เลือกชุดแต่งงานแบบไหน ใช่คุณ !

ถึงปัจจุบันจะมีชุดแต่งงานให้เลือกหลากหลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าว่าที่เจ้าสาวจะสามารถเลือกสวมชุดแต่งงานได้ทุกแบบ เพราะชุดแต่งงานแต่ละแบบมีดีไซน์ที่ออกแบบสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างลักษณะเฉพาะ แล้วอย่างนี้ว่าที่เจ้าสาวควรเลือกชุดแต่งงานจากตรงไหนล่ะ อย่างแรกมาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะว่า ชุดแต่งงานมีทั้งหมด 7 แบบ ซึ่งแต่ละแบบจะเหมาะสมกับรูปร่างของว่าที่เจ้าสาวแบบไหนบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

A-Line

ชุดแต่งงานทรงนี้จะมีจุดเด่นที่กระโปรงบานน้อย และค่อยๆ บานออกตั้งแต่เอว – สะโพกลงไปคล้ายกับตัวอักษร A ทำให้ช่วยพรางช่วงสะโพกและขาได้ดี เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก ไม่ค่อยสูงมากนัก

Ballgown

ชุดแต่งงานทรงนี้จะมีจุดเด่นคือ ท่อนบนจะรัดรูปถึงช่วงเอว โดยเส้นเอวอาจอยู่ใต้เอวจริงเล็กน้อยเพื่อให้ลำตัวดูยาวขึ้น ส่วนกระโปรงช่วงล่างจะมีลักษณะเป็นทรงสุ่มบานฟูฟ่องสไตล์เจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดแต่งงานทรงนี้เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างสูงแต่ค่อนข้างอวบ เอวหนา มีหน้าท้อง และสะโพกใหญ่ เพราะช่วงบนจะช่วยพรางลำตัวให้ดูมีเอวมากขึ้นได้ ส่วนว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างเล็กจะไม่เหมาะกับชุดนี้เลย เพราะจะทำให้ดูเตี้ยกว่าเดิมอีก

Mermaid

ชุดแต่งงานทรงนี้พัฒนาจากทรง A-Line คือ ตัวเสื้อช่วงบนจะเข้ารูปเพื่อเน้นให้เห็นช่วงอก เอว และสะโพก และจะค่อยๆ ปล่อยบานไปทางด้านหลังของกระโปรงช่วงล่างซึ่งคล้ายกับหางปลา แต่ช่วงบานจะเริ่มตั้งแต่ช่วงหัวเข่าลงไปซึ่งต่ำกว่าทรง A-Line  ชุดนี้เหมาะกับเจ้าสาวรูปร่างสูงโปร่ง (165 เซนติเมตรขึ้นไป ถ้ายังไม่เห็นภาพให้นึกถึงอั้ม พัชราภาไว้ค่ะ) แต่ข้อควรระวังอยู่ที่ตอนเดิน เพราะชุดที่รัดลงไปถึงหัวเข่าจะทำให้คุณก้าวเดินไม่สะดวกนัก

Trumpet

ชุดแต่งงานทรงนี้จะคล้ายกับ Mermaid แต่ช่วงบานของทรง Trumpet จะบานออกทางด้านกว้างคล้ายกับเครื่องเป่าทรัมเป็ต เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่มีช่วงตัวและเอวสั้น

Empire

ชุดแต่งงานทรงนี้มีขอบเอวสูง ซึ่งต่อกระโปรงตั้งแต่ใต้อกลงไปแล้วปล่อยชายกระโปรงบานเล็กน้อย อาจเป็นกระโปรงเข้ารูปหรือเอบานก็ได้ เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวร่างเล็กที่มีหน้าอกเล็กซึ่งจะทำให้คุณดูสูงโปร่ง แต่ถ้าอกใหญ่อาจทำให้ดูล้นเกิน เพราะชุดแต่งงานทรงนี้จะทำให้ดูอวบอิ่มขึ้น และว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างผอมสูงควรหลีกเลี่ยงชุดแต่งงานทรงนี้เด็ดขาด เพราะจะทำให้คุณดูผอมมากขึ้น

Sheath

ชุดแต่งงานทรงนี้มีลักษณะตรง ไม่มีขอบเอว และทิ้งตัวลงมาอย่างหลวมๆ ตั้งแต่ช่วงบน ทำให้ดูไม่รัดรูปมากนัก แถมช่วยพรางต้นขาได้ดีด้วย เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวร่างเล็กแต่สูงเพรียว แต่เจ้าสาวสะโพกใหญ่ควรหลีกเลี่ยงชุดแต่งงานทรงนี้ เพราะใส่แล้วอาจทำให้คุณดูมีหน้าท้องได้

Slip Dress

เป็นชุดแต่งงานที่รัดรูปแบบแนบเนื้อ เรียบง่าย เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวแนวที่ไม่ชอบความซับซ้อนของชุดมากนัก แต่ต้องมั่นใจในรูปร่างว่า คุณมีหุ่นดีสมส่วน เพราะชุดนี้เน้นรูปร่างชัดเจนมาก

Mini Dress

ชุดแต่งงานทรงนี้มีชายกระโปรงอยู่เหนือหัวเข่า เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างเตี้ยเล็ก ส่วนว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างสูงไม่เหมาะกับชุดแต่งงานทรงนี้ เพราะจะยิ่งทำให้ดูสูงกว่าเดิมค่ะ

Tea-Length

ชุดแต่งงานทรงนี้คล้ายกับ Mini Dress แต่ต่างกันที่ชายกระโปรง โดยชายกระโปรงจะอยู่ระหว่างหัวเข่าถึงข้อเท้าซึ่งจะไม่ยาวคลุมพื้นและไม่ยกลอยเหนือหัวเข่าเหมือน Mini Dress ซึ่งชุดแต่งงานทรง Tea-Length เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวทุกรูปร่างเลยค่ะ