การจัดงานแต่งริมทะเลถือเป็นหนึ่งในความฝันของบ่าวสาวหลาย ๆ คู่ เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศสุดโรแมนติกที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติแล้ว ยังมีความเป็นส่วนตัวสุด ๆ อีกทั้งยังสามารถจัดปาร์ตี้หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลายภายใต้พื้นที่ที่ไม่จำกัดด้วย ดังนั้น เพื่อให้งานแต่งริมทะเลของทุกคู่ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด วันนี้ทาง Weddinglist จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการ เตรียมตัวจัดงานแต่งริมทะเลให้ออกมาสวยงาม ราบรื่นและน่าจดจำกว่าใคร เพราะฉะนั้น จะมีเทคนิคอะไรดี ๆ มาฝากบ่าวสาวกันบ้าง ก็ต้องตามมาดูไปพร้อมกันเลย
แน่นอนว่าถ้าจะให้งานแต่งริมทะเลที่เราใฝ่ฝันออกมาดูดีแบบไร้ที่ติแล้ว มีหลายสิ่งที่คู่บ่าวสาวควรรู้และตรวจสอบให้ดีก่อนวันแต่งงาน ด้วยความที่เป็นการจัดงานกลางแจ้งและมีทะเลเป็นฉากหลัง จึงมีหลายปัจจัยที่เราควบคุมได้ยาก เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในงานแต่งของเรา มาดูกันว่าบ่าวสาวจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
ด้วยความที่การจัดงานแต่งริมทะเลส่วนใหญ่ต้องใช้พื้นที่กลางแจ้งจึงควบคุมปัจจัยเรื่องสภาพอากาศได้ยาก ดังนั้น บ่าวสาวอาจจะต้องใช้ฤกษ์สะดวกมากกว่าฤกษ์มงคลและควรศึกษาข้อมูลเรื่องของฝนฟ้าอากาศให้ดี เพราะหากแต่งผิดช่วงก็อาจจะเจออุปสรรคเรื่องพายุ หรือมรสุมที่ลมกระโชกแรงและมีฝนตกตลอดทั้งวัน ซึ่งถ้าหากคู่ไหนไม่อยากประสบปัญหานี้เราแนะนำว่าให้จัดตามช่วงเวลาดังต่อไปนี้
- ทะเลอันดามัน ควรจัดในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
- ทะเลอ่าวไทย ควรจัดในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม
- ทะเลฝั่งตะวันตก ควรจัดในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน
- ทะเลฝั่งตะวันออก ควรจัดในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
นอกเหนือจากเรื่องของช่วงเดือนที่จะใช้จัดงานแต่งงานแล้ว ก็ต้องมาดูช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดพิธีต่าง ๆ ด้วย โดยข้อแนะนำคือ
- พิธีเช้า ควรอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่ 07.30 – 10.30 น. เพราะเป็นช่วงที่แสงแดดกำลังอ่อนและแสงสวยมาก
- พิธีเย็น ควรอยู่ในช่วงเวลา 15.30 – 18.00 น. เป็นช่วงที่ลมกำลังสงบและพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ทำให้ได้บรรยากาศโรแมนติกที่สุด
การเลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน
สำหรับใครที่ต้องการจัดงานแต่งริมทะเลแนะนำว่าให้หลายคู่ไปดูสถานที่จริงและเปรียบเทียบหลาย ๆ ที่เพื่อให้ได้พื้นที่ที่ตอบโจทย์กับความชอบและเหมาะกับรูปแบบของงานเราจริง ๆ หากคู่ไหนที่ต้องการจัดงานแต่งที่มีพิธีค่อนข้างทางการควรเลือกสถานที่ที่มีห้องรองรับส่วนตัว อาจจะติดวิวทะเลก็ได้แต่ไม่เหมาะกับที่โล่งแจ้ง ส่วนคู่ไหนที่จัดเป็นพิธีแต่งงานแบบสบาย ๆ ไม่ทางการมากก็สามารถเลือกจัดบนชายหาดได้เลย เพื่อให้ได้บรรยากาศของท้องทะเลอย่างใกล้ชิด แต่การจัดงานบนพื้นที่แบบนี้ก็อาจจะต้องวางแผนในการจัดวางของตกแต่งต่าง ๆ ให้ดี
นอกจากนี้บ่าวสาวจะต้องเช็คข้อมูลตั้งแต่รายละเอียดกิจกรรมที่สามารถจัดริมชายหาด สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมไปถึงกฎข้อห้าม ยิ่งถ้าเป็นพื้นที่ของโรงแรมก็อยากแนะนำให้ติดป้ายขออนุญาตแขกที่มาเข้าพักเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอใช้สถานที่ชั่วคราว อีกทั้งอยากแนะนำให้หาสถานที่ที่มีชายหาดส่วนตัวจะได้สะดวกต่อการจัดงานและได้บรรยากาศงานที่โรแมนติก เพราะคงไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนอยากได้ภาพแต่งงานที่ติดรูปแขกโรงแรมหรือนักท่องเที่ยวมาด้วยแน่นอน
การตกแต่งสถานที่ให้กลมกลืนกับบรรยากาศ
แน่นอนว่าการที่หลายคู่เลือกจัดงานแต่งริมทะเลก็เพราะอยากเก็บภาพโมเม้นต์สวย ๆ ท่ามกลางความงดงามของท้องทะเลไว้เป็นความทรงจำ เพราะฉะนั้น หลังจากที่เราได้พื้นที่จัดงานที่ตามต้องการแล้ว เรื่องต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือการตกแต่งสถานที่หรือหาธีมงานให้เข้ากับบรรยากาศและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ โดยวันนี้เราก็มีไอเดียการตกแต่งมาแนะนำให้ด้วย
- เปลือกหอย เป็นของตกแต่งที่เข้ากับบรรยากาศของทะเลได้ดีที่สุด สามารถนำมาตกแต่งพื้นที่ บนโต๊ะของชำร่วย ซุ้มถ่ายรูป ตามทางเดิน แถมยังสามารถแมตช์ได้กับหลาย ๆ ธีมงานด้วย
- เทียนหรือโคมไฟ เป็นของตกแต่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม ทำให้เบรรยากาศดูโรแมนติกมากยิ่งขึ้น ใช้ตกแต่งตามทางเดิน หรือจะห้อยประดับตามซุ้มไว้สำหรับถ่ายรูปในงานก็ได้
- แจกันดอกไม้ แน่นอนว่าถ้าอยากให้งานแต่งริมทะเลของเราออกมาสวยงามชวนฝัน แค่ลองจัดดอกไม้สีสันสดใสลงบนแจกกัน เพื่อวางประดับประดาไว้ตามมุมต่าง ๆ ของงาน รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความสดใสให้งานแต่งของเราได้อย่างดีเลย
- ผ้าซีทรู ใครที่อยากให้งานแต่งออกมาฟีลสบาย ๆ ได้บรรยากาศสไตล์มินิมอล แนะนำว่าลองหาผ้าซีทรูบาง ๆ สีขาวหรือครีมมาตกแต่งโต๊ะ เก้าอี้ ซุ้มต่าง ๆ บอกเลยว่าเวลาลมพัดมาแล้วชายผ้าพลิ้ว ๆ มันช่วยส่งให้บรรยากาศงานของเราออกมาสวยงามยิ่งขึ้น
- ป้ายไม้ เรามักเห็นป้ายไม้บอกทางปักอยู่ตามชายหาด บอกเลยว่าไอเดียนี้สามารถนำมาตกแต่งงานของเราได้ด้วย รับรองว่าออกมาน่ารักและวินเทจสุด ๆ
- กระจก ต้องบอกว่าเป็นของตกแต่งยอดฮิตในปีนี้เลย สามารถใช้ถ่ายรูปเซลฟี่น่ารัก ๆ กับเพื่อนได้ด้วย ลองหากระจกบานใหญ่ รูปทรงต่าง ๆ แล้วหันกระจกไปหาวิวทะเล รับรองว่าไอเดียนี้เจ๋งสุด ๆ
ธีมงานที่เลือกใช้
- Boho Style การตกแต่งในสไตล์แบบชนบทตะวันตก เป็นแนวเดียวกับยิปซีสไตล์ที่จะเน้นเอาดอกไม้ใบหญ้าหรือของที่ได้จากธรรมชาติมาตกแต่งสถานที่ มีของตกแต่งเป็นซุ้มไม้ ซุ้มดอกไม้ ขนนก เชือกป่าน เน้นความเรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น
- Minimal Style ถือเป็นธีมงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความสวยงามที่เรียบง่าย ให้ความน้อยแต่มาก ตกแต่งได้ไม่ยาก เน้นของตกแต่งที่ให้โทนสีสว่าง ขาว ครีม น้ำตาลอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา
- Ocaen Blue เป็นธีมที่เหมาะจะจัดกับงานแต่งริมทะเลมากที่สุด ด้วยความที่ใช้โทนสีฟ้าคราม น้ำเงินเป็นหลัก ซึ่งตัดกับพื้นหลังที่เป็นท้องฟ้าอ่อน ๆ สีของทะเลและหาดทรายสีขาวได้อย่างลงตัว
- Vintage Style ถ้าอยากให้งานแต่งออกมาเรียบง่ายแต่ได้ความคลาสสิก ธีมนี้เหมาะมาก ลองหาซุ้มประตูไม้เก่า ๆ มาวางตรงทางเข้างาน ตกแต่งจักรยานและถังเหล็กด้วยดอกไม้สวย ๆ มองภาพรวมแล้วเข้ากันสุด ๆ
- Pastel Style เป็นธีมที่ช่วยเนรมิตให้งานแต่งริมทะเลของเราออกมาสวยชวนฝัน ด้วยสีสันพาสเทลของดอกไม้ ลองหาผ้าสีอ่อน ๆ มาตกแต่งโต๊ะเก้าอี้ให้แขก พอตัดกับฉากหลังที่เป็นทะเลสีฟ้าครามแล้วรับรองว่าบรรยากาศจะให้ทั้งความละมุนและโรแมนติกกว่าใครแน่นอน
เมนูอาหาร
ต้องบอกว่าการจัดงานแต่งริมทะเล นอกจากความสวยงามของบรรยากาศแล้ว หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญก็คือ “อาหารจัดเลี้ยง” โดยถ้าจะให้สะดวกต่อแขกที่มาในงานก็แนะนำให้เป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์หรือค็อกเทล แขกจะได้เดินมาตักทานได้ง่าย เพราะด้วยความที่นั่งค่อนข้างจำกัดและจัดอยู่บนพื้นที่หาดทราย ไม่ได้นั่งด้วยกันแบบโต๊ะจีน ก็อาจจะให้ทางโรงแรมจัดเป็นโซนสำหรับตักอาหาร ให้แขกมีจานและแก้วส่วนตัว
โดยคู่บ่าวสาวอาจจะเลือกเสิร์ฟด้วย appetizer สไตล์ซีฟู๊ดก็ได้ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของทะเล เพิ่มความสดชื่นด้วยผลไม้สดหรือน้ำผลไม้เย็น ๆ ส่วนของของหวานอาจจะเลือกใช้ไอเดียให้เข้ากับบรรยากาศริมทะเลอย่างเช่น เค้กมะพร้าว สับปะรด หรือมะนาว เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับแขกได้เป็นอย่างดี
กิจกรรมในงาน
สำหรับกิจกรรมในพิธีแต่งงานนับว่าเป็นอะไรที่หลาย ๆ คู่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้เราได้ภาพสวย ๆ แล้วก็ยังสร้างสีสันหรือโมเม้นต์ดี ๆ ให้กับงานของเราได้ด้วย โดยส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นการรินแชมเปญ ตัดเค้ก เล่นดอกไม้ไฟ เปิด Floor เต้นรำ โยนดอกไม้ เล่นเกมตอบคำถามหรือเปิดโอกาสให้เพื่อน ๆ ได้มาเล่าถึงความรู้สึก ทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมน่ารัก ๆ ในพิธีที่หลายคู่ไม่ควรพลาดเลย
การแต่งตัว
- เจ้าบ่าว โดยทั่วไปเรามักจะเห็นเจ้าบ่าวสวมชุดทักซิโด้ (Tuxedo) สีขาวหรือดำที่ดูเป็นทางการประมาณนึง แต่พอเป็นงานแต่งริมทะเลชิล ๆ แบบนี้แล้ว คงไม่ต้องเน้นความทางการมาก ใส่เป็นเชิ้ตลายดอกด้านในทับด้วยสูทสีอ่อน ๆ ใส่คู่กับกางเกงสแล็คสบาย ๆ สักตัว เป็นชุดที่เหมาะสำหรับถอดช่วง After party ได้ หรือจะเปลี่ยนจากสูทมาเป็นเบลเซอร์ (Blazer) แล้วผูกหูกระต่าย ใส่คู่กับกางเกงขาสั้นแทนที่จะเป็นสแล็คยาว หรือจะเป็นกางเกงยีนส์ก็ยังคงดูดีแน่นอน
- เจ้าสาว ลองเปลี่ยนจากชุดราตรียาวมาเป็นชุดกระโปรงที่ผ่าด้านหน้าหรือด้านข้างเพื่อให้เจ้าสาวสามารถเดินบนพื้นทรายได้สะดวก หรือจะเป็นชุดตัดเข้ารูปแต่มีการปล่อยชายกระโปรงเล็กน้อยให้พลิ้ว ๆ ให้ได้ฟีลรับลมทะเล อาจจะเลือกชุดที่ตัดจากผ้าซีทรูบาง ๆ ผ้าซาติน หรือผ้าลูกไม้แล้วเพิ่มลูกเล่นด้วยการเปิดไหล่หรือผ่าหลังก็ให้ความสวยเซ็กซี่ไปอีกแบบ แต่ไม่ควรเป็นชุดราตรียาวหรือมีส่วนที่ลากพื้นเพราะจะทำให้เดินไม่สะดวก
นอกจากนี้ข้อที่อยากแนะนำเลยก็คือ เจ้าสาวไม่ควรใส่ผ้าคลุมหน้าด้วยความที่ลมทะเลแรงจนผ้าพัดมาปิดหน้าและทำให้เครื่องสำอางเลอะ หรืออาจจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายรูปด้วย ส่วนทรงผมควรจะมวยขึ้นหรือมัดจัดเก็บทรงให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ลมพัดผมมาปิดหน้าหรือผมชี้ฟูระหว่างวันด้วย
- แขก ควรระบุกับแขกด้วยว่าพื้นที่งานนั้นจัดอยู่บนพื้นที่หาดทราย ดังนั้น อาจจะต้องงดใส่ส้นสูงหรือรองเท้ามีส้นเพื่อความสะดวกในการเดิน อาจหาเป็นรองเท้ารัดข้อหรือหุ้มส้นสวย ๆ ที่สวมใส่ได้สบาย ๆ มาแทน แต่ถ้าต้องการแขกสะดวกก็สามารถทำจุดเปลี่ยนรองเท้าหรือสามารถถอดรองเท้าเดินไว้ให้แขกในงานด้วย ส่วนเรื่องของการแต่งตัวก็ให้แขกฟรีสไตล์ได้แต่อาจจะคุมโทนสีอ่อน ๆ เพื่อความสบาย เพราะงานกลางแจ้งหากใส่ชุดที่รัดมากหรือสีสดเกินจะทำให้รู้สึกร้อนมากกว่าปกติ และที่สำคัญไม่แนะนำให้ใส่เครื่องประดับเยอะเพราะหากหล่นหายจะหาเจอได้ค่อนข้างยาก
งบประมาณในการจัดงาน
สำหรับคู่ไหนที่สนใจอยากจะจัดงานแต่งริมทะเลสวย ๆ บรรยากาศน่าประทับใจ แต่ก็อาจจะกำลังกังวลเรื่องงบประมาณที่อาจจะมากเกินไป ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันมีหลายโรงแรมเลยที่รองรับการจัดงานแต่งริมทะเลในงบที่จับต้องได้ มีแพ็กเกจสุดคุ้มมาให้คู่บ่าวสาวได้สร้างความทรงจำดี ๆ ในวันแต่งงาน
บ่าวสาวคู่ไหนที่สนใจอยากแต่งงานริมทะเล และกำลังวางแผนเรื่องงบในการจัดงาน โดยส่วนใหญ่การจัดงานแบบนี้ราคาแพ็กเกจของสถานที่ต่าง ๆ ก็จะแตกต่างกันไป เราสามารถเลือกได้ว่าจะมีงานเช้าอย่างเดียวหรือมีงานเลี้ยงช่วงเย็นและมี After party ด้วยหรือเปล่า ราคาก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบพิธีและสิ่งที่เราเลือกเพิ่มเติมเข้ามาในงานของเรา โดยจะมีตั้งแต่ 50,000 – 300,000 บาท ซึ่งคู่ไหนที่สนใจและอยากจะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับแพ็กเกจงานแต่งริมทะเลก็สามารถเข้ามาดูเพิ่มเติมทาง Weddinglist ได้เลย รับรองว่าทุกที่คุณเลือกจะสร้างประสบการณ์ที่สุดพิเศษให้กับคุณในวันแต่งงานแน่นอน
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเทคนิคการจัดงานแต่งงานริมทะเลที่ Weddinglist ได้นำมาฝากกัน ทั้งนี้ การจัดงานแต่งงานริมทะเลไม่ได้จัดยากอย่างที่คิด เพียงแค่บ่าวสาวเตรียมตัวเป็นอย่างดี ทุกอย่างก็สามารถออกมาราบรื่นและสมบูรณ์แบบได้ค่ะ เพราะงานแต่งงานเป็นโมเมนต์พิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต เราก็หวังว่าทริคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับว่าที่บ่าวสาวได้เป็นอย่างดีนะคะ ♥
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจาก Pixabay
