สำหรับว่าที่คู่บ่าวสาวที่ได้ฤกษ์แต่งงานช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน หลายคนอาจคิดว่าช่วงนั้นคงไม่ร้อนสาหัสเท่าเดือนเมษายนแล้ว แต่ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยในปัจจุบันที่ยากจะคาดเดาได้ว่า จะเข้าหน้าฝนจริง ๆ จัง ๆ เมื่อไหร่ แต่ถึงกระนั้นอากาศก็ยังคงร้อนต่อไปอยู่ดี
พูดถึงเรื่องงานแต่งงานในหน้าร้อนแล้ว หากจัดภายในอาคารหรือ Indoor ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก แต่ถ้าจัดงานกลางแจ้งหรือ Outdoor แน่นอนว่าต้องสู้กับแดดแรงเปรี้ยง ๆ บวกกับอากาศร้อนอบอ้าวอย่างเลี่ยงไม่ได้ 5 สิ่งที่ ไม่ควร หรือ ห้าม ในการจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง จึงเกิดขึ้นตามลิสต์ต่อไปนี้เลยค่ะ
1. “ไม่” ท้าแดดท้าลม
ข้อนี้ถ้าบอกว่าควรหลีกเลี่ยงคงน้อยไป ใช้คำว่า ห้าม ไปเลยดีกว่า เพราะถึงแม้สถานที่จัดงานแต่งงานกลางแจ้งบางแห่งอาจอยู่ริมชายหาด ริมแม่น้ำ มีลมพัดและไอเย็นจากน้ำช่วยคลายร้อนได้ก็จริง แต่ถ้าเจอกับแดดที่แรงจัดจ้านพอ ๆ กับอากาศล่ะก็ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวและแขกร่วมงานคงได้เหงื่อแตกพลั่ก หน้ามันเยิ้ม เสื้อผ้าชุ่มเหงื่อไปตาม ๆ กันแน่นอน ต่อให้บริเวณงานมีร่มไม้ให้หลบแดดได้บ้าง แต่ก็คงไม่ได้ช่วยบังแดดได้ทั่วทั้งงานหรอก ยิ่งจัดงานแต่งริมหาดแล้ว ยิ่งต้องเตรียมรับมือกับลมแรง ๆ ที่อาจทำให้เสื้อผ้าหน้าผมของเจ้าบ่าวเจ้าสาวและแขก รวมทั้งของประดับตกแต่งงานเละไม่เป็นท่าแน่นอน อีกทั้งยังต้องระมัดระวังกับ ฝน ที่ไม่อาจคาดคะเนได้เลยว่าจะมีโอกาสตกในระหว่างงานหรือไม่
2. “ไม่” หันหน้าหาดวงอาทิตย์
คิดว่าคงไม่มีว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่จัดงานเลี้ยงกลางแจ้งช่วงบ่าย ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งแดดและอากาศร้อนสุด ๆ แน่นอน แต่ถ้าสำหรับว่าที่คู่บ่าวสาวที่จัดงานเช้าเลี้ยงเที่ยงถือว่าสำคัญ เพราะช่วงกินเลี้ยงตอนเที่ยงแดดจะเริ่มเปรี้ยง แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการตั้งเวทีหรือปะรำพิธีในทิศทางที่เข้าหาดวงอาทิตย์ หรือไม่งั้นก็ตัดปัญหาด้วยการจัดงานเลี้ยงในร่มไปเลย หรือไม่ก็ยกไปจัดช่วงเย็นอาจสะดวกกว่า
3. “ไม่” ใช้เครื่องสำอางไม่กันน้ำ
ปัญหานี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเจ้าสาว ต่อให้จัดงานแต่งงานในห้องแอร์ก็มีสิทธิ์เหงื่อไหลเป็นธารน้ำได้ ยิ่งจัดงานกลางแจ้งไม่ต้องพูดถึง ซับหน้าบ่อย ๆ เอาไม่อยู่แน่นอน แถมจะทำให้หน้าเมกอัพเละด้วย วิธีแก้ปัญหาคือ ใช้เครื่องสำอางกันน้ำกันไว้ก่อน เพื่อจะได้ลดการเติมหน้าระหว่างงานลง
4. “ไม่” สวมกระโปรงยาวลากพื้น
โดยเฉพาะชุดเจ้าสาวเมอร์เมดหางปลาที่ค่อนข้างถ่วงน้ำหนักควรหลีกเลี่ยงหรือห้ามใส่ไปเลย ขอเป็นกระโปรงที่ไม่กรุยกรายดีกว่า หรือเป็นเดรสสั้นก็ได้ค่ะ ดูชิก ๆ ไปอีกแบบ
5. “ไม่” ใช้พัดลมไอน้ำ
ถ้าจะใช้พัดลมไอน้ำภายในงาน แนะนำเป็นพัดลมแอร์จะดีกว่าค่ะ เพราะพัดลมไอน้ำจะทำให้เมกอัพละลาย หรือชุดเปียกจนเสียทรง อีกทั้งพัดลมแอร์มีค่าเช่าที่ไม่สูงมากด้วย
เพราะงานแต่งงานเป็นงานครั้งสำคัญของคู่รัก แต่อย่าลืมนึกถึงความสะดวกสบายของคนรอบข้างที่เรารักด้วยนะคะ
