2016 08 02

6 เหตุผลสำคัญที่ควรตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน


ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วง Low Season ของคนแต่งงาน คู่รักหลายคู่อาจกำลังเตรียมการจัดงาน หาซื้อของโน่นนี่นั่นเพื่อรอวันงานในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า แต่รู้หรือไม่ คุณกำลังลืมบางอย่างที่จำเป็นต่อชีวิตคู่ นั่นก็คือการตรวจร่างกายยังไงล่ะ

ทำไมต้องตรวจร่างกายด้วย ถึงแม้ว่าภายนอกคุณอาจไม่ได้เป็นโรคอะไรเลย แต่โรคบางโรคมันซุ่มเงียบ ไม่แสดงปฏิกิริยาให้เรารับรู้ได้ว่าเป็นโรคนี้ ซึ่งอาจมีผลกระทบร้ายแรงต่อคู่รักและลูกของคุณโดยไม่รู้ตัว (ถ้าคิดจะมีลูกแน่ๆ แล้วนะ) แต่ถ้าคุณตรวจร่างกายล่วงหน้าก่อนถึงวันของคุณแล้ว หากพบอะไรที่ผิดปกติก็จะได้ช่วยกันหาทางป้องกันได้ทันเวลา ซึ่งการตรวจร่างกายก่อนแต่งงานจะแตกต่างจากการตรวจร่างกายทั่วไปคือ จะเน้นโฟกัสไปที่การตรวจหาว่า คุณมีโรคติดต่อที่ถ่ายทอดได้จากการมีอะไรกับแฟนหรือเปล่า เพราะอย่างที่บอกไปว่า โรคพวกนี้มักจะไม่แสดงอาการให้รู้ว่าเป็น แต่ถ้ามารู้ทีหลังเมื่อมีอะไรกับแฟนหรือมีลูกไปแล้ว ก็อาจสายเกินไปที่จะรักษาได้

หลักๆ ที่คุณต้องรู้เมื่อตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน มาดูกันตามนี้ได้เลยค่ะ

1. ตรวจกรุ๊ปเลือด

คุณหมอจะตรวจเช็กให้ในพาร์ทของ Rh ซึ่งมี 2 แบบคือ Rh+ และ Rh-  ซึ่งสำคัญต่อการมีลูกมากๆ คือ ถ้าเรากับแฟนมีกรุ๊ป Rh เป็นประเภทเดียวกัน เช่น เป็น Rh+ หรือ Rh- ทั้งคู่ ก็เปิดซิงได้สบายๆ คลายกังวลไปได้เลย แต่ถ้าเรากับแฟนอยู่กลุ่มต่างกัน โดยเฉพาะเคสที่ผู้ชายเป็น Rh+ แล้วผู้หญิงเป็น Rh- จะต้องได้รับคำแนะนำจากคุณหมออย่างใกล้ชิด อย่าเพิ่งตกใจไปว่า เรามีลูกไม่ได้นะคะ เพียงแต่ต้องใส่ใจรายละเอียดมากกว่าคนทั่วไปว่าจะต้องดูแลยังไง ระวังตัวยังไง เพราะเคสนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการแท้งลูก หรือภาวะทารกตัวเหลืองค่ะ

2. ตรวจหาไวรัสตับอักเสบบี

ข้อนี้จำเป็นมาก เพราะเป็นโรคติดต่อผ่านการมีอะไรกับแฟน เสี่ยงต่อการเป็นโรคตับอักเสบ มะเร็งในตับ ป้องกันอย่าให้เป็นจะดีกว่า วิธีตรวจคือตรวจจากเลือดนี่แหละ ถ้าเจาะเลือดดูแล้ว ปรากฎว่ายังไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี ก็ต้องฉัดวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันเดี๋ยวนั้นเลย  ซึ่งบางคนอาจเคยฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีมาก่อนแล้ว ก็ประมาทไม่ได้อยู่ดี เพราะถึงแม้ว่าฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อนแล้ว แต่ภูมิคุ้มกันย่อมลดลงไปตามเวลาได้ ซึ่งถ้าฉีดซ้ำอีกครั้งจะไม่เพียงดีต่อคุณและแฟน แต่ลูกของคุณก็จะปลอดภัยจากไวรัสตัวนี้ด้วย

3. หัดเยอรมัน

โรคนี้จะโฟกัสไปที่สาวๆ นะคะ เพราะถ้าเป็นโรคนี้ตอนกำลังท้องขึ้นมานี่เรื่องใหญ่มากเลยนะ เพราะคลอดออกมาแล้ว เบบี้ตัวน้อยๆ อาจโดนสอยถึงขั้นพิการได้เลย เพราะฉะนั้นมาตรวจกันเถอะโนะ แต่การป้องกันโรคนี้ไม่ได้จบที่ฉีดวัคซีนนะ เราต้องคุมกำเนิดก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งตรงนี้คุณหมอจะช่วยแนะนำเราได้ว่า จะมีลูกได้เมื่อไหร่

4. ธาลัสซีเมีย

หลายคนคุ้นเคยชื่อนี้เป็นอย่างดี โรคนี้ติดต่อทางพันธุกรรม รักษาไม่ได้ ไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ต้องตรวจให้รู้ว่าเราเป็นพาหะหรือเปล่า ถ้าตรวจออกมาแล้วเราเจอว่าเราเป็นพาหะของโรคนี้ แปลว่าเรามีโอกาสถ่ายทอดไปให้ลูกได้นะ ต้องให้คุณหมอดูแลอย่างใกล้ชิดเลย เพราะถ้าเราท้อง คุณหมอจะช่วยตรวจวินิจฉัยว่าลูกของเราจะมีโอกาสเป็นธาลัสซีเมียมั้ย ถ้าเป็น เป็นชนิดไหน รุนแรงระดับใด ถ้าเก็บเบบี๋ไว้จะอันตรายกับเขารึเปล่า

5. ซิฟิสิส

โรคนี้มีชื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า หนองใน ฟังดูแล้วอาจดูขยะแขยง แต่ภายนอกไม่มีอาการเด่นชัดใดๆ เป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ถ้าไม่ได้ตรวจก็จะไม่รู้ตัวเลยว่าเป็น ซึ่งเราจะสามารถแพร่โรคนี้ให้แฟนได้โดยไม่รู้ตัวเลย แล้วโรคนี้อันตรายมากด้วย เพราะเชื้อจะลามขึ้นไปยังระบบประสาท ขึ้นสมองได้เลย ถ้านึกภาพไม่ออกว่าเป็นยังไง หากจำลำยองได้ก็ร้องอ๋อได้เลย ทางที่ดีควรรีบไปตรวจก่อนแต่งเถอะนะ เดี๋ยวจะไม่ได้สวิงกันชั่วชีวิตเลยทีเดียว

6. HIV / เอดส์

โรคนี้คงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ เพราะทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว หลายคนกลัว เขิน และอาย แต่ควรตรวจเพื่อความสบายใจดีกว่าเนาะ

คู่รักหลายคู่คิดว่า การให้แฟนมาตรวจร่างกายก่อนแต่งงานจะแสดงถึงความไม่ไว้ใจกัน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งจะหมายถึง เพราะเรารักกันจริงและพร้อมสร้างครอบครัวด้วยกัน จึงต้องมาตรวจร่างกายให้รู้ว่าเราเป็นโรคอะไรรึเปล่า มีภูมิคุ้มกันมั้ย อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะแพร่ไวรัสให้แฟน หรือลูกรึเปล่า ถ้าเรารู้ก่อน เราจะได้รีบปรึกษาคุณหมอ ฟังคำแนะนำ วางแนวทางป้องกันได้ทันท่วงทีค่ะ

Source