ความเดิมจากบทความเรื่อง จัดงานแต่งงานอย่างไรให้เหมาะสมกับช่วงเวลานี้ ก็มีว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวหลายท่านเข้ามาสอบถามเพิ่มเติม ซึ่งทีมงาน Weddinglist ได้รวบรวมทุกข้อสงสัยมาไว้ ณ ที่นี่แล้วค่ะ
1. ถ่ายพรีเวดดิ้งได้หรือไม่
ถ้าเน้นถ่ายใน Indoor หรือ Studio ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวสามารถถ่ายตามสไตล์ที่ต้องการได้ตามปกติค่ะ ยิ้มได้ โพสท่าฟรีสไตล์ได้ โอบกอดกันได้ แต่ถ้าถ่ายแบบ Outdoor ควรงดถ่ายในที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ ชายหาดสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า และอาคาร ย่านต่างๆ ที่มีคนพลุกพล่าน เป็นต้น
ชุดถ่ายพรีเวดดิ้งควรเป็นสีสุภาพ ได้แก่ ดำ ขาว เทา กรมท่า ครีม น้ำตาล และสีพาสเทล แต่ถ้าหลีกเลี่ยงชุดที่มีสีฉูดฉาดไม่ได้จริงๆ ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรสวมเสื้อคลุมสีดำก่อนเริ่มถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยค่ะ ส่วนเรื่องโพสท่าควรโพสท่าทางที่สำรวม ถ้าถ่ายแบบ Outdoor ควรงดท่าทางที่ล่อแหลม เช่น ฉีกขา ท่ายั่วสวาทบนเตียง โอบกอด หอมแก้ม เป็นต้น
ตัวอย่างภาพพรีเวดดิ้งที่เหมาะสม
ตัวอย่างภาพพรีเวดดิ้งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงเวลานี้
2. แห่ขบวนขันหมากได้หรือไม่
เรื่องข้าวของเครื่องใช้ในพิธีแห่ขบวนไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ แห่ได้ตามปกติค่ะ แต่ต้องงดโห่ฮิ้ว งดร่ายรำ งดจุดพลุ ประทัด งดยิงปืน งดดนตรีและเครื่องเสียงทุกประเภท
3. แซวคู่บ่าวสาวได้มั้ย
สามารถพูดแซว หยอกล้อเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ตามปกติ พิธีกั้นประตูควรทำพอเป็นพิธี แต่ควรหลีกเลี่ยงคำพูดสองแง่สามง่าม และงดเล่นมุกใต้สะดือ รวมทั้งเกมวัดใจก่อนเข้าพิธีช่วงเช้าเด็ดขาด
4. ใส่ชุดไปงานแต่งงานสีอื่นที่ไม่ใช่สีดำได้หรือไม่
จริงๆ แล้วแขกที่มาร่วมงานแต่งงานสามารถใส่ชุดสีใดก็ได้ค่ะ แต่ควรเป็นชุดที่ไม่ผ่า ไม่มีรอยขาด ทางที่ดีควรเป็นสีสุภาพ ได้แก่ สีขาว สีเทา สีกรมท่า สีครีม สีน้ำตาล แต่ถ้าเป็นชุดสีฉูดฉาด เช่น แดง, เหลือง, น้ำเงิน, ม่วง, ส้ม แนะนำให้ควรหลีกเลี่ยงหรือหาสูท เสื้อคลุม ผ้าคลุมสีที่มีดำ สีขาว หรือสีกรมท่ามาสวมทับอีกที เพื่อให้เหมาะสมกับกาลเทศะในช่วงเวลานี้ค่ะ
ตัวอย่างชุดไปงานแต่งงานที่เหมาะสม
ตัวอย่างชุดไปงานแต่งงานที่ควรหลีกเลี่ยง
5. ถ้าชุดเพื่อนเจ้าสาวดู Sexy มากเกินควร จะแก้ปัญหาอย่างไร
ปัญหานี้มักพบในช่วงงานฉลองมงคลสมรสมากกว่าพิธีเช้า ซึ่งปัจจุบันชุดเพื่อนเจ้าสาวมักดีไซน์เผื่อใช้ต่อในงาน After Party ด้วย ขอแนะนำให้สวมเสื้อคลุมหรือผ้าคลุมไหล่สีขาว สีเนื้อ หรือสีพื้นทับในช่วงรับแขกหน้างานก่อนเริ่มพิธี และสามารถถอดชุดคลุมออกเมื่อเข้าสู่ภายในพิธีแล้ว
6. มีดนตรีสดในงานแต่งงานได้หรือไม่
ดนตรีสดสามารถเล่นได้ตามปกติค่ะ แต่เหมาะกับงานแต่งงานแบบ Indoor ที่มีความเป็นส่วนตัวกว่า ส่วนแนวดนตรีที่ใช้เล่นหรือเปิดคลอภายในงานควรเป็นแนวอะคูสติก แจ๊ส บลู หรือบลอสซา และควรงดดนตรีแนวร็อคหรือเมทัลนะคะ
7. เปิดเพลงมหาฤกษ์หรือเพลงอวยพรอื่นๆ ตอนกล่าวอวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้หรือไม่
หากพิจารณาตามความเหมาะสมแล้วถือว่าไม่ควรเปิดเพลงอวยพรใดๆ เลย แต่เปลี่ยนจากเปิดเพลงร้องไชโยมาเป็นปรบมือแทนได้ค่ะ
8. เจ้าบ่าวเจ้าสาวสามารถตัดเค้ก เทแชมเปญ หรือโยนช่อดอกไม้ได้หรือไม่
สามารถตัดเค้กหรือเทแชมเปญได้ตามปกติค่ะ ส่วนกิจกรรมโยนช่อดอกไม้จะว่าไม่เหมาะก็บอกได้ไม่เต็มปาก เพราะเป็นกิจกรรมของการแต่งงานของชาวคริสต์ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าบ่าวเจ้าสาว หากงานแต่งงานมีแขกผู้ใหญ่มาร่วมมากก็ควรไตร่ตรองถึงความเหมาะสมให้มากเป็นพิเศษค่ะ
9. มีแอลกอฮอล์ในงานได้หรือไม่
จริงๆ ถือว่าไม่เหมาะสม แต่เรื่องนี้หยวนๆ กันได้ค่ะ แค่เหล้าเข้าปากแล้วอย่าโวยวายจนเกินความเหมาะสมก็พอ และเพื่อนๆ ที่มาร่วมงานต้องช่วยกันเตือนด้วยว่าอย่าดื่มมากจนขาดสติ เพราะในขณะที่เหล้ากำลังเข้าปากรัวๆ เราอาจทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้
10. โพสต์ภาพงานแต่งงานลงบน Social Media ได้หรือไม่
ในที่นี้หมายถึงทุกโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็น Photo Album, VDO Live, Check-in, Status และ Hashtag ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคลค่ะ จะโพสต์ก็ได้ แต่ถ้าดูตามกาลเทศะแล้ว อย่าเพิ่งเลยดีกว่า รอให้ครบกำหนดไว้ทุกข์ก่อนค่อยทยอยโพสต์เก็บตกก็ยังไม่สาย เพราะงานแต่งงานไม่ใช่ข่าว ไม่จำเป็นต้องโพสต์แบบ Real Time เสมอไป
จาก 10 คำถามที่ว่ามานี้ จะแก้ปัญหาเบื้องต้นได้อย่างไร
แขกที่จะมาร่วมงานส่วนใหญ่ย่อมรู้ดีว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่เพื่อป้องกันปัญหาในเบื้องต้น ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรแจ้งรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงให้บรรดาแขกได้ทราบกันทั่วถึง ทั้งการโทรและการแจ้งข่าวผ่าน LINE และ Facebook แต่ทั้งนี้ไม่ควรแจ้งในระยะเวลากระชั้นชิด ควรเผื่อเวลาให้แขกทั้งหลายได้เตรียมตัวด้วย รวมทั้งคิดหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในกรณีที่มีแขกแจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตามที่แจ้งมาได้ เช่น ถ้าเพื่อนสาวบอกว่าตัดชุดเกาะอกสีแดงมาพร้อมแล้ว ก็อาจแจ้งให้หาผ้าคลุมไหล่สีดำหรือสีขาวมาคลุมทับในวันงานด้วย
