การถ่ายรูปพรีเวดดิ้งสไตล์อลังการแบบจัดเต็ม สำหรับคู่รักสมัยนี้อาจเป็นเรื่องที่เห็นกันมาเยอะแล้ว อยากถ่ายพรีเวดดิ้งแนวใหม่ๆ ที่มีสไตล์สบายๆ แต่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์บ้าง อย่าง Harmonize all your weddings เวดดิ้งสตูดิโอสไตล์ใหม่เอาใจคนชอบแนวของ ก้อย น้ำทิพย์ ยอดปัญญาดี และ บิ๊ก สุรศาสตร์ อารีอาร์ คู่รักต่างสไตล์ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันกับ Harmonize มาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว
ถ้าอยากรู้ว่าสไตล์ของ Harmonize all your weddings จะตอบโจทย์คุณและคนรักได้แค่ไหน ต้องติดตามบทสัมภาษณ์จากทั้งสองท่านกันได้เลย
แรงบันดาลใจ
“เมื่อ 10 ปีกว่าก่อน พี่ก้อยเริ่มต้นจากอยู่บริษัทอีเว้นท์ออแกไนเซอร์มาก่อน แล้วเจ้านายมองว่าตลาด wedding กำลังจะเติบโต ตอนนั้นมี wedding planner ไม่ถึง 10 เจ้า เจ้านายก็เลยก็เลยลองจับตลาดนี้ดู แล้วตัวพี่เองก็เลยได้ศึกษางานไปด้วย ทำไปทำมาหลงรักงาน wedding มากกว่า พอถึงเวลาก็ได้ออกมาเปิดกิจการเป็นของตัวเอง ก็เลยมาเป็น Harmonize all your weddings ยิ่งทำก็ยิ่งชอบยิ่งมีความสุข เราได้อยู่กับคนไม่กี่คน แต่ทุกคนรักกัน มอบสิ่งดีๆ ให้แก่กัน ในฐานะคนจัดงานถือว่าได้ส่งความสุข ก็ยังได้รับความสุข แล้วยังได้ทำบุญไปด้วยนะ เพราะเราทำให้คู่รักและครอบครัวได้ปลาบปลื้มใจและสร้างมิตรสัมพันธ์ที่ดีต่อไปได้อีกด้วย”
“สำหรับพี่บิ๊กเริ่มต้นจากการเป็นช่างภาพนิตยสาร ถ่ายผลิตภัณฑ์ ถ่ายภาพศิลปะ มาก่อน เพราะจบช่างภาพแบบสายตรงมาเลย แล้วพอพี่ก้อยจะเปิดร้าน wedding ก็เลยชวนพี่มาทำด้วยกัน ช่วงแรกๆ พี่ปฏิเสธไปเลยนะ กลัวสื่อสารกับคนไม่รู้เรื่อง คือที่ผ่านมาพี่จะถ่ายแต่สิ่งของ สถานที่ ที่คนถ่ายต้องสื่อสารกับแบบอยู่ฝ่ายเดียว แต่ความยากของการถ่ายคนจะอยู่ที่ต้องสื่อสารให้ความต้องการของเค้ากับเราเป็นไปในทางเดียวกันได้ แต่พี่ก้อยยืนยันว่า ต้องทำได้ เราต้องทำได้ และทำได้ดีด้วย เราก็เลยมาคุยกันว่าจะทำงานกันแนวไหน แนวทางยังไง แล้วก็ลุยเลย!”
จุดเริ่มต้นที่ใช่
“ก่อนหน้านี้พี่เปิดร้านที่นครปฐมค่ะ จริงๆ แล้วเราเป็นคนกรุงเทพทั้งคู่ แต่คุณพ่อพี่บอกว่าเริ่มที่แรกอยากให้ใหญ่ในเมืองเล็ก ชื่อร้านจะติดเร็วกว่า ซึ่งก็เป็นไปตามที่คุณพ่อแนะนำ แต่พอร้านที่นครปฐมหมดสัญญาลงพี่กับพี่บิ๊กก็สำรวจหลายพื้นที่ แต่คิดไปคิดก็ทำให้พวกพี่รู้สึกว่า ไม่มีที่ไหนเวิร์กยิ่งไปกว่าบ้านพี่อีกแล้ว พวกพี่เลยเริ่มวางแผนปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งเดิมเป็นโรงงานเหล็กและสเตนเลส แต่พอไม่ได้ทำแล้วก็จะมีอุปกรณ์และเศษเหล็กเหลือเยอะพอสมควร เราก็พยายามใช้ของที่มีแล้วไม่ได้ใช้แล้วมาตกแต่งให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า”
คอนเซ็ปต์โดนใจ
“พวกพี่เลือกคอนเซ็ปต์ Industrial ให้เข้ากับสถานที่เดิม และเข้ากับตัวตนของพวกพี่ด้วย แต่เราต่อยอดคอนเซ็ปต์นี้ให้ดูเก๋ไก๋ ทันสมัยมากขึ้น พื้นที่ทุกตารางเมตรไม่ว่าจะโซนไหนเราออกแบบให้ปรับเปลี่ยนเป็นมุมถ่ายรูปได้ทั้งหมด ประกอบกับ prop ที่เรามีจากงาน organizer ซึ่งเยอะมากๆ พี่มองว่ามันทำให้เราและลูกค้ารู้สึกไม่ซ้ำซากจำเจกับฉากเดิม prop เดิม แล้วยังทำให้เราใช้พื้นที่ทุกส่วนได้อย่างคุ้มค่าด้วย ต่างจากสตูฯ ทั่วไปที่เซ็ตฉากบริเวณพื้นที่นั้นๆ แบบตายตัว ส่วนสีที่เราใช้แต่งสถานที่โดยรวม เราเลือกสีเหลืองและสีเทาที่ให้ความสมดุลระหว่างความกระตือรือร้นกับความสงบ อีกนัยหนึ่งยังหมายถึงเรื่องเงินทองอีกด้วย”
Harmonize ที่ลงตัว
“พูดถึงสไตล์การทำงานละกัน พี่ก้อยกับพี่บิ๊กนี่คนละสไตล์เลยนะ คนหนึ่งถนัดการบริหารจัดการ แต่อีกคนถนัดเรื่องศิลปะและครีเอทีฟ เรื่องการหาจุดร่วมที่ลงตัวนี่พี่ไม่ได้ใช้หลักการหรือทฤษฎีอะไรเลย แค่มีเวลาได้แชร์ไอเดียด้วยกันมันก็จะค่อยๆ ซึมซับซึ่งกันและกันไปเอง พี่ก้อยไปช่วยพี่บิ๊กคิดงานถ่ายรูป พี่บิ๊กก็มาช่วยพี่ก้อยคิดเรื่องงานออแกไนซ์ เราทำงานด้วยกันก็ทำให้เราซึมซับกันไปเอง พี่ก้อยได้มุมมองศิลปะจากพี่บิ๊กมาเยอะ พี่บิ๊กก็ได้แนวทางงานบริหารจัดการจากพี่ด้วยเช่นกัน”
ทำงานตามใจ แต่ก็ตามโจทย์ ใช้คอนเซ็ปต์คุมงาน
“สไตล์งานของ Harmonize เป็นแนวของคนรุ่นใหม่ที่มองความสนุก ความสุขเป็นหลัก เราเน้นนำเสนอเรื่องความสนุก รอยยิ้ม ที่มาจากอินเนอร์ แต่พอถึงเวลาทำงานจริงๆ เราก็จะปรับตามโจทย์ของลูกค้า ซึ่งเราจะต้องทำการบ้านร่วมกันกับลูกค้าก่อน มีการพูดคุยสไตล์รูปที่อยากได้ ส่งรูปเสื้อผ้า prop มาให้เข้าใจกันก่อน อย่างลูกค้าบางคนอยากได้คอนเซ็ปต์หวานๆ ฟรุ้งฟริ้งๆ หรือแนวเท่ห์จัดๆ พี่ก็จัดให้ได้ ถึงหลายๆ คนอาจมองว่ามันโคตรจะต่างกันเลย แต่นั่นคือการทำการบ้านที่เราทำอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายก็จะได้จุดลงตัวที่ออกมาแล้วสวยงามตามแต่ละ concept ของมันเอง”
มีดีอะไร ลูกค้าถึงไว้ใจ
“อย่างแรกคือผลงาน ลูกค้าจะเลือกเราก็ต่อเมื่อรู้สึกว่า ผลงานแบบนี้แหละที่อยากได้ ภาพถ่ายจะเป็นผลงานที่ลูกค้าเห็นเป็นรูปร่างได้ดีที่สุด ซึ่งเราจะไม่เน้นแต่งสีหรือทำให้เว่อร์วังปังกว่าความเป็นจริง เน้นธรรมชาติทำให้มันดูดีตั้งแต่เริ่มถ่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม องค์ประกอบ การโพสท่า ที่ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดเลยว่า แบบนี้จะเป๊ะ ปัง หรือแป้ก เราก็ต้องช่วยไกด์ลูกค้า เพราะลูกค้าไม่ได้เป็นนาย / นางแบบทุกคน พอลูกค้าโอเคกับผลงานของเราแล้วก็จะเป็นเรื่อง Service Mind ตั้งแต่การตอบคำถามลูกค้าที่พี่จะเป็นคนตอบเอง ให้รายละเอียดเองทุกเคสโดยเป็นแอดมินเองคนเดียว เพราะพี่มองว่าคนที่จะตอบรายละเอียดได้ดีที่สุดคือเจ้าของธุรกิจอย่างเรานี่แหละ จนกระทั่งถึงวันออกสนาม หัวหน้างานที่ดีต้องไปดูแลงานนั้นๆ ด้วยตัวเอง แต่ไม่ใช่ไปแค่แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ แล้วเอาแต่ยืนสั่งอย่างเดียว แต่ต้องลงไปทำจิปาถะโน่นนี่นั่นกับลูกน้องด้วย ทั้งพี่ก้อยพี่บิ๊ก ลงมือช่วยทีมงานกันเอง เช่น ยกของ จัดฉาก เพราะการทำงานโปรดักชั่นเป็นงานสไตล์ลูกทุ่ง ต้องลุย เหนื่อยด้วยกันทั้งลูกน้องและหัวหน้า ลูกค้าจะรู้สึกประทับใจถึงความเป็นกันเอง แถมช่วยลดปัญหาที่อาจทำให้เขากังวลไปได้ระดับหนึ่ง และมันยังได้ใจลูกน้องโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วย”
อะไรก็เกิดขึ้นได้
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน พี่เคยเจอเคสก่อนวันแต่งจริง 1 อาทิตย์ ว่าที่เจ้าบ่าวโทรมาบอกพี่ว่าทะเลาะกัน สงสัยวันนั้นจะไม่ได้แต่งกันแล้ว ดีที่สุดที่พี่ทำได้คือ รับฟังเขาแล้วพูดให้กำลังใจ อย่าเพิ่งไปพูดเรื่องงานแต่งเด็ดขาดเพราะจะทำให้ลูกค้าที่กำลังอารมณ์ขุ่นมัวอยู่ มองว่าเราคิดถึงแต่ผลประโยชน์ แต่ไม่คิดถึงเรื่องจิตใจคนบ้างเลย รอให้เขาเย็นลงสักสองสามวันค่อยติดตามผล ปรากฏว่าคลี่คลายปัญหาได้แล้ว ยังจัดงานเหมือนเดิมซึ่งพี่ก็ยินดีด้วย จะบอกว่าการจัดงานแต่งงานไม่ได้โฟกัสแค่ตกแต่งสถานที่ เสื้อผ้าหน้าผมต้องสวยเป๊ะ อาหารต้องอร่อย สถานที่ต้องรองรับแขกจำนวนมากได้ แต่ยังต้องโฟกัสไปที่การบริหารจิตใจของลูกค้า โดยเฉพาะคู่รักและครอบครัว เพราะการทำธุรกิจแต่งงานเหมือนเป็นที่ปรึกษาหัวใจให้พวกเขาด้วย ยิ่งลูกค้ากล้าพูดบางเรื่องให้เราฟัง ทั้งๆ ที่เราไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ มันยิ่งบ่งบอกว่า ลูกค้าไว้ใจเราพร้อมที่จะเปิดใจกับเราแล้ว เห็นเราเป็นเพื่อนคนนึง มันยิ่งทำให้เรารู้จักตัวตนของกันและกันมากขึ้น ทำงานก็ง่ายขึ้นด้วย”
“อีกเรื่องที่สำคัญคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า Harmonize จะเจองาน Outdoor ค่อนข้างบ่อย โดยที่เราก็คาดเดาฟ้าฝนได้ยาก ก่อนเลือกสถานที่แนะนำให้คิดเผื่อด้วยก็ดีว่า ถ้าสถานที่จะจัดงานเป็น Outdoor แล้วถ้าฝนตก เราจะมีที่ Indoor มาสนับสนุนช่วงเวลานั้นได้ไหม”
เป้าหมายต่อไป
“พูดถึงเฉพาะเรื่องวัฒนธรรมดีกว่า เพราะการทำธุรกิจแต่งงานคือการสร้างและเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับการแต่งงานได้ พี่อยากให้ลูกค้าทุกคนเข้าใจและมองผลที่ได้รับจากความสุขของคู่บ่าวสาว มากกว่ามาคิดแทนคู่บ่าวสาวว่าแบบนี้ดีกว่าในความคิดของเขา คือวัฒนธรรมไทยบางทีเป็นวัฒนธรรมที่ต้องฟังผู้ใหญ่เป็นหลัก ซึ่งเราก็ไม่สามารถทำทุกอย่างให้ได้ดังใจตัวเองทั้งหมด และไม่สามารถเอาใจผู้เกี่ยวข้องได้หมดทุกคนในงานเดียว พี่มองว่าทางออกที่ทุกฝ่ายจะวินวินได้ คือการจัดงานไซส์มินิ แต่มีธีม สไตล์ และบรรยากาศงานที่ทุกคนเข้าถึงได้ และเอาใจญาติผู้ใหญ่ด้วยการจัดงานพิธีช่วงงานหมั้นพร้อมดูแลแขกผู้ใหญ่อย่างเต็มที่ให้จบในช่วงกลางวันไปเลย เพราะบางครอบครัวก็ถือว่า งานแต่งงานเป็นที่เชิดหน้าชูตาทางสังคมสำหรับพวกเขาด้วย หลังจากนั้นเราก็อาจจะแยกงานเล็กๆสำหรับกลุ่มเพื่อนไปเลย อันนี้เต็มที่ได้สุดๆ บางงานก็จะเป็น after party แต่ยังไงก็ควรดูเรื่องงบประมาณในกระเป๋าของตัวเองด้วว่าเอื้อกับการจัดงานแนวไหน”
ความสุขที่สุดของการทำ Harmonize
พี่ก้อย : “สำหรับพี่คือการได้ทำงานทุกวัน การได้อยู่กับความไม่ซ้ำซาก ได้ทำสิ่งที่เรารัก พี่ถือว่าได้ทำงาน
อดิเรกนะ เลยไม่ค่อยรู้สึกเครียด กดดันเท่าไหร่นัก และที่สำคัญพี่ก้อยทำงานกับพี่บิ๊ก เราช่วยกัน เราสุขพร้อมกัน ทุกข์พร้อมกัน รู้ตัวงานไปด้วยกันเกือบทั้งหมด ทำให้พี่รวมเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวไปด้วยกันได้เลย ไม่ต้องแบ่งเวลาให้แฟน เพราะมันอยู่ในเวลาทำงานอยู่แล้ว”
พี่บิ๊ก : “วันที่งานทุกอย่างเซ็ตอัพเสร็จเรียบร้อยตามแพลน วันนั้นคือความสุขที่สุดของพี่แล้วที่ได้เห็นสิ่งที่
ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่าออกมาเป็นรูปร่างแบบนี้ หลาย ครั้งที่พอทำงานเสร็จ เรามายืนดูชื่นชมงานด้วยกัน ด้วยความภูมิในใจทีมงานของเรา”
ทิปส์ส่งท้าย
“ถ้าคุณมีแพลนจะแต่งงาน อย่างแรกที่ควรทำคือ หาฤกษ์ยาม หรือกำหนดวันแต่งงาน หลังจากนั้นคิดคอนเซ็ปต์กว้างๆ และหาสถานที่ตาม concept งาน ตรงนี้ที่แนะนำให้ทำการบ้านแต่เนิ่นๆ ถ้าได้ 2 อย่างนี้แล้วมาลงรายละเอียด concept ให้ละเอียดขึ้นอีก เราจะมองเห็นแนวทางการจัดงานว่าจะมีรูปร่างหน้าตาออกมาเป็นยังไง จินตนาการให้ออก แล้วเราจะไม่หลุดคอนเซ็ปต์ตลอดทั้งงาน ซึ่งดีกว่าไปหาชุด หางานพรีเวดดิ้ง และอื่นๆรอไว้ โดยที่ยังมองภาพรวมของงานแต่งงานไม่ออก มันจะทำให้เราหลงทางและอาจทำให้บางอย่างไม่ได้อย่างที่ต้องการ ที่สำคัญสำหรับคนที่ดูฤกษ์ และหากได้ช่วงปลายปีช่วงพฤศจิกายน ธันวาคม หากทราบวันตั้งแต่เนิ่นๆ รีบทำการบ้านตั้งแต่ต้นปีได้ยิ่งดี เพราะวันฤกษ์ดีของ 2 เดือนนี้จะพีคที่สุดของปี แล้วอาจจะหาสถานที่ ออแกไนซ์ ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ฯลฯ ที่ถูกใจจริงๆได้ยาก และนอกจากเรื่องหลักๆแล้ว พวกเรื่องเล็กๆน้อยๆ ส่วนประกอบของงานก็ควรใส่ใจด้วย เพราะบางทีส่วนเล็กๆเหล่านี้ก็กลายเป็นตัวสร้างบรรยากาศหลักของงานได้เลย เช่น ดนตรี พิธีกร พี่มองว่า 2 อย่างนี้เลือกไม่ดี งานก็เปลี่ยนแนวได้เลย
สุดท้าย พี่ก้อยฝากว่าที่บ่าวสาวไว้ งานแต่งงานจัดแค่ครั้งเดียว พี่ก้อยอยากให้บ่าวสาวประทับใจกับงานของเรา ลงทุนเท่าที่เราไหว ให้ได้งานแบบที่เราอยากได้ การทำการบ้าน หาข้อมูล หรือหาที่ปรึกษาที่ตรงใจ เป็นตัวแทนความคิดของเราได้ จะช่วยให้แพลนงานได้ง่ายขึ้น”
Harmonize ยังมีอีกหลากหลายผลงานที่คุณอาจยังไม่ได้เห็น แต่จะทำให้คุณเลือกสไตล์การจัดงานแต่งงานอย่างชาญฉลาด กำลังรอคุณให้เข้าไปชมและสัมผัสที่
https://www.facebook.com/harmonizeallyourweddings
นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเลือกดูและติดต่อซื้อดีลแพ็คเกจต่างๆ ของ Harmonize ได้ง่ายๆ แบบ One Stop Service ผ่านทางเว็บไซต์ weddinglist.co.th
เรื่อง : รัชชา สถิตทรงธรรม
ภาพ : อนุชา ปิติพงศ์ทรัพย์
