เทคนิคเลือกเวลเจ้าสาว จะสั้นหรือยาวตัดสินใจยังไงดี

หน้าพร้อม ผมพร้อม ชุดพร้อม แล้วเวลเจ้าสาวพร้อมหรือยังค้า ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ มาทางนี้เลยจ้า เพราะว่า Weddinglist มีเทคนิคดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกเวลมาฝาก บอกเลยว่าเรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกันน้า เพราะ เวล (Veil) หรือ ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว เป็นองค์ประกอบที่จะมาช่วยเสริมให้ภาพรวมทั้งหมด ออกมาดูกลมกล่อม และโดดเด่นไม่แพ้ชุดแต่งงานเลยค่ะ

จริง ๆ แล้ว ผ้าคลุมเจ้าสาวมีหลายแบบหลายสไตล์ให้เลือกมากมายเลยค่ะ แต่หลัก ๆ การเลือกเวลจะดูจากความยาวเป็นอันดับแรกก่อน เพราะว่าเรื่องนี้จะมีผลต่อลุคและสไตล์โดยรวมของเจ้าสาวค่ะ เช่น ความยาวของผ้าคลุมหน้าจะเสริมดีไซน์ของชุดเจ้าสาวไหม หรือจะกลบออร่าของชุดรึเปล่า จะเข้ากับชุดเจ้าสาวสไตล์วินเทจมากกว่าโมเดิร์นหรือไม่ เป็นต้นค่ะ

Birdcage ยาว 4-9 นิ้ว
แบบเน้นสั้นและเก๋ ยาวปิดเฉพาะแค่โซนใบหน้าเท่านั้นนี้ เหมาะกับเจ้าสาวหลายสไตล์ค่ะ ทั้งสายวินเทจ คลาสสิค แฟชั่น และชิค ซึ่งจะไม่มีความเป็นทางการเลยค่ะ

Flyaway ยาว 20-22 นิ้ว
ความยาวจะอยู่ประมาณช่วงหัวไหล่ค่ะ เหมาะกับเจ้าสาวที่กำลังมองหาสไตล์เรียบ ๆ เบา ๆ ไม่ทางการ และไม่แย่งซีนชุดแต่งงานน้าค้า

Blusher ยาว 30 นิ้ว
แบบดั้งเดิม ใช้ใส่เข้าพิธีแต่งงาน โดยที่ความยาวจะอยู่ระหว่างหัวไหล่และข้อศอกค่ะ เหมาะกับเจ้าสาวที่จะเข้าพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมสุด ๆ ไปเลยค่า

Elbow ยาว 32 นิ้ว
สำหรับใครที่ต้องการลุคทางการสุด ๆ และอยากได้ฟีลพิธีการแบบดั้งเดิม ความยาวระดับข้อศอกเหมาะเลยค่ะ แถมยังดูหรูหรา คลาสสิค และเป็นที่นิยมตลอดกาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยน้า

Fingertip ยาว 38-40 นิ้ว
หากยืนตรง ความยาวจะอยู่ที่ปลายนิ้วมือพอดี เหมาะกับชุดเจ้าสาวที่ช่วงล่างบานออก เช่น ชุดเจ้าสาวทรง A-line หรือ Ball gown นั่นเองจ้า

Knee-Length ยาว 48 นิ้ว
ความยาวนี้เป็นระดับความยาวสุดท้ายแล้วที่จะไม่เป็นอุปสรรคกับการเดิน เต้น หรือขยับตัวค่ะ เพราะผ้าคลุมยาวลงมาถึงบริเวณหัวเข่าเท่านั้นค่า

Ballet หรือ Waltz ยาว 60 นิ้ว
ท้าทายความสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ต้องเวลที่มียาวไปจนถึงข้อเท้าเลยค่า ส่วนใหญ่ความยาวระดับนี้ จะไม่ค่อยมีปัญหาการเดินเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องเต้นด้วย อาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้นหน่อยนึงนะคะ

Floor-Length ยาว 72 นิ้ว
แบบยาวถึงพื้น เหมาะกับทั้งชุดเจ้าสาวแบบ Ball Gown และชุดเจ้าสาวแบบเพรียวบางเลยค่ะ ความยาวระดับนี้จะช่วยเพิ่มมิติให้กับชุด และช่วยให้ดูพลิ้วไหวมากขึ้นค่ะ

Chapel ยาว 90 นิ้ว
อันนี้เป็นความยาวแบบลากพื้นขั้นเริ่มต้น เพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้นค่ะ เริ่มดูอลังการมากขึ้น จะเหมาะกับชุดแต่งงานยาวไม่เกินข้อเท้าแบบสุด ๆ ไปเลยค่า

Cathedral ยาว 108-120 นิ้ว
ถ้าต้องการเน้นความหรูหราอลังการ ความยาวนี้จะลากพื้นยาวตามทางเดิน 1-3 ฟุตไปเลยค่ะ ซึ่งเจ้าสาวอาจจะจัดผ้าเองไม่สะดวกควรมีผู้ช่วยนะคะ

Royal ยาวสุดตามที่ใจต้องการ
สวยตะลึงกันทั้งงาน กับความยาวที่เกินความคาดหมาย ถ้าใจเจ้าสาวอยากให้ยาวแค่ไหนก็ไปให้ถึงฝั่งฝันเลยค่า ซึ่งจะพบได้บ่อยในงานของราชวงศ์เมื่อก่อนค่ะ โดยเฉพาะเจ้าหญิงไดอานา

1. งบประมาณที่ตั้งเอาไว้ในใจ
ผ้าคลุมในแต่ละความยาวและดีไซน์มีราคาที่แตกต่างกันค่อนข้างมากค่ะ Weddinglist ก็เลยอยากขอแนะนำให้เลือกชุดเจ้าสาวที่ชอบมากที่สุดก่อนน้า แล้วค่อยกำหนดราคาเวลหลังจากที่รู้ว่าเหลืองบเท่าไหร่ แบบนี้น่าจะดีที่สุดค่า

2. ไปด้วยกันได้ดีกับทรงผม
การติดเวลเจ้าสาวมีหลากหลายแบบเลยค่ะ ไม่ว่าจะติดข้างใต้มวยผมเพื่อที่จะได้อวดทรงผมสวย ๆ ติดบนกระหม่อมกลางศีรษะเพื่อเพิ่มความอลังการ ติดกับเครื่องประดับผมเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพรวม ติดแบบเป็นหวีเสียบ ซึ่งไม่ว่าจะติดแบบไหน ควรระมัดระวังเรื่องน้ำหนักที่สุดค่ะ

ดังนั้น ถ้าหากเลือกทรงผมก่อนเลือกผ้าคลุมเจ้าสาว ควรลองทำทรงผมนั้นไปเลือกด้วยน้าค้า หรือถ้าเลือกเวลก่อนเลือกทรงผม ควรแจ้งช่างทำผมให้รู้ก่อนค่ะว่าเลือกเวลแบบไหนเอาไว้ ความยาวเท่าไหร่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผมหลุดหรือยุ่งเหยิงระหว่างอยู่ในงานนะคะ

3. ห้ามแย่งซีนชุดเจ้าสาวเด็ดขาด
รูปทรงของชุดเจ้าสาวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เอาไว้ใช้เลือกผ้าคลุมค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสรีระของตัวเจ้าสาวและความชอบส่วนบุคคลด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ไม่มีผิดหรือถูกทั้งนั้นเลยน้า

• ชุดเข้ารูป เหมาะกับเวลยาว ๆ เพื่อช่วยเพิ่มวอลลุ่ม
• ชุดหางปลา เหมาะกับเวลไม่ยาวแย่งซีนกระโปรงหางปลา
• ชุดกระโปรงบาน เหมาะกับเวลยาวไปเลย เพื่อช่วยส่งเสริมความอลังการของชุด
• ชุดกระโปรงสั้น เหมาะกับเวลไม่ยาว หรือยาวไม่เกินปลายนิ้ว เพื่อไม่ให้ไปขัดความมินิมอล

4. ลูกเล่นที่ใช่กับสไตล์ตัวเอง
เพราะว่าแต่ละดีไซน์จะมีลูกเล่นแตกต่างกันออกไปค่ะ เช่น ความบาง ความหนา ความฟู สีสัน ลูกไม้ เครื่องประดับ ของตกแต่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลล้วน ๆ เลยค่ะ

จริง ๆ แล้วการติดเวล เป็นประเพณีที่นิยมตั้งแต่สมัยอดีตค่ะ เพื่อเพิ่มความโรแมนติกให้กับงานแต่ง ตอนที่เจ้าบ่าวเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวนั่นเองค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าสาวทุกคนจะต้องใส่เท่านั้นน้า ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวเลย แม้ว่าปัจจุบันนี้จะไม่มีประเพณีเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวแล้ว แต่ก็ยังนิยมใส่กันอยู่ เพราะว่าผ้าคลุมเจ้าสาวช่วยเพิ่มความพิเศษ ช่วยให้ชุดเดรส เป็นมากกว่าชุดเดรสค่ะ เจ้าสาวหลาย ๆ คนก็เลยใฝ่ฝันที่จะได้ใส่สักครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ