Wedding 1 Y 1024 X 682

วางแผนจัดงานแต่งงานอย่างไรภายใน 1 ปี : ตอนที่ 2


ความเดิมตอนที่แล้วที่พูดถึงช่วงแรกของการวางแผนจัดงานแต่งงานว่า ภายในเดือนแรกของการวางแผนจัดงานแต่งงานจะต้องเตรียมอะไรไว้พร้อมแล้วบ้าง แล้วถ้าในเดือนนั้นเราเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วล่ะ ขั้นตอนต่อไปจะต้องทำยังไง มาดูกันต่อเลยค่ะ

อ่านย้อนหลัง วางแผนจัดงานแต่งงานอย่างไรภายใน 1 ปี : ตอนที่ 1 ได้ที่ : https://www.weddinglist.co.th/?p=15098

8-10 เดือนก่อนแต่งงาน (ภายในสิ้นปีนี้ต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง) 

  • 1. ต้องได้ชุดเจ้าสาวแล้ว หลังจากที่เราได้ติดต่อขอเข้าไปเลือกและลองชุดเจ้าสาวเมื่อเดือนแรก ซึ่งคุณอาจยังไม่ได้ชุดที่ถูกใจทันที แต่ภายในช่วงระยะเวลานี้ คุณต้องเลือกชุดได้แล้ว เพราะคุณต้องเผื่อเวลาให้ร้านชุดแต่งงานได้แก้ไขชุดเพิ่มเติม (ชุดเจ้าสาวไม่ได้แก้กันวันสองวันเสร็จนะ เขาแก้กันเป็นเดือนๆ บางชุดอาจต้องแก้ทะลุปีเลยก็มี) ส่วนจะเช่า เช่าตัด หรือสั่งตัดแล้วแต่ความสะดวกของคู่บ่าวสาวเลยค่ะ
  • 2. เริ่มคิด หา และสั่งชุดเพื่อนเจ้าสาว ดูเผินๆ คุณอาจคิดว่าชุดเพื่อนเจ้าสาวก็แค่ชุดเดรสธรรมดาชุดหนึ่ง แต่งานแต่งงานเป็นงานที่ความประทับใจเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นชุดบ่าวสาวหรือเพื่อนเจ้าสาวล้วนต้องใช้ความประณีตในการตัดเย็บหรือแก้ไขสูงเหมือนกัน และยิ่งจำนวนเพื่อนเจ้าสาวมีมากเท่าไหร่ ร้านชุดแต่งงานก็ต้องยิ่งใช้เวลาเตรียมชุดมากขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีควรรีบทำข้อนี้ให้เสร็จภายในช่วงเวลานี้เช่นกัน
  • 3. หาชุดสูทเจ้าบ่าวที่เข้ากับชุดเจ้าสาว ความจริงในส่วนของเจ้าบ่าวจะใช้เวลาเตรียมตัวไม่มากนัก แต่ถ้ารายละเอียดยิบย่อยส่วนใดที่สามารถเก็บได้แต่เนิ่นๆ ก็ควรจะเตรียมตัวให้เสร็จเลย เพื่อจะได้มีเวลาไปเตรียมตัวส่วนอื่นๆ ได้มากขึ้น
  • 4. สั่งเค้กแต่งงาน เพราะใน 1 ปีจะพบว่า ร้านเค้กแต่งงานแทบทุกร้านมีคิวแน่นมาก ต้องสั่งจองล่วงหน้านานพอสมควรเช่นกัน
  • 5. สั่งดอกไม้สดจัดงานแต่งงาน สำหรับคู่บ่าวสาวที่ขาดดอกไม้ไม่ได้ในงานแต่งงาน อย่างแรกต้องศึกษาก่อนว่า ช่วงวันงานแต่งงานเป็นช่วงฤดูดอกไม้อะไรบ้าง ส่วนทำไมต้องสั่งจองแต่เนิ่นๆ เลย เพราะดอกไม้งานแต่งงานเขาไม่ได้สั่งกันแค่ช่อสองช่อที่จะสั่งแล้วได้ภายในไม่กี่วัน แต่เขาสั่งเป็นเซ็ตใหญ่ซึ่งใช้เวลาเป็นเดือน และใช้แต่ละทีแทบจะยกดอกไม้มาทั้งไร่เลยก็ว่าได้
  • 6. เริ่มหาและจ้าง Wedding Organizer เพื่อประดับตกแต่งงาน (ถ้าไม่ได้จ้าง Wedding Planner) ต่อเนื่องจากได้ Theme Concept งานแต่งงานที่อยากได้แล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของ Wedding Organizer ที่จะมาสานต่อความคิดนี้ให้เป็นภาพสวยๆ ในวันงานได้ ซึ่งคู่บ่าวสาวต้องจองล่วงหน้าเป็นปีเหมือนกัน 
  • 7. หาข้อมูลสถานที่ที่อยากจะไป Honeymoon ข้อนี้ให้เริ่มคิดคร่าวๆ หาข้อมูลไปพลางๆ ยังไม่ต้องจริงจังมากนัก แต่ถ้ามีแพลนในใจแล้ว ให้รีบจองโรงแรมไว้เลยยิ่งดี โดยเฉพาะคู่บ่าวสาวที่มีแพลนจะไปช่วง High Season ทั้งในไทยและต่างประเทศ

เพราะงานแต่งงานมีรายละเอียดยิบย่อยที่ต้องใส่ใจและใช้เวลามากเป็นพิเศษ แต่กระนั้นก็ยังมีบ่าวสาวอีกหลายคู่ที่มาเริ่มเตรียมการ และจองช่างต่างๆ ในช่วงจวนตัวที่ใกล้จะถึงวันงานแบบไฟลนก้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากอาจต้องเสียเงินในเรทที่มากกว่าปกติแล้ว อาจเสี่ยงต่อการได้ผลงานที่มีคุณภาพไม่ดี พูดง่ายๆ คือ ยิ่งเร็ว งานยิ่งหยาบ นั่นเองค่ะ

Source