอบละกัน แต่ก็ยังมีส่วนที่ดูเป็นคู่อยู่บ้าง คุณลักษิกากับคุณวงศกรก็เลยตัดสินใจสั่งทำเลยดีกว่า จะได้แปลกให้สะใจไปเลย ถือว่าเจอกันครึ่งทาง แฟร์ ๆ ไป จากนั้นคุณลักษิกาเริ่มเสิร์ชหาเพจรับทำแหวนเพชรในงบที่เราต้องการ พอเจอเพจที่ถูกใจก็รีบติดต่อไปและหาแบบทันที ก็ได้ลายผีเสื้อกับดอกไม้แบบไม่ต้องปรับอะไรเพิ่ม เอาตามนี้ 100% เลย

ส่วนแหวนของเจ้าบ่าว คุณลักษิกาก็หาให้เช่นกัน ก็เลือกมา 4-5 แบบ แล้วก็ให้คุณวงศกรไปเลือกเอาเองจากเฉพาะที่คุณลักษิกาเลือกให้ ซึ่งคุณวงศกรก็เลือกตามสไตล์เขา เอาแปลก ๆ  ดูไม่เข้าพวกที่สุดมา นั่นก็คือแหวนลายโบราณ วัสดุเป็นทองคำขาวเหมือนของเรา แต่ที่แปลกที่สุดคือการที่มันเป็นสีดำนี่แหละ ซึ่งสีดำก็มาจากการเอาไปชุบ Rhodium ที่ทางร้านจะชุบให้ฟรีในกรณีที่ลอก (ซึ่งผ่านมา 6 เดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่ไปรับแหวน มันก็ดำดีดูเด่นไม่มีลอกเลย)

ชื่อร้าน : ซีลเวอร์ – Diamond Jewelry อยู่ที่ The Circle ราชพฤกษ์

ลิสต์บริการและของที่ใช้ในงาน

  • พานขันหมากเอก Flower Skill ติดต่อคุณเบิร์ด
  • พานขันหมากโท อั่งกี่ ติดต่อคุณหวาน
  • ประตูเงินประตูทอง ดอกไม้สดติดอกแขก พรม สังข์รดน้ำ (สั่งมาเสริม) Weddingceleb ติดต่อคุณแนน
  • ดอกไม้ประดับของ D.I.Y. ช่อดอกไม้รับตัวเจ้าสาว ตลาดนัดสวนจตุจักร 
  • กล่องใส่สร้อย กำไล แหวน คลองถมห้างแฟชั่นไอส์แลนด์
  • ข้าวปลอดสาร (ของรับไหว้ผู้ใหญ่) โครงการหลวงมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
  • ซองใส่การ์ดแต่งงาน 555 Paper สั่งออนไลน์
  • ร้านตัดชุดแต่งงาน Furic ติดต่อพี่แดง
  • ผ้าตัดชุด ร้านคันธี พาหุรัต ตึก China World
  • ชุดไทยเจ้าสาว + เพื่อนเจ้าสาว ร้าน Lovely Home Wedding Studio ติดต่อพี่ไพ
  • รองเท้าเจ้าสาว สั่งตัดร้าน Debuter ติดต่อคุณหนู
  • ทีมช่างภาพแต่งงาน Fann Foto ติดต่อพี่ปัด
  • ช่างแต่งหน้าจากทีมช่างภาพ คุณฟาน 
  • การ์ดแต่งงาน ร้านนายทำถูก
  • ทีมตกแต่งสถานที่ PhotoDiFF ติดต่อคุณพง คุณมุก
  • แหวนแต่งงาน ร้าน ซีลเวอร์ – Diamond Jewelry ติดต่อพี่โมน่า

 

อยากฝากว่าที่เจ้าสาว

รีวิวแต่งงาน 26

งบประมาณ

  • บางอย่างที่ต้องจ่ายก็จ่ายไปเถอะ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดูดีและเรียบร้อยที่สุด อันไหนจ้างได้ก็จ้าง ถือว่าเป็นการซื้อเวลาไป เพราะการทำทุกอย่างเองหมดมันเหนื่อยและเครียดไม่น้อยเลย เข้าใจว่าสาว ๆ ชาว D.I.Y. อยากทำเองให้หมดก็จริง แต่อย่าลืมว่า วันนั้นเราคือเจ้าสาว ไม่ใช่แม่งานที่จะได้มาวิ่งเช็กของเช็กคนได้ตั้งแต่เริ่มต้นยันจบงาน
  • ผิวสวยต้องใช้เวลา หน้าใสใช่ว่าไปคลินิกแล้วจะจบ ประเด็นนี้ควรประหยัดด้วยการค่อยๆบำรุงและดูแล ความจริงเริ่มดูแลได้ตั้งแต่คุยกันคร่าวๆแล้วค่ะ หรือตั้งแต่คบเป็นแฟนเลยได้ยิ่งดี 555 ใครคิดจะลดน้ำหนักช่วงนี้ไม่ต้องนะคะ เจ้าสาวที่จัดงานเองมักจะผอมเองไปโดยปริยาย นัยว่าเครียด + กินไม่ลง 555

พิธีการ

  • ถึงแม้งานแต่งงานจะมีเพียงครั้งเดียวในชีวิตเรา แต่อย่าลืมว่ามันก็เป็นครั้งเดียวสำหรับพ่อแม่และญาติ ๆ ด้วย บางทีท่านอยากได้พิธีการอะไร ถ้ามันไม่มากเกินงบและความสามารถก็จัดให้ท่านเถอะ เพราะเมื่อคุณย้อนกลับมาดูรูปตอนท่านยิ้มยินดีกับเราแล้ว คุณจะไม่เสียดายเลยที่ได้ทำตามใจท่านบ้าง คุณลักษิกาจึงตัดปัญหาไม่ให้พ่อแม่งอนด้วยการร่างพิธีการที่พอจะทำได้ไปคุยกับท่านเลย คือยกช่วงพิธีการให้เป็นของญาติผู้ใหญ่ไปเลย ส่วนงานเลี้ยงเย็นเราค่อยใส่ความเป็นเราลงไป ซึ่งถือว่าแบ่งกันแฟร์ ๆ ดี

สิ่งที่ทำได้ดี

  • พ่อแม่และญาติ ๆ ก็ชมว่าพิธีการไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ดูแลแขกได้ดี พิธีไม่ยืดเยื้อ งานเลี้ยงเย็นก็จบไว ไม่พูดกันมากมาย อาหารอร่อยใช้ได้

สิ่งที่อยากกลับไปแก้ไข

  • ถ้ากลับไปได้คงกันงบเอาไว้จ้างออร์แกไนซ์มารันงานให้ดีสุด ๆ ไปเลย เพราะมีหลายอย่างที่เราดูไม่ทั่วถึงในวันงาน เช่น ตอนเลี้ยงเย็นแขกมาเร็วกว่าที่คิด แล้วคอมพ์ฯ ที่ใช้ลงทะเบียนแขกดันแบตฯ หมด ก็วุ่นวายกันไปพักใหญ่ หลังเลิกงานก็ไม่มีคนคอยเก็บของให้ กลายเป็นว่าสถานที่เอาป้ายไฟที่เราทำกันเองไปโยนทิ้ง เศร้าใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คิดว่าถ้ามีคนรันงานหรือเป็น Backstage ให้ คู่บ่าวสาวคงเหนื่อยน้อยกว่านี้

“สุดท้ายแล้ว งานแต่งมันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนแบบที่เราเคยคิดฝันเอาไว้ มันคือการรวมความคิด การตัดสินใจด้วยกันของพ่อแม่เรา แฟน ญาติ ๆ เพื่อน ๆ เหมือนคำสุภาษิตที่ว่า เราแต่งงาน ไม่ได้แต่งกับแฟนคนเดียว แต่คือการแต่งงานกับพ่อแม่ ญาติ เพื่อนของเขาด้วย รับกันได้มากน้อยแค่ไหนงานแต่งเป็นตัววัดที่ดีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น เราจึงถือว่า แต่งกับเขาแล้ว ก็ต้องรักครอบครัวของเขาด้วย ให้เหมือนกับที่เรารักเขานั่นเอง” คุณลักษิกาได้ทิ้งท้ายบทสรุปของประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากการจัดงานแต่งด้วยตัวเองแบบข้ามปี

ขอบคุณรีวิวจาก : https://pantip.com/topic/36343870