ลมหนาวเข้ามาตามฤดูกาล เป็นช่วงเทศกาลงานแต่งงานของเจ้าบ่าว เจ้าสาวที่วางแผนไว้ว่าจะแต่งในช่วงปลายปี รวมไปถึงคู่รักที่เริ่มมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานส่วนใหญ่ก็จะเริ่มวางแผนกันในช่วงนี้ ซึ่งวันนี้ ทีมงาน Weddinglist ขออาสาพาทุกท่านไปรู้จักโรงแรมแต่งงานชื่อดังที่เพิ่งรีโนเวทครั้งใหญ่ ดีไซน์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกท่านที่ปรารถนางานแต่งงานบรรยากาศหรูหรา ใจกลางเมือง เพียบพร้อมความประทับใจ @โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ (Montien Hotel Surawong Bangkok) ซึ่งคุณนิว และ คุณนัน เจ้าบ่าวเจ้าสาวของเราจะมาเป็นผู้ถ่ายทอดความประทับใจ ในรีวิวแต่งงานฉบับนี้ครับ



วางแผนให้ดี เหมาะสมกับเวลา เลือกสถานที่ ที่ตอบโจทย์
เริ่มต้นวางแผนก่อนจัดงานประมาณ 2 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงโควิด-19 จึงทำให้มีความไม่แน่นอน โจทย์ของเราคืออยากจัดงานแต่งงานที่เรียบง่าย แต่ก็ครบถ้วนตามประเพณีไทย-จีน เลยดีไซน์งานเป็นสองช่วง คือช่วงเช้ามีพิธีสงฆ์แบบไทย พิธีรับตัว-ส่งตัวเจ้าสาวแบบจีน ช่วงเย็นเป็นพิธีเลี้ยงฉลองมงคลสมรส แต่เนื่องจากการระบาดของสถานการณ์โควิด – 19 จึงเลื่อนงานฉลองช่วงเย็นออกไปก่อนค่ะ


ทำไมถึงเลือกโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน
โจทย์ที่เราสองคนวางไว้สำหรับงานแต่งงานคือเป็นงานแต่งงานที่เรียบง่าย สถานที่มีความสวยงาม ฟังก์ชั่นการจัดงานครบถ้วน ตอนนั้นมีโรงแรมในใจประมาณ 3-4 แห่ง เราลิสต์ข้อมูลทั้งหมดออกมาเปรียบเทียบข้อดี – ข้อได้เปรียบของแต่ละที่ ซึ่งตอนแรก ยังไม่ได้ลิสต์โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ เอาไว้ เนื่องจากยังมีภาพจำเดิมตั้งแต่เรียนที่จุฬาฯ ถึงความเก่าแก่ของโรงแรม ที่ดูเป็นสถานที่ของคนรุ่นพ่อแม่เรา ซึ่งมักเป็นที่ทานอาหารมากกว่าที่จัดงาน (ชอบมาทานข้าวมันไก่)
ในช่วงระหว่างเลือกสถานที่ทางคุณแม่(เจ้าบ่าว) ได้มาเสนอให้ลองมาดูโรงแรมมณเฑียร เนื่องจากในช่วงนั้นมีกลุ่มเพื่อนของคุณแม่ได้ไปใช้บริการ และเห็นว่าโรงแรมมีการปรับปรุง (Renovation) สถานที่ใหม่ทั้งหมด
หลังจากการได้เข้าไปดูสถานที่และพูดคุยกับเซลส์ของทางโรงแรม ยิ่งทำให้เราแปลกใจและเปลี่ยนภาพจำของโรงแรมมณเฑียรที่เราเคยรู้จัก เนื่องจากการปรับปรุงครั้งนี้เหมือนได้มีการใส่จิตวิญญาณเข้าไปในโรงแรม ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยยังไม่ทิ้งกลิ่นอายที่มีความคลาสสิกของโรงแรมในฉบับเดิม ซึ่งมาประจวบเหมาะกับโจทย์ของเรา ที่ต้องการจัดงานให้มีความเป็น Contemporary ระหว่างคนรุ่นใหม่ (รุ่นบ่าวสาว) และคนรุ่นก่อน (รุ่นพ่อแม่) ซึ่งสถานที่ของโรงแรมสามารถตอบโจทย์ของงานได้ตามที่เราต้องการ รวมถึงการบริการของพนักงานทุกคนในโรงแรม ที่แสดงถึงความอยากบริการเรามากๆด้วยความเต็มใจ จึงทำให้เราใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจในการเลือกโรงแรมมณเฑียรเป็นสถานที่จัดงานของเราเลย



Family Homie and Cozy
คอนเซปต์งานแต่งงานที่เราดีไซน์ไว้คือครอบครัว ต้องการให้เป็นงานที่ครอบครัว เพื่อน พี่น้อง ได้มารวมเฉลิมฉลองโมเม้นต์สำคัญของเราทั้งคู่ เพราะทุกคนที่เชิญมาเป็นคนที่เคารพ รัก และ มีความหมายสำหรับเราสองคนจริง ๆ
ภาพบรรยากาศบรรยากาศในงานเป็นแบบสบายๆ กลิ่นอาย Homie & Cozy เราพยายามไม่กำหนด Timeline ช่วงเวลาต่าง ๆ ให้กระชั้นชิดจนเกินไป อยากให้ทุกคนที่มาได้มีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน สามารถมีเวลาถ่ายรูปในมุมต่างๆของสถานที่จัดงานและโรงแรม



วันสำคัญที่ถูกเติมเต็มด้วยความประทับใจ ในทุกช่วงเวลา
เรื่องราววันนั้นเป็นตามที่เราวางคอนเซ็ปต์ไว้ทั้งหมด เป็นภาพจำอบอุ่น ความสุขถูกเติมเต็มในทุกช่วงเวลา รอยยิ้มและเสียงหัวเราะคือเครื่องการันตีว่างานเราประสบความสำเร็จ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและเพื่อนของบ่าวสาวได้อย่างลงตัว รวมถึงอาหารจัดเลี้ยงของทางโรงแรมมณเฑียรก็อร่อยมาก เนื่องจากเราเลือกเมนูจากห้องอาหารต้นเครื่องทั้งหมด ซึ่งแขกที่มาในงานต่างประทับใจอาหารมากเช่นกัน (แอบมีบ่นว่าข้าวมันไก่เยอะมาก ทานไม่หมด ซึ่งบ่าวสาวได้เตือนตั้งแต่ตอนเลือกเมนูแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อว่าอาหารที่จัดมาจะมีขนาดใหม่มาก =.=)


อยากให้ฝากข้อคิดหรือคำแนะนำสำหรับคู่รักที่กำลังจะแต่งงาน
อยากแนะนำให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวคุยกันเยอะ ๆ เรื่องสไตล์และรูปแบบของงาน เนื่องจากเป็นงานของเรา จึงอยากให้เลือกสถานที่ ๆ เรารู้สึกว่าใช่ และสามารถใส่ความเป็นเราลงไปได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้บรรยากาศ ณ วันงาน ออกมาดีที่สุด ที่สำคัญคืออยากให้ใส่ใจในความรู้สึกของกันและกัน รับฟัง เข้าใจ ใส่ใจ ร่วมใจทำให้วันแต่งงานเป็นวันที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ


เครดิตทีมงาน
ชุดแต่งงานบ่าวสาว: Milan Wedding
ช่างภาพ: Sunchai Photography
ช่างแต่งหน้าเจ้าสาว: Tanda Makeup
ช่างผมเจ้าสาว: Tee Thory
ช่างผมเจ้าบ่าว: Aum CHADA SALON (Thonglor)

