รีวิวแต่งงานธีม Pastel & Flower ท่ามกลางบรรยากาศสุดหวานชื่น @Holiday Inn Bangkok Silom

โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม (Holiday Inn Bangkok Silom) โรงแรมในเครือ IHG ที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนสีลม ย่านธุรกิจ อยู่ติดทางด่วนและใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ เดินทางมาง่าย สะดวกสบายด้วยห้องอาหารและห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ใช้รองรับการจัดงานแต่งงานได้หลากหลาย ทั้งดีไซน์ห้อง รูปแบบอาหาร เครื่องอำนวยความสะดวก และการบริการต่าง ๆ ที่ครบครัน รับรองว่าบ่าวสาวที่มาจะได้รับความประทับใจกลับไปแน่นอน

โดยวันนี้ทาง Weddinglist ได้รับเกียรติจาก คุณชาร์ป (เจ้าบ่าว) คุณจ๊อย (เจ้าสาว) ที่จะมาบอกเล่าความรู้สึกหลังจากตัดสินใจเลือกใช้สถานที่ของทางโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม เพื่อมาเนรมิตเป็นงานแต่งงานในบรรยากาศสุดหวานชื่น ซึ่งภายในงานวันนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง มารับชมกันได้เลยค่ะ

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

จุดเริ่มต้นวางแผนเเต่งงานของ คุณชาร์ป & คุณจ๊อย

คุณชาร์ป : ช่วงเริ่มต้นก็จริง ๆ ไปได้ฤกษ์มาช่วงต้นกุมภาพันธ์ครับ แล้วก็พยายามที่จะ Scope ลงมาให้กลางเดือนหน่อย ผมตั้งงบค่าโรงแรมไว้ไม่เกิน 350,000 บาท Set จำนวนคนไว้ 200 – 250 คนครับ มี Candidate โรงแรมไว้ประมาณ 5-6 โรงแรม แล้วก็มาได้ที่ Holiday inn นี่แหละครับ

รู้จักกับโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลมได้ยังไง?

คุณชาร์ป : ดูผ่านเว็บไซต์แล้วก็ Facebook ครับ ตามการยิง Ads พอหาปุ๊บมันก็ขึ้น เราก็พยายาม Scope แล้วเอามาคุยกัน พอเลือก ๆ ๆ แล้วก็โอเค Holiday in silom เป็นโรงแรมที่อยู่ในเครือ IHG Group แล้วก็โลเคชั่นดี ลงทางด่วนมาถึงเลย มาง่าย ก็เลยตัดสินใจเลือกครับ

ส่วนระยะเวลาในการเตรียมงาน ประมาณ 8 เดือน ตั้งแต่เดือน 2 ถึงเดือน 10 ครับผมได้โรงแรมประมาณช่วงเมษา ถ้าผมจำไม่ผิดนะคอนเซ็ปต์แรกคือโรงแรมก่อนเลยครับ เพราะรู้สึกว่าช่วงปลายปีคนน่าจะแต่งเยอะ ก็เลย อย่างน้อยขอให้มีที่แต่งงานก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยไปเก็บ Detail อื่น ๆ เอา

ทำไมถึงเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม?

คุณชาร์ป : จริง ๆ เหตุผลหลักก็งบก่อนเลย อยู่ใน Scope งบ อยู่ในโลเคชั่นที่ดี แต่ผมว่าอีกปัจจัยนึงที่ช่วยตัดสินใจ คือ เซลส์ดีมาก ดูแลดีมากเลย คุยง่าย แล้วก็ตัดสินใจได้ประมาณนึง ผมคิดว่าเค้าน่าจะมี Budget ในมือแหละที่จะคุยต่อรองกับลูกค้าได้ ให้มันจบภายในครั้งเดียว แล้วผมก็ตัดสินใจจองวันแรกที่มาเลยครับ

เนรมิตงานแต่งสุดโรแมนติก ด้วยดอกไม้สีหวาน ๆ คุมโทนพาสเทล

คุณชาร์ป : ผมกับคุณจ๊อยรู้จักกันมา 16 ปีแล้ว เพิ่งจะมาเป็นแฟนช่วง 3 ปี แต่ในช่วง 16 ปีนี้ก็พยายามที่จะนึกถึงความทรงจำ เพราะจริง ๆ วัตถุประสงค์การจัดงานแต่งอยากทำให้คุณจ๊อย เพราะฉะนั้นธีมที่ผมนึกถึงก็คือ เค้าเป็นคนที่ชอบดอกไม้ Colorful แล้วก็ชอบสีที่เป็นโทน Pastel ผมก็เลยลองคิดคอนเซ็ปต์ว่า Pastel แบบไหนที่มันน่าจะ Mix & Match กันได้ ก็เลยได้ธีมเป็น Pastel & Flower คือสีมันจะเป็นโทน ชมพู เหลือง ฟ้า ดอกไม้ในงานก็จะเป็นแบบนั้นครับ พยายามหาคอนเซ็ปต์ที่เป็นต้นไม้ คุมโทนอะไรแบบนี้ครับ

บรรยากาศภายในงานวันนั้นเป็นยังไงบ้าง?

คุณชาร์ป : ด้วยความที่เป็นงานค็อกเทล ผมรู้สึกว่าค่อนข้างอบอุ่น ขอท้าวความของงานหมั้นก่อนแล้วกันนะครับ จริง ๆ ผม ค่อนข้างจะแฮปปี้มากเลย คือด้วยความที่ครอบครัวเป็นคนจีน สองฝั่งเลยญาติเยอะมาก แต่พื้นที่ห้องเอ็มเมอรัลค่อนข้างดีมาก พื้นที่พอเลย 100 คนได้ แล้วจริง ๆ ก็รู้สึกขอบคุณโรงแรมด้วยเหมือนกันที่ค่อนข้างเตรียมสถานที่ได้พร้อมประมาณนึงเลย อาจจะมีร้องขอจากทางออแกไนซ์บ้าง แต่ว่า 90% โอเคเลยครับ

คุณชาร์ป : ส่วนงานแต่งอาจจะมี Detail เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนทำ Decoration ควรใส่ใจเป็นพิเศษ แต่โดยรวมถ้าเป็นของที่โรงแรมจัดนะ คือ ดีมาก เพราะปัญหาของผมอย่างนึง คือ ตอนแรกผมจะจองประมาณ 200 คน แล้วห้องคริสตัลมันสามารถจัดเป็น inter buffet ได้ แล้วตอนหลังผมก็เพิ่มอีก 50 คนเลยต้องเปลี่ยนเป็นค็อกเทล ซึ่งอันนี้ผมชมทางโรงแรมเลยนะว่า ดูแลดี แล้วในส่วนคนที่ดูแลเรื่องของงานนี้ เค้าบอกว่าเคยแต่งงานที่นี่แล้วจัดค็อกเทลเหมือนผมเลย เค้าก็เลยเสนอไอเดียออกมาได้ดีมาก ทำให้คืนก่อนแต่งงานผมกลับได้อย่างสบายใจครับ

ประทับใจอะไรที่สุดในวันงาน?

ผมค่อนข้างที่จะประทับใจตอนงานหมั้นมาก คืองานหมั้นมันจะเป็นเฉพาะคนในครอบครัวครับ ก็รู้สึกว่ามันได้รับความอบอุ่นมาก คือผมปล่อยจอยตั้งแต่งานหมั้นเลย พอจบงานหมั้นปุ๊บ สบายใจ เราก็ว่าง ที่บ้านพอเป็นคนจีนเค้าก็จะซีเรียสเรื่องพิธี พองานแต่งผมก็ไหล ๆ แล้วครับ

ได้รับ feedback จากแขกยังไงบ้าง?

คุณชาร์ป: แฮปปี้นะครับอาหารในงานอร่อยมาก แล้วก็รู้สึกว่าพอจัดเป็นค็อกเทล จริง ๆ แล้วผมว่าคนไทยเค้าติดว่าต้องมีเก้าอี้นั่งครับ พอปรับเป็นยืนแล้วมันกลับทำให้แขกใกล้ชิดกัน แล้วก็อินกับบรรยากาศบนเวทีมากขึ้น คือพอมีเก้าอี้ มีโต๊ะ ทุกคนจะเอาแต่โฟกัสกับอาหาร แต่พอเป็นยืนทุกคนจะโฟกัสกับบนเวทีเยอะ ผมเลยรู้สึกว่าการจัดแบบนี้มันก็เป็นจิตวิทยาแบบนึงที่ทำให้คนโฟกัสกับตัวงานมากขึ้น ก็จะซึมซับกับบรรยากาศในงานได้ดีกว่า แต่มันก็ต้องแลกมากับความลำบากของแขกนะ ลองชั่งน้ำหนักดู

“การเลือกออแกไนซ์สำคัญมากนะครับ ผมไม่แน่ใจคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เป็นยังไง แต่พอรุ่นเรามันจะวัยรุ่นหน่อย เอาแบบไม่ต้องพิธีการมาก และดูเป็นกันเอง“

อยากฝากอะไรถึงบ่าวสาวที่กำลังหาข้อมูลจัดงานแต่งงานอยู่บ้าง?

ถ้าจะฝากอะไรผมว่าเรื่องแรกก็น่าจะเรื่อง Budget อยากจะบอกว่า พอผมมานั่งคำนวณจริง ๆ ผมคิดว่ามันจะหนักค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าสถานที่ แต่จริง ๆ ก็อยากจะบอกว่าอันนั้นแค่ 60% อีก 40% มันคืออะไรยิบ ๆ ย่อย ๆ ที่เราจ่ายไปโดยที่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นการคำนวณ Budget ก็ให้พยายาม save อันนี้คือประเด็นแรกครับ

ประเด็นที่สองคือ โลเคชั่น ผมว่าสำคัญนะครับ ที่จอดรถสำหรับแขก คืออยากจะบอกว่า มันอาจไม่ใช่งานแต่งของคนสองคน มันคืองานที่ทุกคนมาร่วมยินดีครับ อาจจะต้องอำนวยความสะดวกให้แขก นึกถึงแขกด้วยบางส่วน แล้วก็อย่างที่สาม ระยะเวลาในการเตรียมตัว อย่างของผมระยะเวลาในการเตรียมงานเยอะเนาะแต่คือถ้าให้ฝากก็คือ การจัดลำดับความสำคัญในการเตรียมงาน สำคัญมาก คือ มองภาพใหญ่ก่อนเลย อย่างของผมก็โรงแรม ชุด แล้วก็ Detail ช่วงสองเดือนสุดท้ายก็ออแกไนซ์ แล้วก็อย่าลืมทำ Checklist ว่ายังทำหรือยังไม่ได้ทำอะไร ก็จะได้ Remind ตัวเองได้ครับ

คุณชาร์ป คุณจ๊อย

คลิกขอแพ็กเกจงานแต่ง โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม เพิ่มเติม