รีวิวแต่งงาน จัดงานแต่งเอง 01

รีวิวแต่งงานนี้มีคำตอบ : จัดงานแต่งเองอย่างไร เมื่อไม่มี Wedding Planner และมีงบไม่เกิน 2 แสน


เพราะเราอยากจัดงานแต่งงานเองมากกว่าจ้าง Wedding Planner ข้อมูลแต่งงานทั้งหมดจึงต้องหาใน Google เพราะทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเป็นลูกคนโตของครอบครัว ส่วนพี่น้องคนอื่น ๆ ก็ยังไม่เคยมีใครแต่งงาน เลยไม่รู้ว่าจะหาต้นแบบจากไหน ทั้งการจัดพิธี กำหนดการ เขียนสคริปต์ สั่งซื้อของ จองคิวจัดงานแต่ง ฯลฯ

เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามคู่หนึ่งได้จัดงานแต่งงานโดยไม่ได้จ้าง Wedding Planner มาช่วยคิดงาน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะให้งานออกมาเป๊ะทุกด้านของทั้งงาน แถมครอบครัวทั้งสองฝ่ายยังไม่เคยมีประสบการณ์จัดงานแต่งงานในรุ่นลูกหลานมาก่อน ทำให้จุดเริ่มต้นของการจัดงานแต่งเองมักยากเสมอ

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-01

จับต้นชนปลาย

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวหลายคนอาจยังสับสนกับการลำดับขั้นตอน อันนั้นก็ต้องทำ อันนี้ก็ต้องทำ คนนั้นจะเอาอย่างนี้ คนนี้จะเอาอย่างนั้น เจ้าสาวแนะนำให้จดรายการต่าง ๆ เป็นข้อ ๆ มาเลย แล้วแบ่งกันว่า เจ้าบ่าวจะทำส่วนนี้ อีกส่วนหนึ่งให้เจ้าสาวทำ เหมือนกับทำงานกลุ่มนั่นแหละค่ะ เพราะถ้ารอให้ทั้งคู่ว่างพร้อมกันอาจทำให้โพรเซสงานล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่ในส่วนนี้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกันนะคะ

ขั้นตอนที่ 1 : หาฤกษ์แต่งงาน

เนื่องจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ได้จริงจังเรื่องฤกษ์แต่งงานมากนัก เลยไม่ได้ดูฤกษ์กับพระหรือหมอดูเลย ใช้วิธีการหาวันที่จากข้อมูลดิถีเรียงหมอนในอินเทอร์เน็ต โดยเลือกวันที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวหยุดตรงกัน และมีระยะเวลามากพอให้เตรียมตัว วางแผนจัดงานแต่งงานเองได้ทัน

ขั้นตอนที่ 2 : จัดงานเลี้ยงที่ไหนดี

เจ้าบ่าวเจ้าสาวตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานเป็นที่โรงแรม เพื่อให้สะดวกต่อทั้งสองฝ่าย หลังเสร็จงานก็ไม่ต้องทำความสะอาดเอง โดยจัดแบบแต่งเช้าเลี้ยงเที่ยง

พิธีแต่งงานเช้า เป็นพิธียกน้ำชาแบบจีน และจัดเลี้ยงโต๊ะจีนในตอนเที่ยงของวันนั้น ซึ่งเจ้าสาวกล่าวเพิ่มเติมว่า จัดงานแต่งงานที่ต่างจังหวัดมีข้อดีคือ สามารถแต่งเช้าเลี้ยงเที่ยงแบบม้วนเดียวจบ ไม่ต้องทิ้งช่วงพักเหนื่อยแล้วมาเหนื่อยต่อช่วงเย็น จะได้พักผ่อนยาว ๆ ไปเลย (อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวด้วยนะ)

ขั้นตอนที่ 3 : ติดต่อโรงแรม

เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่ที่จังหวัดยะลา จึงมีโรงแรมให้เลือกไม่มากนัก และมาตรฐานไม่ต่างกันมาก ก่อนจะจองโรงแรมควรรู้ว่า แต่ละโรงแรมมีอะไรพิเศษให้เราบ้าง ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเลือกโรงแรมจากการต้อนรับของ Sale โรงแรมที่ไปติดต่อเป็นหลัก ถ้า Sale คนนี้ดูให้เกียรติลูกค้า อยากอธิบาย มีรายละเอียดต่าง ๆ เช่น อาหารจัดเลี้ยง เช็กลิสต์ต่าง ๆ ปรินท์ให้ลูกค้าพร้อม ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละโรงแรมย่อมต่างกัน

เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวตัดสินใจได้แล้วก็วางเงินมัดจำ และอย่าลืมขอเบอร์ Sale โรงแรมคนนั้นไว้ ซึ่งช่วงระหว่างเตรียมงาน เบอร์โทร Sale จะมีโอกาสได้ใช้แน่นอน

ขั้นตอนที่ 4 : งานแต่งนี้มีเพื่อใคร

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า จัดงานแต่งงานครั้งนี้ แขกส่วนใหญ่เป็นแขกรุ่นไหน ถ้าส่วนมากเป็นแขกผู้ใหญ่ การจัดตกแต่งงานอาจต้องเป็นทางการหน่อย แม้จะไม่โดนใจวัยเราก็ควรเอาใจส่วนใหญ่ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดดราม่าตามมาทีหลัง แต่ถ้าแขกส่วนใหญ่เป็นเด็ก ๆ เพื่อน ๆ กันเอง อาจลดความเป็นทางการลง และเน้นคอนเซ็ปต์ที่ดูทันสมัยได้มากขึ้น

สำหรับความเห็นของบ่าวสาวคู่นี้แล้ว การตกแต่งงานให้ยึดตามงบประมาณส่วนตัวเป็นหลัก

ขั้นตอนที่ 5 : เชิญแขกกี่คน

เรื่องนี้คาดคะเนยาก เพราะตอนแจกการ์ดแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะไม่สามารถถามแขกได้เลยว่ามางานได้หรือไม่

เจ้าสาวแนะนำให้ลองคุยกับทางโรงแรมก่อน เพราะบางโรงแรมกำหนดจำนวนขั้นต่ำของโต๊ะในงาน และสามารถสำรองโต๊ะเพิ่มได้ ซึ่งจะเสียค่าโต๊ะสำรองก็ต่อเมื่อ จำนวนคนไม่พอกับโต๊ะจริงที่สั่งไว้แล้วต้องใช้โต๊ะสำรอง อันนี้ถึงจะเสียเงินตามจำนวนโต๊ะที่ใช้จริงค่ะ

ขั้นตอนที่ 6 : การ์ดแต่งงานและซอง

เจ้าบ่าวเจ้าสาวแนะนำว่า ให้สั่งพิมพ์การ์ดตามจำนวนแขกเบื้องต้นที่แจ้งกับทางโรงแรม และบวกจำนวนอีกประมาณ 10-20% สำหรับคนที่คิดว่าเขาอยู่ไกล ไม่น่าจะเดินทางมาได้ ส่วนซองควรสั่งเผื่อไว้ เพื่อป้องกันการพิมพ์หน้าซองผิด และเผื่อแขกที่มางานลืมเอาซองมา ก็จะมีซองสำรองให้แขกที่หน้างานได้

ขั้นตอนที่ 7 : ชุดแต่งงานพร้อมแพ็กเกจ Pre-Wedding

เจ้าบ่าวเจ้าสาวรวมสองขั้นตอนนี้เข้าด้วยกัน เพราะร้านถ่ายพรีเวดดิ้งส่วนใหญ่จะจัดโปรโมชันถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง พร้อมชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวสำหรับวันงานจริงบวกเครื่องประดับ รวมเป็น 4 ชุด

เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวใช้เวลาหาชุดแต่งงานในวันจริงจากหลาย ๆ ร้านก็พบว่า ค่าเช่าชุดประมาณ 5,000-15,000 บาท / ชุด ซึ่งต้องใช้ทั้งสิ้น 4 ชุด (รวมทั้งเจ้าบ่าวและสาวแล้ว) ตีราคาว่าต่ำสุดชุดละ 5,000 บาท 4 ชุดก็ 20,000 บาท เจ้าบ่าวเจ้าสาวเลยตัดสินใจซื้อแพ็เกจพรีเวดดิ้ง พร้อมชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันงาน ซึ่งคิดว่าน่าจะคุ้มกว่า

ขั้นตอนที่ 8 : ของชำร่วย

ของชำร่วยมีราคาตั้งแต่ 5 – 45 บาท และแพ็กเกจจิ้งที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเลือก ซึ่งจำนวนของชำร่วย เจ้าบ่าวเจ้าสาวใช้สูตรเดียวกับการ์ดแต่งงานคือ บวกเพิ่มไป 20% ของจำนวนแขกทั้งหมดที่แจกการ์ดไป เนื่องจากเท่าที่สังเกต แขกที่มางานมักจะหยิบติดไม้ติดมือไปคนละชิ้นสองชิ้น เช่น สามีภรรยาที่มาด้วยกันอาจจะหยิบคนละชิ้น ก็ต้องเผื่อไว้ก่อน เพราะเผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด เกิดไปแล้วของไม่พอในงานอาจเกิดดราม่าได้

ขั้นตอนที่ 9 : ธีมจัดงานแต่งงาน

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องมีธีมงานแต่งงานในดวงใจรอไว้แล้วแน่นอน แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดียจัดงานแต่งงาน ลองหาได้จาก Google ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวใช้ธีมสีชมพู-ครีม-ทอง

ขั้นตอนที่ 10 : Backdrop

เจ้าสาวแนะนำให้ดูสถานที่จัดงานแต่งงานมาก่อนว่า มีพื้นที่วาง Backdrop ได้กี่จุด ขนาดแต่ละจุดควรเป็นเท่าไหร่ ความกว้าง ความสูงของเพดานโรงแรม แล้วมาคิดดีไซน์ของ Backdrop โดยหาร้านรับทำตามแบบหรือหาตามร้านเช่าก็ได้ หากว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมีแบบในใจอยู่แล้ว ให้นำแบบไปถามแต่ละร้าน ดูราคาแต่ละร้านซึ่งจะแตกต่างกัน ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรตั้งงบประมาณต่อ Backdrop 1 จุดไว้ที่ 8,000-35,000 บาท แล้วแต่แบบ ซึ่งแบบสำเร็จที่ทางร้านมีอยู่แล้วราคาจะถูกกว่าจ้างทำใหม่ ส่วนข้อเสียของแบบสำเร็จคือ มีขนาดเล็ก หากต้องการถ่ายภาพเก็บจำนวนคนเยอะๆ พื้นที่ Backdrop อาจจุไม่พอ ซึ่งเจ้าสาวอาศัยฝีมือการจัดบอร์ดตอนสมัยเรียนมาประยุกต์เอาจนได้

ขั้นตอนที่ 11 : เวทีงานและของตกแต่ง

อันนี้บางโรงแรมจะมีให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งโรงแรมที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเลือกจัดงานแต่งงานก็เช่นกัน แต่ด้วยความที่อยากให้เข้ากับธีมงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ต้องจัดหามาเอง ใครที่อยากทำเองให้ถามความกว้าง-ยาวของเวที และหากตกแต่งเองทางโรงแรมจะช่วยซัพพอร์ตส่วนไหนบ้าง

ขั้นตอนที่ 12 : เพลง และ VDO Presentation ที่ใช้ในงาน

VDO Presentation ของบางร้านอาจอยู่ในแพ็กเกจพรีเวดดิ้ง แต่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ได้ซื้อแพ็กเกจนี้ไว้ เลยต้องทำเอง ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่อยากเล่าที่มาที่ไปให้คนไม่สนิทฟัง เนื้อเรื่อง VDO Presentation ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวจึงเน้นไปทางแนะนำตัว และเป็นรูปถ่ายพรีเวดดิ้งใส่เพลงประกอบ โปรแกรมตัดต่อวิดิโอที่ใช้คือ Sony vegas Pro และแต่งรูปด้วย Photoshop

โดยก่อนหน้านี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวหาข้อมูลแต่งงานเรื่อง ราคาจ้างทำ VDO Presentation มาบ้าง ซึ่งราคาที่ถูกที่สุดจะอยู่ในช่วง 3,500 – 12,000 บาท

ขั้นตอนที่ 13 : เตรียมเครื่องขันหมาก

เจ้าบ่าวเจ้าสาวจึงจัดเตรียมในส่วนตรงนี้เอง ก่อนวันงานที่บ้านเจ้าบ่าวมาจัดขันหมากให้ ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวใช้ขันหมากแบบจีน จึงไม่ได้เน้นความสวยงามมากนัก แต่ถ้าใครแต่งแบบไทยก็มีร้านรับจัดขันหมากไทยเยอะอยู่ แต่ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูง เพราะขันหมากแบบไทยจะเป็นงานฝีมือ ชุดหนึ่ง 10 กว่าขัน ราคาประมาณ 10,000-20,000 บาท ซึ่งแล้วแต่แบบและทางร้านด้วย

ขั้นตอนที่ 14 : ของแจกคนถือขันหมาก

ตามธรรมเนียมจีนแท้อาจแจกเป็นซองแดงใส่เงินเหมือนอั่งเปา แต่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้เป็นสิ่งของ ราคาชิ้นละประมาณ 80-200 บาท กำลังดี หรือใครหาได้ถูกกว่านั้น อาจป็นร่ม แก้วเซรามิค ผ้าขนหนู หรือบางบ้านอาจจะใช้เป็นสบู่ เครื่องหอม ตามประเพณีไทยดั้งเดิมก็ได้

ขั้นตอนที่ 15 : ของตอบแทนพิธียกน้ำชา

ด้วยความที่จัดพิธีแต่งงานจีน โพรเซสงานจะเริ่มต้นจาก สู่ขอ > นับสินสอด > สวมแหวน > ยกน้ำชา  ถ้าเป็นของไทยจะมีตักบาตร ทำบุญ รดน้ำสังข์ก็ว่าไป แบบจีนในพิธียกน้ำชา เมื่อยกน้ำชาให้ผู้ใหญ่ ท่านจะให้ซองแดงกลับมา และเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ให้ของตอบแทนท่านไป ของให้ผู้ใหญ่อาจจะราคาสูงกว่าตอนแจกถือขันหมากหน่อย เพราะถือว่าให้คนที่บ้าน บางคนให้เป็นผ้าถุงบ้าง ผ้าไหมบ้าง ชุดถ้วยชาบ้าง ก็แล้วแต่งบค่ะ

ขั้นตอนที่ 16 : ช่างแต่งหน้าทำผม

จากที่เจ้าสาวสอบถามมา ราคาช่างแต่งหน้าเริ่มต้นที่ 3,500 บาท ซึ่งแล้วแต่ระดับของช่าง ถ้าร้านนี้มีชื่อเสียงหน่อยก็จะอัพราคา 15,000-30,000 บาท แนะนำให้ดูรีวิวก่อนแล้วสอบถามราคา ตอนแรกเจ้าสาวเห็นราคาแล้วก็อึ้งเหมือนกัน ไม่คิดว่าค่าแต่งหน้าจะแพงระดับหลักหมื่น ซึ่งราคาที่เจ้าสาวบอกเป็นราคาต่อครั้งคือ งานเช้า 15,000 งานเย็นอีก 15,000 บาท

ขั้นตอนที่ 17 : ตามหาช่างภาพแต่งงาน

เรทราคาช่างภาพในวันงานมีหลากหลาย ตั้งแต่ 3,000 – 15,000 บาท แล้วแต่งบประมาณของแต่ละคน เจ้าสาวแนะนำให้หารีวิวดูภาพและสีที่ว่าที่บ่าวสาวชื่นชอบได้ตามแฟนเพจ หลายคนสงสัยว่า ทำไมค่าช่างภาพแต่งงานถึงเป็นหมื่น เพราะช่างภาพแต่งงานบางท่านมีทีมมาด้วย ประกอบด้วยคนถือแฟลช ช่างภาพแคนดิด และช่างภาพหลัก

ขั้นตอนที่ 18 : เดินสายแจกการ์ด

ช่วงเดินสายแจกการ์ดแต่งงานเป็นอะไรที่เหน็ดเหนื่อยมาก ยิ่งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่จัดงานแต่งงานเองจะยุ่งขึ้นเป็น 2-3 เท่าเลยทีเดียว โดยงานแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวเชิญแขกทั้งหมด 380 คน ถือว่าเป็นสเกลงานขนาดกลาง ๆ ค่ะ

ขั้นตอนที่ 19 : อาหารว่างตอนเช้าสำหรับคนที่มาถือขันหมาก

เจ้าสาวบอกว่าแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละครอบครัวเลย ส่วนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นชา กาแฟ และผัดหมี่เบตง บางบ้านอาจมีแค่ชา กาแฟ ขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะคนที่ถือขันหมากต้องเตรียมตัวมาก่อนเวลาอยู่แล้ว ระหว่างรอฤกษ์ก็จะได้ทานรองท้องกันก่อน

ขั้นตอนที่ 20 : สคริปต์พิธีกร และลำดับขั้นตอนการรันคิวงาน

ในเมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่พึ่ง Wedding Planner & Organizer การรันคิวทั้งหมดเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ต้องรันกันเอง แต่เนื่องจากครอบครัวทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ค่อยรู้เรื่องพิธีรีตรองกันเท่าไหร่ เลยอาศัยหาข้อมูลจากอากู๋ ทำสคริปต์ รันคิว ส่งให้ผู้ใหญ่แต่ละฝ่ายได้ซักซ้อมพิธีก่อนวันงานค่ะ

ขันหมากและพิธียกน้ำชา

เจ้าสาวอธิบายเรื่องนี้ ของที่ใช้ในขันหมากเป็นเพียงของตามพิธีเท่านั้น อะไรที่ไม่มีสามารถนำอย่างอื่นมาทดแทนได้ตามความเหมาะสม สุดท้ายแล้วพิธีที่ใหญ่โต ไม่สำคัญเท่าความรักของคนสองคนหรอก

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-02

ผังขันหมาก

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-03

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-04

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-05

ส่วนขันหมากฝ่ายหญิง

  1. กล้วยเขียว 1 เครือ จำนวนลูกเป็นเลขคู่
  2. ต้นชุงเฉ่าห่อกระดาษแดง ติดซังอี้ 1 คู่
  3. ส้มเช้ง 24 ผล ติดซังอี้ทุกผล
  4. เอี้ยมแดงครบชุด 1 ชุด
  5. ของแจกขันหมากฝ่ายชาย

เนื่องจากมีของบางอย่างที่หายากในท้องถิ่นเจ้าบ่าวเจ้าสาว เช่น ส้มเช้ง ซึ่งทางภาคใต้ค่อนข้างหายาก จึงต้องสั่งจากร้านรักเพิ่มพูน ซึ่งนำมาจากร้านซื้อของงานแต่งแนะนำใน Kapook เจ้าของร้านชื่อคุณเมธา ให้บริการและคำแนะนำดีมาก คุณเมธายังบอกเราว่า บางอย่างไม่จำเป็นต้องสั่งทั้งหมด อย่างต้นชุงเฉ่าก็สามารถใช้ต้นว่านเศรษฐีแทนได้ ทางร้านให้บริการดีมาก ทางร้านจึงแพ็กส่งมาให้ทางรถไฟ พร้อมเขียนขั้นตอน วิธีทำ การแนะนำมาให้อย่างดี แถมซังอี้มาเพิ่มให้เราไว้ติดกล้วยเครืออีกด้วย

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-06

ส้มเช้ง

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-07

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-08

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-09

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-10

ของแจกขันหมากฝ่ายชาย

หากเป็นประเพณีไทยสมัยโบราณ ส่วนใหญ่จะแจกเป็นเครื่องหอม โดยมีคนแอบกระซิบเจ้าสาวมาว่า สบู่ LUX น่าจะมีความหมายดี (Lucky หรือ Luxury อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณเลยค่ะ)

แต่ในสมัยใหม่ ของแจกก็แล้วแต่ความสะดวกของฝั่งเจ้าสาวเลย เช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว สามารถสั่งได้ตามร้านในเน็ตเยอะแยะเลย บางร้านสามารถสกรีนลายได้ด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 55 บาท แต่อาจต้องสั่งเป็นจำนวนมากหน่อยเท่านั้นเอง หรือถ้าเป็นพิธีแต่งงานจีน บางบ้านถ้าไม่แจกเป็นสิ่งของก็จะแจกเป็นซองแดง

สำหรับของแจกขันหมากในงานแต่งของเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้ได้แก่ แก้วกาแฟบรรจุกล่อง แล้วเรานำมาผูกริบบิ้นผ้าและซื้อถุงหิ้วใส่เอาตามภาพค่ะ

รีวิวแต่งงาน-จัดงานแต่งเอง-11

ของรับไหว้ ยกน้ำชา

ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าแพรรับไหว้ ผ้าขนหนู โถเบญจรงค์ หรือถ้าใครมีงบประมาณหน่อยก็จะให้ผ้าตัดเสื้อ

ส่วนของที่ผู้ใหญ่ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะเป็นพวกซองเงินบ้าง สร้อยทองบ้าง

ของรับไหว้ยกน้ำชาของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นผ้าแพรที่ซื้อจาก Lotus ซึ่งโชคดีที่ตอนซื้อได้ราคา Sale

ราคาของเริ่มต้นที่ 70 – 300 บาท เจ้าสาวเห็นว่า ของรับไหว้ต้องให้ญาติผู้ใหญ่ที่บ้าน เลยต้องซื้อเกรดดี แต่เสียดายที่เจ้าสาวไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มีแต่ตอนที่เราห่อแพ็กเก็จแล้วมาให้ดูกันตามภาพปลากรอบเลยค่ะ

รีวิวแต่งงาน จัดงานแต่งเอง 121

ค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงาน

เอาละค่ะ…มาถึงค่าใช้จ่ายในการจัดขันหมากที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว

ขันหมาก : ฝ่ายหญิง

  1. ส้มเขียว 24 ผล ประมาณ = 600 บาท
  2. ชุดเอี้ยมแดง พร้อมถาดครบชุด = 650 บาท
  3. ต้นชุงเฉ่า พร้อมถาดครบชุด = 550 บาท
  4. กล้วย 1 เครือ จำนวนคู่ อันนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวตัดกันเองแถวบ้าน แต่ถ้าจะสั่ง ราคาจะอยู่ที่ 1,750 บาท
  5. ของแจกขันหมาก เราซือราคาส่งตกชิ้นละ 49 บาท  เราใช้ 18 ชิ้น = 793 บาท (อันนี้เจ้าของร้านลดให้อีก 10%)
  6. พานดอกไม้แหวนหมั้น =  1,000 บาท

รวมค่าใช้จ่ายขันหมากฝ่ายหญิงทั้งสิ้น = 3,593 บาท

ขันหมาก : ฝ่ายชาย

  1. พานดอกไม้ 2 พาน (พานแหวน+พานสินสอด) = 2,000 บาท
  2. ส้มเช้ง 48 ผล พร้อมถาด ผ้ามุ้ง โบว์ ครบชุด = 2,700 บาท
  3. ขนมจันอับ 4 กิโลกรัม แบ่งข้างละ 2 กิโลกรัม = 1,400 บาท
  4. ขนมเปี๊ยะ 4 กล่อง * 150 = 600 บาท
  5. คุกกี้อิมพีเรียลกล่องแดง 4 กล่อง*55 = 220 บาท
  6. เหล้าจีน 2 ขวด เทียนแดง 2 คู่ ราคาประมาณ = 350 บาท
  7. หมี่มงคล 4 ห่อ*60 = 240 บาท
  8. กล้วยเขียว (ไม่ได้ซื้อ)

รวมค่าใช้จ่ายขันหมากฝ่ายชายทั้งสิ้น = 7,510 บาท

รวมค่าใช้จ่ายขันหมาก และยกน้ำชา

  1. ขันหมากฝ่ายหญิง = 3,593 บาท
  2. ขันหมากฝ่ายชาย = 7,510 บาท
  3. ถาดใส่ของขันหมาก เราซื้อร้านขายส่งถาดละ 18 บาท *13 = 234 บาท
  4. ผ้ามุ้งห่อขันหมาก 8 หลา*30 = 240 บาท
  5. ผ้าแดงเนื้อลื่น 6 หลา*40 = 240 บาท
  6. โบว์รูด แพ็กละ 28 บาทมี 10 ชิ้นค่ะ เจ้าสาวใช้ 3 แพ็ก มีขันหมาก และของรับไหว้ = 84 บาท
  7. ผ้าแพร (ของรับไหว้) 199 *16 = 3,184 บาท
  8. กระดาษห่อของขวัญมันมันแวว สีแดง ใช้ห่อผ้าแพร แพ็คละ 17 บาทใช้ 2 แพ็ค = 34 บาท

รวมค่าใช้จ่ายขบวนขันหมากและของรับไหว้ = 15,119 บาท

งานเลี้ยงแขก

เจ้าบ่าวเจ้าสาวจัดงานที่โรงแรม จะแบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 2 ส่วนคือ

  1. ของเลี้ยงตอนพิธีเช้า
  2. งานเลี้ยงแขกตอนเที่ยง

เลี้ยงพิธีเช้า จะเป็นชุดอาหารเบรก ชา กาแฟ และข้าวเหนียวสังขยา โรงแรมคิดชุดละ 40 บาท เจ้าบ่าวเจ้าสาวใช้ 60 ชุด = 2,400 บาท อันนี้หากสะดวกเตรียมมาเองจะประหยัดกว่านี้ แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวใช้ห้องโรงแรมทำพิธียกน้ำชาตอนเช้า ซึ่งทางโรงแรมไม่คิดค่าห้อง แต่ให้สั่งเบรกเช้ากับโรงแรมแทน นอกจากนี้แล้ว หลังพิธียกน้ำชาเสร็จเจ้าบ่าวเจ้าสาวยังสั่งผัดหมี่เบตง ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของทางโรงแรมไว้เลี้ยงแขกด้วย ด้วยเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่และทางบ้านเจ้าบ่าวมาจากต่างจังหวัดกัน คิดว่าคงอยากลองชิมอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดยะลา ปรากฏว่าแขกในงานบอกว่าผัดหมี่เบตงอร่อยมาก

รวมค่าใช้จ่ายพิธีเช้า : ค่าเบรคเช้า 2,400 + ค่าผัดหมี่เบตง 1,800 = 4,200 บาท

งานเลี้ยงตอนเที่ยง

เจ้าบ่าวเจ้าสาวเลือกอาหารจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน เนื่องจากจัดงานแต่งงานที่ต่างจังหวัดมักนิยมจัดเป็นโต๊ะจีน จึงไม่ค่อยเห็นอาหารจัดเลี้ยงแบบ Cocktail เหมือนที่กรุงเทพฯ ซึ่งจริง ๆ แล้ว Cocktail ค่อนข้างจะประหยัดกว่าโต๊ะจีนมาก โดยโต๊ะจีนโรงแรมจะให้เลือกเซ็ตอาหารมีเป็น 10 เซ็ต โดยใน 1 เซ็ตมี 8 อย่างด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ออเดิร์ฟจนไปสุดที่ของหวาน แต่ด้วยความที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทำฉากกันเอง ไม่ใช้อุปกรณ์ ทำให้ Sale โรงแรมเพิ่มอาหารให้เราอีก 1 อย่าง โดยที่ราคาอาหารต่อโต๊ะอยู่ที่ 3,200 บาท รวมเครื่องดื่มน้ำแข็ง น้ำอัดลม โซดา แต่ยังไม่รวมค่าเหล้า โดยค่าเหล้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องสั่งร้านข้างนอกต่างหาก

รวมค่าใช้จ่ายโรงแรมจัดเลี้ยงตอนเที่ยง : ค่าโต๊ะ 30 โต๊ะ x 3200 = 96,000 บาท
ส่วนค่าเหล้าใช้ Blend 285 Signature ขวดกลม จ่ายค่าเหล้าไป 10,000 บาท

รวมค่าใช้จ่ายโรงแรมงานเลี้ยงเที่ยง : 106,000 บาท

รวมค่าจัดงานแต่งงานทั้งสิ้น = 125,319 บาท

(ยังไม่รวมค่าแพ็กเกจชุดแต่งงาน + ช่างแต่งหน้าทำผม + ช่างภาพแต่งงาน และอื่น ๆ แต่คาดว่าไม่เกิน 200,000 บาท)

หากว่าที่บ่าวสาวมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามเจ้าของรีวิวได้ที่ : https://pantip.com/topic/36176737