โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ (Amari Watergate Bangkok) เปิดตัวห้องพักประเภทพรีเมียร์ รูม และห้องพักประเภทสวีท ซึ่งปรับโฉมและปรับปรุงใหม่ โดยผสมผสานการตกแต่งภายในแบบวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแห่งสายน้ำใจกลางกรุงเทพฯ อย่างคลองแสนแสบ คลองใจกลางเมือง ที่ท่าน้ำตั้งอยู่ถัดออกไปจากทางเข้าโรงแรมฯ เพียงไม่กี่นาที
จากการตกแต่งที่นำ “ลายกนก” ซึ่งเป็นลายดอกบัวที่สำคัญของพื้นฐานลายไทยในงานจิตรกรรม มาทอลงบนผืนพรหมและนำมาประดับในรูปวาดบนกำแพง หรือการตกแต่งไฟในห้องพักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฟสองข้างทางถนนหนทางที่ทำให้เพลิดเพลินเวลาเดินเล่น พรรณาถึงเอกลักษณ์ของเมืองเก่าที่มีท่าน้ำตลอดสองข้างทางน้ำ ที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก ห้องพักนำเสนอความละเอียดอ่อนและย้ำเตือนถึงเอกลักษณ์ของทำเลใจกลางกรุงเทพฯ บนทางแยกของวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่
โรงแรมฯ ตั้งอยู่ท่ามกลางย่านแฟชั่น ช้อปปิ้ง และอาหาร โดยสามารถจะมองเห็นได้ถึงวิถีชีวิตจากการทำมาค้าขาย เช่น ร้านขายเสื้อผ้าแบบกลางแจ้ง ที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณรอบๆโรงแรม และที่ชัดเจนที่สุดก็คือร้านขายอาหารที่มีกระติ๊บข้าวเหนียวตั้งอยู่หน้าร้าน
นอกจากนี้ ในส่วนของห้องน้ำ ได้มีการปรับปรุงทำใหม่ทั้งหมด ทั้งการเพิ่มในส่วนอ่างล้างหน้าแบบคู่ การขยายในส่วนอาบน้ำแบบเรนชาวเวอร์ และกระจกที่มีไฟส่องจากด้านหลัง
นอกจากจากภาพรวมในการตกแต่งโดยใช้ลายแม่บทในจิตรกรรมไทย นั่นคือ ลายกระหนกและผสานกับความมีชีวิตชีวาแบบไทยเข้ามาไว้ในห้องพัก 564 ห้องแล้วนั้น ยังรวมไปจนถึงการปรับภาพลักษณ์ของห้องประชุมที่ชั้น 7 ทั้งหมดอีกด้วย
แรงบันดาลใจที่นำเรื่องราวในยุคก่อนของเมืองแห่งเทวดาบนสรวงสวรรค์ที่ไม่มีใครเหมือน ผนวกความเป็นอยู่ของชุมชนมาผสานรวมกันอย่างลงตัว โรงแรมอมารีได้ตั้งเป้าหมายที่จะนำความมีชีวิตชีวาและความมีเสน่ห์เหล่านั้นมาประยุกต์ในการดีไซน์และการบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนให้กับแขกผู้เข้าพัก ทั้งนี้โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ ได้หยิบยกแนวคิดและวัฒนธรรมไทยแบบร่วมสมัยมาใช้ในการดีไซน์ส่งผ่านทุกรายละเอียดเพื่อนำเสนอและต้อนรับทุกท่านให้มาสัมผัสประสบการณ์อันล้ำค่านี้อีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของห้องประชุมโฉมใหม่จะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ และส่วนของห้องพักจะเปิดทำการทั้งหมดในเดือนเมษายน 2564 นี้