เตรียมตัวอย่างไร เมื่อคู่บ่าวสาวต้องเลื่อนวันจัดงานแต่งงานท่ามกลางวิกฤต COVID-19 (ไวรัสโคโรนา)

Highlight

จากประกาศมาตรการป้องกันโควิด-19 จากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เรื่อง ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม 2563 คำว่า “กิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม” จะครอบคลุมงานแต่งงานด้วยหรือไม่

ถ้าคู่บ่าวสาวจำเป็นต้องจัดงานแต่งงานในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ควรเตรียมตัวอย่างไร

ถ้าคู่บ่าวสาวจำเป็นต้องเลื่อนวันจัดงานแต่งงาน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่

ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 หรือไวรัสโคโรนาในปี 2563 ทำให้คู่บ่าวสาวที่กำลังจะแต่งงานภายในปีนี้วิตกกังวลว่า ควรเลื่อนวันจัดงานแต่งงานออกไปก่อนหรือไม่ ด้วยการคัดกรองผู้ติดเชื้อที่ทำได้ยากขึ้นเพราะการแพร่ระบาดที่ลุกลามเป็นวงกว้าง จึงทำให้สถานการณ์โดยรวมไม่น่าไว้วางใจ และไม่เหมาะกับการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่ผู้คนต้องออกนอกที่อยู่อาศัยเลย Weddinglist จึงได้รวบรวมทุกข้อสงสัยเหล่านี้มาให้คู่บ่าวสาวและแขกทุกท่านได้อ่านกันว่า เราควรจะเตรียมรับมือโควิด-19 กันอย่างไรในงานแต่งงาน

งานแต่งงานเข้าข่าย “กิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม” หรือไม่

ถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว งานแต่งงานทั่วไปมักจะมีจำนวนแขกมาร่วมงานโดยเฉลี่ย 200 – 300 คน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบายเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือโคโรนา รวมทั้งโรคระบาดอื่น ๆ ได้ ด้วยพื้นที่จัดงานแต่งงานส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปิดและแออัดด้วยผู้คนที่มาร่วมงานฯ ถึงแม้ว่างานแต่งงานจะเป็นกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเป็นส่วนตัวและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อน้อยกว่ากิจกรรมรวมกลุ่มแบบสาธารณะก็ตาม

ถามว่าสมควรงดจัดงานแต่งงานในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้หรือไม่ ถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยควรงดหรือขอเลื่อนไปก่อนจะดีที่สุดครับ

แต่ถ้าไม่สามารถเลื่อนวันจัดงานแต่งงานได้จริง ๆ แล้วต้องทำอย่างไรให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัย

เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ประกาศห้ามสถานประกอบการกลุ่มโรงแรมและสถานที่แต่งงาน Weddinglist จึงมีความคิดเห็นต่อกรณีนี้ได้อีกมุมหนึ่งคือ ถ้าเป็นงานแต่งงานที่มีความเป็นส่วนตัวและเตรียมการป้องกันโควิด-19 มาแล้ว คู่บ่าวสาวอาจยังจัดงานแต่งงานวันเดิมได้ แต่ทางผู้จัดงานและสถานที่แต่งงานต้องมีมาตรการป้องกัน การทำความสะอาด และการลดความแออัดในมาตรฐานระดับสูงสุด (อ้างอิงและตีความจากคำสั่งรัฐบาลเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ความว่า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ ยังเปิดอยู่แต่ต้องมีมาตรการป้องกัน การทำความสะอาด และลดความแออัด )

NEWS UPDATE ! กทม. สั่งปิดสถานที่จัดเลี้ยง ป้องกันโควิด-19 จากงานแต่งงาน

วันนี้ (27 มี.ค. 2563) ร้อยตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ได้มีมติให้ปิดสถานที่บางแห่งเพิ่มเติม เพื่อเป็นไปตามการยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

โดยหนึ่งในสถานที่ที่ประกาศสั่งปิดเพิ่มเติม ได้มีห้องประชุมจัดเลี้ยงในโรงแรม รวมถึงสถานที่รับจัดเลี้ยงทั้งหมดในเขตกทม. โดยจะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28 มีนาคม 2563) ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563

ร้อยตำรวจเอก พงศกร ยังได้แถลงเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเตรียมตัวจัดงานแต่งงานในช่วงระหว่างนี้ว่า ขอให้เข้าใจในความจำเป็นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ เพราะหากมีการแพร่ระบาดจากงานแต่งงานแล้วพลาดก็เรียกคืนไม่ได้

ถ้าคู่บ่าวสาวไม่สามารถเลื่อนวันจัดงานแต่งงานได้ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

กรณีนี้ส่วนมากจะเป็นงานแต่งงานแบบเร่งด่วนหรือหาวันใหม่ไม่ได้จริง ๆ การแก้ปัญหาเบื้องต้นคือลดจำนวนแขกลงตามความเหมาะสม อย่างงานแต่งงานในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ส่วนมากจะเหลือแขกเพียง 100 – 200 คน เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อและตรวจสอบที่มาที่ไปของการแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ผู้จัดงานและสถานที่ต้องมีมาตรการป้องกันที่ครอบคลุมทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งโรคระบาดอื่น ๆ อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดพื้นที่ การคัดกรองแขกที่จะมาร่วมงาน การลดความแออัดภายในพื้นที่จัดเลี้ยง เช่น

ต้องมีจุดบริการเจลล้างมือทุกจุดของพื้นที่จัดเลี้ยงอย่างทั่วถึง ได้แก่

ทางเข้าออกด้านหน้าล็อบบี้
ทางเข้าออกลานจอดรถ
บริเวณหน้าห้องน้ำทุกห้อง
บริเวณหน้าลิฟต์ทุกชั้น
บริเวณหน้าห้องจัดเลี้ยงทุกห้องที่มีการจัดงานแต่งงาน ประชุมสัมมนา หรืองานกิจกรรมอื่น ๆ
บริเวณหน้าห้องอาหารทุกห้อง
บริเวณหน้าฟังก์ชันบริการต่าง ๆ ทุกส่วน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สปา สนามเทนนิส
บริเวณหน้าเคาเตอร์เช็คอินและเช็คเอ้าท์

รวมทั้งโซนพนักงานเองต้องมีจุดบริการเจลล้างมือด้วย เช่น ห้องอาหารสำหรับพนักงาน (Canteen) ทางเข้าแสกนนิ้วเข้า-ออกงานในโซนออฟฟิศ เป็นต้น

การทำความสะอาดพื้นที่ต้องได้มาตรฐานขั้นสูงสุด

การทำความสะอาดตามมาตรฐานทั่วไปอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันและสกัดการแพร่เชื้อโควิด-19 หรือโรคระบาดอื่น ๆ อย่างโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้ออกมาตรการทำความสะอาดทุกพื้นที่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและอบโอโซนทุก ๆ 2 ชั่วโมงตามจุดต่าง ๆ เช่น

มีการอบโอโซนในทุกพื้นที่ โดยมีป้ายแจ้งเตือนทุกครั้งที่ทำการอบ เช่น ลิฟต์ ห้องพัก ห้องจัดเลี้ยง ห้องอาหาร รถตู้โรงแรม ห้องน้ำทุกห้องทุกชั้น พื้นที่สาธารณะ หน้าล็อบบี้ เป็นต้น

พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อที่สัมภาระของแขกทุกคนที่เข้า – ออกโรงแรม

พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในโรงแรมทุกพื้นที่ รวมทั้งลานจอดรถ

เช็ดทำความสะอาดปุ่มกดลิฟต์ อุปกรณ์ของใช้ทุกอย่างภายในห้องพักและห้องจัดเลี้ยงทุกครั้งหลังเสร็จงาน

อุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหารทุกชนิด เช่น ถ้วย จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้ว เมื่อล้างแล้วต้องลวกด้วยน้ำร้อนทุกครั้ง

ผ้าบนห้องพัก เช่น ผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ผ้าขนหนู ซักด้วยน้ำโอโซน และอบด้วยความร้อนทุกครั้ง

ตัวอย่างมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในโรงแรมและสถานที่จัดงานแต่งงาน
ขอบคุณวีดิโอประกอบบทความจาก : โรงแรมอเล็กซานเดอร์ รามคำแหง (Alexander Hotel Bangkok)

นอกจากนี้ บริเวณทางเข้าหน้างานต้องมีจุดคัดกรองเพื่อวัดอุณหภูมิให้กับแขกทุกคนที่จะเข้ามาภายในงานแต่งงาน ถ้าแขกคนใดมีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศา ทางโรงแรมและผู้จัดงานจะไม่อนุญาตให้เข้าร่วมภายในงานแต่งงานเด็ดขาด และหากในระหว่างงานมีแขกคนใดที่มีอาการต้องสงสัยว่าเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ทางโรงแรมจะรีบติดต่อโรงพยาบาลให้มาดำเนินการต่อทันที

ถ้ามาไม่ได้ ให้ส่งใจมาแทนดีกว่า

สำหรับการเข้าร่วมงานแต่งงาน ถึงทางสถานที่จะไม่ได้มีข้อห้ามใด ๆ อย่างจริงจัง แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ถ้าคุณมีข้อห้ามข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ Weddinglist ขอให้ส่งกำลังใจจากที่บ้านหรือบนโซเชียลมีเดียไปแทน ก็จะสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายครับ

เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ
ยังอยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน
มีอาการป่วยต้องสงสัยอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่มั่นใจว่า จะเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 หรือเปล่า เช่น เป็นหวัด ไอ น้ำมูกไหล มีไข้ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจติดขัด เป็นต้น

ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารภายในงานฯ กรณีที่เป็นโต๊ะจีนอาจป้องกันได้ 2 แบบคือ แจกช้อนกลางประจำตัว (ช้อนใครช้อนมัน) หรือให้พนักงานโรงแรมเป็นคนตักอาหารใส่จานให้ โดยไม่อนุญาตให้แขกตักเอง ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์และค็อกเทลได้ด้วย

อีกกรณีหนึ่งคือ After Party ซึ่งจากการสอบถามความคิดเห็นทั้งว่าที่คู่บ่าวสาวและสถานที่แต่งงานต่าง ๆ ล้วนเห็นตรงกันว่าควรงดจัดทุกกรณี ด้วยความเสี่ยงจากการใกล้ชิดหรือสัมผัสกันในขณะที่ร้องรำทำเพลงภายในห้องจัดเลี้ยงที่เปิดไฟสลัว จึงทำให้ยากแก่การสังเกตพฤติกรรมของแขกภายในงานฯ

ถ้าคู่บ่าวสาวตัดสินใจขอเลื่อนวันจัดงานแต่งงานออกไป ต้องเตรียมตัวอย่างไร

กรณีที่จำเป็นต้องเลื่อนงานแต่งงานเพราะกังวลในสถานการณ์โควิด-19 หรือด้วยเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ เบื้องต้นให้คู่บ่าวสาวรีบติดต่อ Sales Wedding ที่เคยคุยกันไว้ เพื่อดูเงื่อนไขว่าสามารถผ่อนผันให้ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งเงื่อนไขของแต่ละสถานที่แต่งงานจะไม่เหมือนกัน และส่วนใหญ่ทาง Sales Wedding จะพิจารณาถึงความจำเป็นต้องเลื่อนเป็นแต่ละกรณีไป เช่น ถ้ามีเหตุสุดวิสัย สามารถเลื่อนวันจัดงานออกไปได้ แต่ต้องเลือกวันจัดงานใหม่ภายในปีนี้ หลังจากที่ตกลงเลื่อนวันได้แล้ว ให้รีบแจ้งให้บรรดาแขกที่จะมาร่วมงานได้รับทราบโดยเร็วที่สุด

และที่สำคัญที่สุดคือ คู่บ่าวสาวควรเตรียมงบประมาณสำรองไว้อีกจำนวนหนึ่ง (อย่างน้อยอีก 10-20% ของงบประมาณหลักสำหรับจัดงานแต่งงาน) เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นเมื่อขอเลื่อนงานแต่งงานด้วย

สุดท้ายแล้ว เมื่อคู่บ่าวสาวตัดสินใจขอเลื่อนวันจัดงานแต่งงานออกไปก่อน Weddinglist เองได้เตรียมข้อมูลฤกษ์แต่งงานปี 2563 และ 2564 รวมทั้งโปรโมชั่นแต่งงานแบบออนไลน์ให้ทุกท่านได้ดูกันเพิ่มเติมแล้วครับ

คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม ฤกษ์แต่งงานปี 2563

คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม ฤกษ์แต่งงานปี 2564

คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม โรงแรมและสถานที่จัดงานแต่งงาน

คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมงาน Wedding Fair และโปรโมชั่นแต่งงาน

โควิด-19 เราป้องกันได้ ด้วยหน้ากากและแผ่นกรองอนามัยที่ได้มาตรฐาน

ผ้ามัสลิน เป็นผ้าที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันฝอยละอองของสารเหลว สารคัดหลั่งต่าง ๆ จากร่างกายได้มากที่สุดและมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์

Ok Mask “หน้ากากผ้ามัสลิน” หน้ากากผ้าคุณภาพมาตรฐานทางการแพทย์ รูปทรงกระชับรับกับทุกใบหน้า ป้องกันละอองฝอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19)

หน้ากากผ้าเย็บ 4 ชั้น พร้อมช่องใส่แผ่นกรองอนามัย