วันนี้ Weddinglist ยินดีพร้อมนำเสนอลิสต์เพลงสำหรับใช้เปิดในงานแต่งงาน หลากอารมณ์หลายแง่มุมความรักสำหรับชีวิตคู่ใหม่ แต่ละเพลงนี่ขอรับประกันเรื่องความหมายดี ๆ เมโลดี้ไพเราะ เหมาะนำไปเพิ่มบรรยากาศแห่งความรักให้อบอวลยิ่งขึ้น จะใช้เปิดคลอ หรือเปิดฟลอร์ก็ไม่ว่ากันค่ะ
แต่งานนี้ขอเก็บเพลงคลาสสิคตั้งแต่รุ่นเก่า ๆ ที่เปิดกันจนช้ำไปก่อน ลองมาฟังเพลงใหม่ ๆ ที่หวานจนละลายไม่แพ้กันดูบ้าง ชอบใจเพลงไหนหยิบไปวางในลิสต์กันได้เลยนะคะ
เพลงนี้รับรองว่าต้องเคยได้ยินติดหูกันมาหลายงาน ทั้งท่วงทำนองสุดคลาสสิคของเพลง Canon บวกกับเสียงนุ่ม ๆ และอ่อนโยนของ Shane Filan แห่งวง Westlife เป็นเพลงแต่งงานที่โรแมนติกอย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ และด้วยความที่เพลงนี้เป็นเพลงที่ Shane แต่งเองสำหรับใช้ในงานแต่งงานของเขากับภรรยา เนื้อเพลงจึงมีความหมายหวานซึ้งสุดใจไปเลยล่ะค่ะ
“So as long as I live I’ll love you, Will have and hold you, You look so beautiful in white.
And from now to my very last breath, This day I’ll cherish, You look so beautiful in white”
ตราบเท่าที่ผมมีชีวิต ผมจะรักคุณ โอบกอดคุณ และมีเพียงคุณ, ผมขอสัญญา จากวันนี้และตลอดไปจนลมหายใจสุดท้ายของผม…คุณในชุดสีขาวนี้ช่างงดงามเหลือเกิน
…ความหมายช่างสมกับเป็นเพลงแต่งงานที่สุดเลยค่ะ
เพลงนี้ถือเป็นเพลงงานแต่งงานของ Edward และ Bella แห่งมหากาพย์ Twilight ค่ะ ไม่ต้องถามถึงบรรยากาศที่จะต้องอบอวลไปด้วยความโรแมนติกเมื่อใช้เพลงนี้ไปเปิดในงานแต่งงานของคุณด้วย โดยเฉพาะงานแต่งงานแบบคริสต์หรือพิธีแต่งงานแบบแลกแหวน เพราะความหมายของเพลงช่างสอดคล้องรองรับบรรยากาศยิ่งนัก
“Heart beats fast, Colors and promises, How to be brave?, How can I love when I’m afraid to fall. But watching you stand alone, All of my doubt, suddenly goes away somehow…One step closer”
หัวใจเต้นรัวแรง, สีสัน และคำสัญญา, ทำยังไงฉันถึงจะไม่หวาดหวั่น, ฉันจะรักคุณได้อย่างไรในเมื่อฉันยังกลัวที่จะพลาดล้ม…
แต่เมื่อฉันมองเห็นคุณยืนรออยู่ข้างหน้านั้น ความหวาดหวั่นทั้งหลายจึงมลายหายสิ้น…ฉันกำลังก้าวไปหาคุณแล้ว
เพลงนี้เป็นเพลงช้า ๆ ซึ้ง ๆ จากศิลปินหนุ่มชาวจีนที่โด่งดังจาก YouTube Channel เนื้อเพลงความหมายดี ดนตรี Pop ช้า ๆ แต่ไม่เอื่อยเฉื่อย ฟังง่าย กลิ่นอายโรแมนติกเต็มขั้นด้วยเสียงเปียโนแทรก เนื้อหาของเพลงแทนความรู้สึกขอบคุณจากชายถึงหญิงคนรักค่ะ
“Now I just wanna tell you how much I appreciate your love, So I’ll be there when you call, Pick you up when you fall and if you ever get lonely I’ll be there in a heartbeat.
This song is for you, For everything we’ve been through, It’s been so long overdue, I just wanna say Thank You”
ตอนนี้ผมแค่อยากบอกว่าซาบซึ้งในความรักของคุณแค่ไหน…ฉะนั้น ผมจะอยู่เพื่อคุณเสมอขอแค่เรียกมา ผมจะฉุดคุณขึ้นยามคุณล้ม
และหากคุณรู้สึกเดียวดาย ผมจะรีบไปทันทีเพียงอึดใจเดียว
เพลงนี้ขอมอบให้คุณ สำหรับทุกสิ่งที่เราผ่านมาด้วยกันเนิ่นนาน …ขอบคุณ
หวานกว่านี้ไม่มีอีกแล้วววว ทั้งด้วยท่วงทำนองชวนยิ้ม ดนตรีฟังสบาย ๆ ไม่บัลลาดมากนัก ถ่ายทอดโดยเสียงร้องของชายที่มีน้ำเสียงชวนฝันที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคนี้ Charlie Puth ความหมายของเพลงคือคำมั่นสัญญาของคู่รักที่จะรักกันตลอดไปค่ะ
“When we’re old and gray, And our faces changed, whoa oh
There won’t be a moment when my heart don’t feel the same…That’s some type of love”
เมื่อเราสองคนแก่ลง ผมกลายเป็นสีเทา ใบหน้าของเราเปลี่ยนไป…
จะไม่มีวันที่หัวใจฉันจะไม่รู้สึกเช่นเดิม…นี่ล่ะความรัก
ทุกคู่รักย่อมต้องผ่านช่วงเวลาวัดใจที่ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกันมาแล้วก่อนจะถึงวันที่ได้แต่งงานสมใจ เพราะฉะนั้น เพลงช้า ๆ ซึ้ง ๆ จากวง Boys Like Girls และ Taylor Swift เพลงนี้สมควรถูกจัดมาไว้ในลิสต์เพลงแต่งงานค่ะ รับรองว่าโดนใจจนน้ำตารื้นแน่นอน
“So maybe it’s true that I can’t live without you and maybe two is better than one,
But there’s so much time to figure out the rest of my life and you’ve already got me coming undone, and I’m thinking two is better than one”
มันอาจจะจริงที่ฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีคุณ อาจจะจริงที่สองย่อมดีกว่าหนึ่ง
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เราสองแยกจาก แต่ฉันก็กลับไปหาคุณเสมอ…ฉันคิดว่าเราสองอยู่ด้วยกันดีกว่าอยู่คนเดียวนะ
เพลงแต่งงานแห่งยุคต้องยกให้เพลงนี้ค่ะ รับรองว่าได้ยินแทบทุกงานในช่วงปีสองปีนี้เลยทีเดียว ก็เพลงนี้มันช่างหวานจนสาว ๆ หน้าไหนหากได้ยินคุณแฟนร้องเพลงนี้ให้คงต้องละลายกันไปข้าง ลองใช้เพลงนี้ไปเปิดในงานหรือจะใช้ร้องเซอรืไพรส์ว่าที่เจ้าสาวก็เป็นไอเดียที่เจ๋งไม่เบาค่ะ
“And, darling, I will be loving you ’til we’re 70
And, baby, my heart could still fall as hard at 23″
ที่รัก…ผมจะรักคุณอย่างนี้ไปจนอายุ 70 เลยนะ
และ หัวใจของผมจะยังคงรักคุณอย่างร้อนแรงเหมือนยังอายุ 23 เลย
เพลงแทนคำมั่นสัญญาของว่าที่เจ้าสาวกันบ้างค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงแต่งงานยอดฮิตไม่แพ้เพลงข้างบนเลยล่ะค่ะ แต่เพลงนี้เป็นมุมมองของฝ่ายสาว ๆ เนื้อเพลงมีความหมายโรแมนติกชวนซึ้งสุด ๆ แต่อารมณ์การร้องจะคล้าย ๆ การบอกรักและสัญญาแบบซื่อ ๆ ตรง ๆ จริงใจ ห้วนนิด ๆ ตามสไตล์สาวแอบขี้อาย แต่ก็รักคุณนะ
“How long will I love you? As long as stars are above you and longer, if I can.
How long will I be with you? As long as the sea is bound to wash upon the sand.”
ฉันจะรักคุณไปถึงเมื่อไหร่น่ะเหรอ? ตราบเท่าที่ดวงดาวยังอยู่บนท้องฟ้านั่น, ถ้าฉันทำได้อ่ะนะ
ฉันจะอยู่กับคุณไปถึงเมื่อไหร่น่ะเหรอ? ตราบเท่าที่คลื่นทะเลยังซัดสู่ผืนทรายไงล่ะ…
เพลงนี้จะอารมณ์คล้ายคนคลั่งรัก แบบกำลังข้าวใหม่ปลามัน แต่ก็หวานพอจะใช้มาเป็นเพลงแต่งงานค่ะ เดิมที่ต้นฉบับเป็นของ Justin Bieber แต่พอสาว Ariana Grande นำมาร้องใหม่ ในเวอร์ชั่น R&B ด้วยเสียงหวาน ๆ ชวนเคลิ้มของเธอ เพลงนี้ก็เพิ่มดีกรีความหวานและน่าเอ็นดูขึ้นอีกเป็นกองค่ะ
“I can’t help it, I’m just selfish, There’s no way that I could share you
That would break my heart to pieces, Honestly the truth is If I could just die in your arms,I wouldn’t mind”
ช่วยไม่ได้นะที่ฉันจะเห็นแก่ตัว เพราะไม่มีทางที่ฉันจะแบ่งคุณให้ใครหรอก
ไม่งั้นหัวใจฉันคงต้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ …ขอสารภาพเลยนะว่าแม้ให้ฉันตายอยู่ในอ้อมอกของคุณฉันก็ยอม
เพลงนี้หวานล้วน ๆ ไม่มีสิ่งใดเจือปน แม้เนื้อหาจะดูไม่ได้เป็นเพลงแต่งงานแบบจ๋า ๆ แต่ทั้งทำนอง ดนตรี และการร้องแบบอารมณ์เพ้อ ๆ เสียงหลง ๆ ของ Charlie Puth ทำให้เพลงนี้ชวนให้สาว ๆ ละลาย ความหมายของเพลงคือการสารภาพรักในอารมณ์สุดหวานจากก้นบึ้งของใจชาย ว่าเมื่อหญิงสาวคนที่ใช่ได้เดินเข้ามา ชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งก็เปลี่ยนไป… จะใช้เป็นเพลงขอแต่งงานก็ดีไปอีก
“Some girls walk in the room and everything remains, But when you opened up the door, my life completely changed …There’s beautiful and then there’s you”
ผู้หญิงบางคนเดินผ่านเข้ามาทุกสิ่งก็ยังคงเดิม แต่เมื่อทันทีที่คุณเปิดประตูเข้ามา ชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง …ทุกสิ่งช่างสวยงามเมื่อผมมีคุณ
เพลงนี้อาจไม่ใช่เพลงฮิตติดหู แต่ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Twilight ภาคที่ Edward กับ Bella แต่งงานกันต้องเคยได้ยินเพลงนี้แน่นอน เพลงนี้เป็นเพลงฟังสบาย ๆ ชิล ๆ เคลิ้ม ๆ แต่เนื้อหาหวานและอบอุ่นมาก จะใช้เปิดคลอให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวรวมทั้งคนในงานได้มาเต้นรำคลอเพลงกันเบา ๆ ก็น่ารักดีค่ะ
“If we never found this love, If we never took that road, If we hadn’t had the heart, We wouldn’t have this home
Love, love will take you, Love will take you there”
หากเราไม่เคยค้นพบรักครั้งนี้ หากเราไม่เคยผ่านมาพบกัน หากว่าเรานั้นไม่มีหัวใจ…เราคงไม่ได้มีบ้านนี้ด้วยกัน รัก…รักพาคุณมา…ความรักพาเรามาเจอกัน”
เพลงรักสุดคลาสสิคจากซีรีส์ยอดฮิต Gossip Girl จังหวะฟังสบาย ๆ ความหมายดี เมโลดี้น่ารัก เปิดคลอเบา ๆ ในงานแต่งงานเพิ่มบรรยากาศแห่งความรักก็เข้าทีค่ะ
“Every question, Every answer too… Ever constant , Ever changing you
It’s all memory in the sun or it’s all in the darkness, Maybe it’s all around to see If we try…
And maybe it’s been inside of me all this time …Love love love”
เป็นทุก ๆ คำถาม และก็เป็นทุก ๆ คำตอบ
แสนมั่นคงแน่นอน แต่ก็เปลี่ยนแปลงคุณได้
เป็นทั้งแสงแดดสว่างสดใสและความมืดมน
มันอาจจะอยู่รอบ ๆ ตัวเรานี่แหละ และบางทีก็อาจจะอยู่ในตัวฉันเอง ความรักไง
เพลงสารภาพรักจากใจชายมาอีกแล้วค่ะ แต่คราวนี้มาแบบซึ้ง ๆ และดราม่าหน่อย เป็นเพลงของ Brian McFadden อดีตหนึ่งในสมาชิกวง Westlife ด้วยเนื้อเสียงนุ่ม ๆ คุณภาพแทนชายผู้มีชีวิตคู่ บวกกับเสียงละไม ๆ ของกีตาร์คลาสสิค ที่เด็ดสุดคือควาหมมายเพลงค่ะ
“She changed my life, She cleaned me up, She found my heart…Like only a woman can
She pulls me up when she knows I’m sad, She knows her man…Like only a woman can”
เธอเปลี่ยนชีวิตผม เธอชะล้างผม เธอค้นพบหัวใจของผม…ผู้หญิงเท่านั้นแหละที่ทำได้
เธอฉุดผมขึ้นเมื่อเธอรู้ว่าผมเจ็บปวด เธอรู้จักผู้ชายของเธอดีกว่าใคร…ผู้หญิงเท่านั้นแหละที่ทำได้”
เมื่อได้ก้าวผ่านสถานะแฟนมาสู่ความรักและความผูกพันแบบคู่ชีวิต หลาย ๆ คู่คงเคยผ่านช่วงเวลาแบบเพลงนี้ค่ะ คือการตระหนักว่าอีกคนเป็นเสมือน “บ้าน” เป็นความอบอุ่นและ Comfort Zone ของกันและกัน เพลงอบอุ่น ๆ แบบนี้ถูกถ่ายทอดผ่านศิลปินสาวน้ำเสียงทุ้มอบอุ่นเช่นกัน สามารถถ่ายทอดความรู้สึก “ขอบคุณ” ออกมาได้อย่างละมุนละไม เหมาะเป็นเพลงโรแมนติก ๆ ใช้เปิดในงานแต่งงานค่ะ
“Push the door, I’m home at last and I’m soaking through and through, then you handed me a towel and all I see is you.
I want to thank you for giving me the best day of my life, Oh just to be with you is having the best day of my life”
ในที่สุดก็ถึงบ้าน ฉันผลักประตูเข้าไป ตัวเปียกโชกไปหมด…คุณยื่นผ้าเช็ดตัวให้ฉัน และทั้งหมดที่ฉันมองเห็นคือคุณเท่านั้น
ฉันอยากจะขอบคุณที่มอบวันที่ดีที่สุดในชีวิตกับฉัน…แค่มีคุณอยู่ นั้นคือวันที่ดีที่สุดของฉัน
เพลงอบอุ่นจากอัลบั้มเดี่ยวของ Shane Filan แห่งวง Westlife หวานซึ้ง และอบอุ่นใจตั้งแต่ดนตรีที่ฟังง่าย เสียงร้องที่อบอุ่นแต่หนักแน่นในการยืนยันความแน่ใจในรักที่มีต่อหญิงสาวผู้หนึ่ง นอกจากความอบอุ่นยังมีความให้เกียรติ และเคารพในคุณค่าของคู่รัก เพลงนี้แทนความรู้สึกที่ว่าที่เจ้าสาวอยากได้ยินแน่นอนค่ะ
“But some day you wake up and feel like you need love, you can’t see your smile, your eyes not the way that I do.
Don’t ever feel worthless, just know that your perfect and I’d change the world before I change a thing about you”
วันใดที่คุณตื่นขึ้นมาและรู้สึกขาดความรัก มองไม่เห็นรอยยิ้มของตัวเองอีกแล้ว… คุณมองไม่เห็นเหมือนที่ผมเห็นหรอกนะ
อย่ารู้สึกไร้ค่าเลย รู้ไว้เถอะว่าคุณน่ะเพอร์เฟกต์แล้ว และผมยอมเปลี่ยนโลกทั้งใบก่อนที่จะคิดเปลี่ยนอะไรในตัวคุณ
เพลงอาร์ต ๆ ความหมายซับซ้อน ประกอบดนตรีเบา ๆ มีมนต์ขลังเฉพาะตัวที่ให้บรรยากาศโรแมนติก ใช้เปิดฟลอร์เต้นรำของคู่บ่าวสาวก็ยังได้ เพลงนี้เป็นเพลงจากภาพยนตร์ Twilight เนื้อเพลงมีเนื้อหาอิงการเมืองของอเมริกา แต่ตีความเป็นเรื่องความรักก็สุดโรแมนติก อารมณ์ประมาณชายคนหนึ่งที่แสวงหาความรักมาตลอดจนพบหญิงสาวที่มาเปลี่ยนชีวิตและจุดประกายความรักแก่เขา แค่หลับตาฟังเบา ๆ ก็หวานจะแย่ อย่าพลาดนำไปใช้เป็นเพลงในงานแต่งงานของคุณนะคะ
“Have I found you Flightless bird, jealous, weeping or lost you, american mouth, Big pill looming”
ในที่สุดก็พบเธอ นกน้อยผู้ไร้แรงโผบิน ฉันเฝ้าแต่ไขว่คว้าหาคุณ และร่ำร้องกลัวจะเสียคุณไป
ใครบ้างไม่รู้จักเพลงนี้ เพลงคลาสสิคในตำนานประกอบเทพนิยาย “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ฟังเฉย ๆ ก็สุดคลาสสิค ยิ่งหากได้ใช้เปิดคลอในงานแต่งงานธีมเทพนิยาย บรรยากาศคลาสสิคฟรุ้งฟริ้งหน่อย รับรองว่าสร้างมนต์ขลังอันแสนหวานให้กับงานแต่งงานคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะค่ะ
“Ever just the same, Ever a surprise, Ever as before, Ever just as sure as the sun will rise”
ไม่ว่ากี่สมัย เนิ่นนานไปก็ตาม แปลกที่ยังจริงแท้ และแน่นอนทุกอย่าง ดุจดังแสงตะวัน
เพลงนี้เป็นเพลงรักที่คลาสสิคสุด ๆ เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว แต่กลับมาเปิดฟังตอนนี้ก็ยังคงความคลาสสิคไม่รู้ลืม อารมณ์และฟีลลิ่งของเพลงอาจฟังดูเอื่อย ๆ แต่ท่วงทำนอง เสียงกีตาร์คลาสสิคและไวโอลินคลอเบา ๆ ในเพลงถ่ายทอดความโรแมนติกออกมาอย่างน่าเคลิบเคลิ้ม เนื้อหาคือผู้ชายคนหนึ่งที่ชีวิตเฉื่อย ๆ ของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลเมื่อได้ตกหลุมรัก…อาจเป็นเพลงสมัยพบกันแรก ๆ ของบ่าวสาวหลายคู่ อย่าลืมนำมาเปิดในงานแต่งงานของคุณด้วยนะคะ
“Cause it’s you and me and all of the people with nothing to do, nothing to lose
And it’s you and me and all of the people, and I don’t know why I can’t keep my eyes off of you”
เพราะเรื่องเธอและฉัน กับผู้คนที่ไม่มีอะไรจะทำ ไม่มีอะไรจะเสีย
เรื่องของเธอและฉัน และผู้คนทั้งหลาย…และฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันจึงละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย
มาโรแมนติกแบบเซ็กซี่ อุ่นเครื่องรอคืนเข้าหอกันสักหน่อย ด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ Fifty Shades of Grey ที่คนมีความรักน้อยคนจะไม่เคยฟัง ใช้เปิดเป็นเพลงในงานแต่งงานสามารถสร้างทั้งบรรยากาศโรแมนติก ร้อนแรง มีชีวิตชีวาค่ะ
“On the edge of paradise, Every inch of your skin is a holy grail I’ve got to find…
Only you can set my heart on fire, on fire”
ที่ชายแดนแห่งสรวงสวรรค์ ฉันค้นพบว่า ทุก ๆ อณูบนร่างกายของคุณคือสิ่งที่ฉันปรารถนาที่สุด
คุณเท่านั้นที่ทำให้หัวใจของฉันร้อนรุ่มดั่งไฟ
เพลงน้ำผึ้งพระจันทร์อย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะเพลงนี้ จะแปลให้เป็นเพลงรักก็หวานซึ้ง จะแปลให้เซ็กซี่หน่อย ๆ ก็ล้ำลึกอีกเช่นกัน ทั้งเนื้อเพลง ดนตรีช้า ๆ เสียงนุ่ม ๆ ของ Kelly Sweet ทำให้เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เหมาะจะนำไปเปิดคลอในงานแต่งงานยิ่งนัก
“Didn’t need to ask, Don’t know the reason, Everything that I believe is right here
I am you, You are me, We are one”
ไม่ต้องการถามอะไรอีก ไม่อยากรู้เหตุผล เพราะทุกสิ่งที่ฉันเชื่ออยู่ตรงหน้านี้แล้ว
ฉันคือคุณ คุณคือฉัน…เราเป็นหนึ่งเดียวกัน
ปิดท้ายที่เพลงที่มีจังหวะหน่อย ๆ คึกคัก มีชีวิตชีวาและมีพลังเกินกว่าจะเป็นเพลงโรแมนติก แต่เนื้อความของเพลงนี้นั้นช่างเหมาะกับคู่ชีวิตคู่ใหม่ ที่กำลังจะเริ่มต้นการผจญภัยในชีวิตด้วยกันค่ะ
“Walking between the raindrops, Riding the aftershock beside you, Off into the sunset, Living like there’s nothing left to lose
Chasing after gold mines, Crossing the fine lines we knew, Hold on and take a breath I’ll be here every step, walking between the raindrops with you”
จะเดินฝ่าสายฝนไปด้วยกัน ข้ามผ่านอุปสรรคนานาเคียงข้างคุณ
เราจะออกไปสู่แสงตะวัน ใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรจะเสีย
วิ่งฝ่าแรงระเบิด ก้าวข้ามเส้นบาง ๆ ระหว่างเรา… ขอให้คุณอดทนไว้ สูดลมหายใจลึก ๆ ฉันจะอยู่ตรงนี้กับคุณในทุก ๆ ก้าวเดิน ฝ่าฝนไปด้วยกัน
Credit : www.youtube.com
