เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา! รีวิวงานแต่ง จัดง่ายๆ ภายในสวนของคุณพ่อ

ต่างรีวิวย่อมแตกต่างทั้งรายละเอียดและประสบการณ์ อย่างรีวิวแต่งงานของคุณเนกับคุณปอนด์ที่จัดอย่างเรียบง่ายภายในสวนที่บ้าน บรรยากาศสุดชิล แต่รายละเอียดต่างๆ ที่คุณเนได้เขียนไว้นับเป็นประสบการณ์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน และยังมีรายละเอียดบางสิ่งที่ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรใส่ใจมากขึ้นด้วย ไปดูกันค่ะว่า ประสบการณ์จัดงานแต่งงานที่ผ่านมาของคุณเนกับคุณปอนด์เป็นอย่างไรกันบ้าง

งานแต่งงานของคุณเนกับคุณปอนด์จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งในการจัดงานแต่งงานครั้งนี้ คุณเนและคุณปอนด์ใช้เวลาเตรียมงานแต่งประมาณ 1 ปี เรามาดูลำดับเหตุการณ์การจัดงานแต่งงานกันค่ะว่า คุณเนและคุณปอนด์ได้วางแผนแต่งงานครั้งนี้อย่างไรบ้าง

1. หลังจากที่คุณเนกับคุณปอนด์ตัดสินใจว่าจะแต่งงานกัน และทางผู้ใหญ่ได้เจรจาสู่ขอกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณเนและคุณปอนด์ได้เริ่มต้นที่เตรียมซื้อของที่ต้องใช้ในงานแต่งงานโดยทยอยซื้อเก็บสะสมให้ครบตามลิสต์รายการไปเรื่อยๆ

2. หลังจากนั้น คุณพ่อของคุณเนดูฤกษ์แต่งงานให้ ก็ตกลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ทางพ่อแม่ของคุณปอนด์ก็โอเค

3. เมื่อรู้วันแต่งงานแล้ว คุณเนกับคุณปอนด์ได้โทรไปจองสถานที่จัดงานแต่งงานช่วงเย็น ซึ่งคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณเนได้เลือกไว้แล้ว คุณเนแค่โทรไปจองเท่านั้นเอง

4. เมื่อได้สถานที่จัดงานแต่งงานแล้ว ต่อไปคือติดต่อช่างภาพวันแต่งงาน ซึ่งคุณเนกับคุณปอนด์ก็ช่วยๆ กันหาดูโปรไฟล์ของช่างภาพจนเจอที่ถูกใจก็ติดต่อจองคิวไป ซึ่งคุณเนจองล่วงหน้าประมาณ 9 เดือน

5. ต่อจากนั้น คุณพ่อกับคุณแม่ของคุณเนก็จัดหาโต๊ะจีน โดยเริ่มหาข้อมูลของหลายๆ ร้าน จนวันหนึ่งได้ไปงานแต่งลูกชายของเพื่อนก็ติดอกติดใจอาหารมาก อยากได้อาหารร้านนี้มาจัดเลี้ยงในงานแต่งงาน แต่พอโทรไปถามราคาโต๊ะจีน 1 โต๊ะเริ่มต้นที่ 3,500 บาท ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยดังนี้

ค่าจัดสถานที่งานพิธีมงคลสมรส (งานเช้า)
ค่าจัดสถานที่งานฉลองมงคลสมรส (งานเย็น)
ค่าดอกไม้
มีเจ้าหน้าที่จัดการเรื่องต่างๆ ภายในงาน

6. เมื่อได้โต๊ะจีน สถานที่จัดงานแต่งงาน และทั้งสองฝ่ายโอเคแล้ว คุณเนชวนคุณปอนด์ไปเดินที่งาน Wedding Fair และก็ได้จองคิวถ่ายพรีเวดดิ้งในราคา 37,500 บาท ได้ชุดแต่งงานมา 4 ชุด และได้ของชำร่วยมาด้วย และอย่างที่หลายคนรู้ว่า ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอาจต้องเสียเงินซื้อรูปเพิ่ม (ช่างภาพบางคนขายไฟล์ภาพ) และคุณเนกับคุณปอนด์ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เลยหลวมตัวเสียค่าไฟล์เพิ่มอีก 35,000 บาท ก็เป็นบทเรียนครั้งเดียวในชีวิตเลย ค่าถ่ายพรีเวดดิ้งที่ต้องเสียจริงๆ จึงอยู่ที่ 72,500 บาท แต่ทางร้านก็ดูแลคุณเนกับคุณปอนด์ได้ดีสมราคา ซึ่ง 72,500 บาทที่เสียไปก็จะได้โฟโต้บุ๊ก 2 เล่ม และรูปตั้งหน้างานพร้อมกรอบ 2 รูป ขนาดเท่ากัน

7. ต่อจากนั้นคุณเนกับคุณปอนด์ก็ไปซื้อแหวนแต่งงานกัน ซึ่งทางร้านบอกว่า ซื้อแล้วสามารถฝากไว้ที่ร้าน แล้วค่อยมารับเมื่อใกล้ถึงวันงานแต่งงานได้ คุณเนเลยตัดสินใจฝากแหวนแต่งงานไว้ที่ร้านก่อน

8. จากนั้นคุณเนก็คิดได้ว่า อยากจะเลี้ยงขนมไทยในงานพิธีเช้า เลยโทรสั่งขนมบัวหิมะประมาณ 10 กล่อง และขนมไทย คุณเนก็ไปซื้อชั้นวางขนมมา 3 อัน

อันนี้คุณเนทำเองเลย ใช้เวลาเตรียมของประมาณ 1 เดือนก่อนวันงาน ถ้าเป็นเจ้าสาวคนอื่นๆ คงเตรียมเข้าคอร์สเจ้าสาวอยู่ค่ะ

9. 5 วันก่อนถึงวันงาน คุณเนกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวจัดของ และหาร้านที่จะไปแต่งหน้า ซึ่งคุณเนใช้เวลาหาล่วงหน้าประมาณ 3 วัน แต่คุณเนได้ไปติดต่อที่ร้านก่อนวันงานแต่งแค่ 1 วัน เพราะมัวแต่จัดบ้านอยู่

10. 2 วันก่อนถึงวันงาน คุณพ่อของคุณเนเพิ่งให้ช่างมาทาสีบ้าน เล่นเอาคุณเนวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะเย็นวันที่ 16 คุณแม่ของคุณปอนด์จะมาที่บ้านและคิดว่าอาจเสร็จไม่ทัน เลยให้คนงานที่บ้าน 3 คนมาช่วยคุณพ่อ และในที่สุดก็เสร็จเรียบร้อยประมาณ 1 ทุ่ม

11. เมื่อทาสีบ้านเสร็จแล้ว ทีมออร์แกไนซ์ได้มาจัดดอกไม้ที่บ้าน ซึ่งเวลานั้นฝนตกหนักทุกวันและตกมาหลายสัปดาห์แล้ว คุณเนก็กังวลว่าฝนจะตกในวันงานไหม ซึ่งทางออร์แกไนซ์บอกว่า ถ้าฝนไม่ตกก็สามารถจัดพิธีรดน้ำสังข์ตรงสวนข้างบ้านได้ คุณเนกับคุณปอนด์และที่บ้านเองก็อยากจะให้จัดงานแต่งในสวนเช่นกัน แต่อยู่ๆ จากที่ตอนเย็นฝนตก แต่พอร้านดอกไม้มาฝนกลับหยุดซะงั้น คุณเนกับคุณปอนด์จึงได้จัดพิธีรดน้ำสังข์ในสวนดังใจหวัง โดยใช้ใต้ต้นเงาะเป็นลานพิธี

ไปชมภาพการประดับตกแต่งงานในสวนที่บ้านกันค่ะ

ผ้าคลุมเก้าอี้ คุณพ่อกับคุณแม่ของคุณเนได้ซื้อไว้เตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า เกือบๆ 1 ปี ซื้อไว้ 30 ชุด (เตรียมการล่วงหน้าก่อนเราเยอะมาก)

12. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 : พิธีมงคลสมรสช่วงเช้า ช่างแต่งหน้านัดคุณเนไว้ 05.30 น. แต่คุณเนดันตื่นสาย เลยไปถึงร้าน 06.10 น. พอแต่งหน้าทำผมเสร็จก็โทรให้ที่บ้านไปรับ แต่ช่วงนั้นไม่มีใครว่างเลยเพราะกำลังยุ่งๆ กับการเตรียมงานจนลืมไปรับคุณเนกลับมา คุณเนก็รอแล้วรออีกจนรถขบวนขันหมากผ่านหน้าร้านที่คุณเนแต่งหน้าอยู่ คนในร้านก็พูดกันว่าไม่รู้เจ้าบ่าวงานไหนมาแล้ว คุณเนหันไปดูปรากฏว่า เป็นงานของคุณเนเอง ซึ่งคุณเนยังอยู่ที่นี่จะต้องทำไงเหรอ ลองนึกภาพตามดู คุณเนถกชุดไทยขึ้นแล้วรีบวิ่งไปหารถกลับไปที่งานแต่ง พอกลับไปถึง ขบวนขันหมากตั้งแถวจะเข้าบ้านเจ้าสาวแล้วค่าาา สรุปคือไม่มีโมเมนต์ได้เป็นเจ้าสาวที่ไปรอเจ้าบ่าวในห้องหอเลย ด่านประตูเงินประตูทองก็เป็นอันต้องล่มเพราะทุกคนเห็นเจ้าสาวหมดแล้ว #อันนี้ทีเด็ด

13. หลังจากเสร็จพิธีแต่งงานช่วงเช้า คุณเนก็ต้องกลับไปแต่งหน้าที่ร้านอีก คราวนี้คุณเนขับรถไปเองกับคุณปอนด์เลย ซึ่งคุณเนก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่างานอื่นๆ เขาขับรถไปเองไหม พอทั้งคู่แต่งหน้าและแต่งตัวเสร็จก็ขับรถไปที่งานเย็นเองเช่นกัน พอไปถึงก็งงเพราะแขกบางส่วนมาถึงงานก่อนเจ้าภาพอีก ช่างแต่งหน้าบอกว่าไม่เคยเจองานแต่งงานงานไหนชิลเท่างานนี้เลย

รองเท้าเจ้าสาว ราคาประมาณ 2,000 บาท ซึ่งคุณเนซื้อรองเท้าสำหรับงานแต่งงานไว้ล่วงหน้า 5 เดือน แต่สวมได้เพียง 20 นาที ก็ปวดเท้าเดินไม่ไหว เลยต้องเปลี่ยนมาใส่รองเท้า Crocs แทน แต่ในงานคงไม่มีใครเห็นว่าเจ้าสาวสวมรองเท้าแบบไหนหรอก เพราะชุดยาวจนมองไม่เห็นเท้าอยู่แล้ว

14. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 : งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสช่วงเย็น เริ่มต้นที่บรรยากาศหน้างาน โดยเพลงที่ใช้เปิดคลอบรรยากาศงานแต่งก่อนเข้าพิธี คุณเนเลือกเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งหมด โดยมีนักดนตรีมาสีไวโอลินบรรเลงภายในงาน ซึ่งแขกที่มาร่วมงานก็ประทับใจสุดๆ ไปเลย

ไปชมภาพบรรยากาศภายในงานกันค่ะ

ป้ายสามเหลี่ยมนี้ คุณเนบอกว่ามันน่ารักดี เลยสั่งมาจากทางเน็ต ทั้งหมดประมาณ 350 บาท

กรอบรูปที่ใช้ตกแต่งงาน คุณเนเลือกซื้อเองที่จตุจักร และ Index

ปากกาเขียนคำอวยพร เพื่อนรักเป็นคนทำให้

15. งานแต่งงานของคุณเนกับคุณปอนด์ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะไม่อยากให้มีคนเมาแล้วเกิดอุบัติเหตุเพราะมางานแต่ง เลยตกลงกันเลี้ยงเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้แทน โดยซื้อน้ำผลไม้มาลี ทิปโก้ ประมาณ 30 ลัง ผสมๆ กันไป โดยให้ทางออร์แกไนซ์จัดวางให้โต๊ะละ 1 กล่อง โต๊ะไหนหมดก็สามารถเพิ่มได้

16. พิธีกรงานแต่ง คุณเนติดต่อเพื่อนรุ่นพี่ตอนเรียนป.โทมาเป็นพิธีกรให้ ซึ่งต้องติดต่อล่วงหน้าประมาณ 7 เดือนได้ เพราะเขาต้องเช็คคิวงานก่อน ส่วนพิธีกรหญิงเป็นเพื่อนสนิทคุณปอนด์ ซึ่งพิธีกรหญิงตื่นเต้นมากเพราะเป็นพิธีกรงานแรกด้วย

17. เมื่อใกล้ได้เวลาคู่บ่าวสาวเข้าพิธี ทางออร์แกไนซ์ก็มาแจ้งกำหนดการว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยคุณเนกับคุณปอนด์ตกลงกันตั้งแต่เริ่มวางแผนแต่งงานแล้วว่า จะให้หลานสองคนเดินนำเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่ตอนนั้นก็แอบกังวลว่าหลานสาวตัวเล็ก 4 ขวบจะทำได้ไหม ลองถามดูหลานสาวบอกว่า โตแล้วก็ต้องทำได้สิ คุณเนก็เริ่มมั่นใจ พอถึงวันงานจริงๆ ก็ชลมุนนิดหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

18. เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นเวที ประธานกล่าวอวยพร และเดินลงมาจุดเทียนแต่งงานแล้ว คุณเนกับคุณปอนด์ก็ไปเปิดแชมเปญ ตอนแรกออร์แกไนซ์ให้เลือกระหว่างตัดเค้กกับเปิดแชมเปญ คุณเนกับคุณปอนด์ตกลงกันว่าจะเปิดแขมเปญ แต่พอมาถึงงานก็เห็นมีเค้กแต่งงานวางอยู่ ซึ่งทางออร์แกไนซ์บอกว่าเป็นของแถมค่ะ แต่เนื่องจากในงานปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงใช้น้ำบลูฮาวายอัดก๊าซแทน

19. ช่วงโยนดอกไม้ในงานแต่งงานจะมีดอกไม้ 2 ช่อ โดยช่อแรกคุณเนเป็นคนโยน ส่วนอีกช่อคุณปอนด์ให้พิธีกรหญิงนั้นเอง คุณเนตกลงกับคุณปอนด์ว่า เจ้าบ่าวจะเป็นคนพูดบอกแขก

20. หลังจากเสร็จพิธีทุกอย่างและแขกกลับหมดแล้ว ทางออร์แกไนซ์แจ้งมาว่า โต๊ะจีนเหลือ 8 โต๊ะ ให้เปิดเลยไหม เราก็บอกให้เปิด 2 โต๊ะ ให้ญาติได้ทาน 1 โต๊ะ ส่วนอีก 1 โต๊ะให้ทีมช่างภาพ แล้วที่เหลือก็แบ่งกันระหว่างบ้านคุณเนกับบ้านคุณปอนด์ และเมื่อเสร็จงาน เก็บของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาแยกย้าย กลับบ้านค่ะ

หลังจากกลับมาถึงบ้าน อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เหมือนที่หลายๆ คนรู้ค่ะว่าจะต้องทำอะไรต่อจากนี้ …….

ใช่แล้วค่าาาา ต้องนับซองโต้รุ่ง และเคลียร์ค่าจัดงานแต่งงานทั้งหมดนั่นเอง ซึ่งกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าเลยค่ะ

ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วกับรีวิวแต่งงานในสวนของพ่อคุณเน ปิดท้ายด้วยสรุปค่าจัดงานแต่งงานทั้งหมดกันค่ะ

สรุปค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน

แบบคร่าวๆ

ค่าการ์ดแต่งงาน ใบละ 14 บาท X 1,300 ใบ = 18,200 บาท รวมค่าบล็อก พิมพ์ 2 ครั้ง X ครั้งละ 300 บาท = 600 บาท
รวมค่าการ์ดแต่งงานทั้งสิ้น 18,800 บาท
ค่าของชำร่วย เป็นแก้วใบละ 19 บาท X 1,400 ใบ = 26,600 บาท
(ค่าโต๊ะจีน + ค่าจัดดอกไม้ + พิธีแต่งงานเช้า) ราคาเหมาจ่าย 3,500 X จำนวนแขกที่มาร่วมงาน 160 คน = 560,000 บาท
ค่าเช่าสถานที่จัดงานแต่งงาน = 30,000 บาท
ค่าช่างภาพวันแต่งงาน ช่างภาพทั้งหมด 5 คน ทั้งงานเช้าและงานเย็น = 42,500 บาท
ค่าถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง รวมชุดแต่งงาน 4 ชุด = 72,200 บาท