เพราะอะไรกันนะ? ถึงนิยมใช้ขนมเหล่านี้ในงานมงคล

หลายๆคนเคยสงสัยขนมที่ใช้ในงานมงคล ว่าทำไมต้องเป็นขนมพวกนี้ วันนี้เวดดิ้งลิสต์จะมาบอกความหมายของขนมยอดนิยมที่ใช้ในงานแต่งบ่อยครั้ง แต่ละชนิดน่าสนใจทีเดียว มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

เป็นขนมมงคลชนิดหนึ่ง รูปร่างสวยงาม คล้ายดอกไม้สีทอง ในการทำต้องใช้ความสามารถ และความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก รวมถึงการประดิษฐ์ประดอยรูปทรง จับกลีบให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้ ชื่อขนมทองหยิบ เป็นชื่อสิริมงคล เชื่อกันว่าถ้าหากนำไปใช้ประกอบพิธีมงคลต่างๆ หรือให้เป็นของขวัญแก่ใครแล้ว จะทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย หยิบจับการงาน สิ่งใดก็จะเป็นเงินเป็นทอง สมดังชื่อ “ทองหยิบ” แบบนี้ห้ามลืมกันเลยทีเดียวค่ะ

จะเห็นใช้ประกอบในพิธีมงคลคู่กับ ทองหยิบ หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญต่างๆบ่อยครั้งแทนคำอวยพรให้ร่ำรวยมีเงินมีทอง ใช้จ่ายอย่างไม่รู้หมดสิ้น ประดุจให้ทองคำแก่กัน ซึ่งยิ่งรวมกับทองหยิบแล้ว ความหมายยิ่งเป็นแง่บวกมากขึ้น คือมั่งคั่งไม่มีที่สิ้นสุด จึงกลายเป็นเหตุผลที่คนมักนำขนมชนิดนี้มาอยู่ด้วยกันในงานมงคล

เป็นขนมในตระกูลทอง ที่มีลักษณะเป็น เส้น นิยมใช้กันในงานสมรส ถือเคล็ดกันว่าห้ามตัดขนมให้สั้นต้องปล่อยให้เป็นเส้นยาวๆ เพื่อที่คู่บ่าว–สาว จะได้ครองชีวิตคู่ และรักกันได้อย่างยืนยาวตลอดไป

ขนมตระกูลทองอีกชนิดที่ทุกขั้นตอนต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำเป็นอย่างยิ่งเป็นขนมที่โดดเด่นกว่า ขนมตระกูลทองชนิดอื่นๆ ตรงที่มีทองคำเปลวติดไว้ที่ด้านบนของขนม คำว่า “เอก” หมายความถึง การเป็นที่หนึ่ง การใช้ขนมทองเอกประกอบพิธีมงคลสำคัญต่างๆ หรือใช้มอบเป็น ของขวัญ ในงานฉลอง การเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง จึงเปรียบเสมือนคำอวยพร ให้เป็นที่หนึ่งอีกด้วย

ขนมชั้นเป็นขนมไทยยอดนิยมที่เป็นมงคล และจะต้อง หยอด ขนมชั้น ให้ได้ 9 ชั้น เพราะ คนไทยมีความเชื่อว่าเลข 9 เป็นเลขสิริมงคล หมายถึง ความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองในเรื่องต่างๆ และขนมชั้นก็หมายถึงการได้เลื่อนขั้น เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ให้สูงส่งขึ้นไป ถ้าในเรื่องของงานแต่งงานก็หมายถึงคำอวยพรให้คู่บ่าว–สาว มีหน้าที่การงานและความรักที่รุ่งเรือง

เป็นขนมที่ทำยาก เพราะขั้นตอนในการทำสลับซับซ้อนมาก นิยมทำกันเพื่อใช้ประกอบพิธีการที่สำคัญจริงๆ ซึ่งคำว่า “จ่ามงกุฎ” หมายถึง การเป็นหัวหน้าใหญ่โตสูงสุดแสดงถึงความมีเกียรติยศสูงส่ง มักใช้เป็นของขวัญในงานเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งถือเป็นการแสดงความยินดี และอวยพรให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานยิ่งๆขึ้นไป ชอบปรากฎให้เห็นในงานแต่งแบบไทยๆบ่อยครั้งอยู่เช่นกัน

มีความหมายอันเป็นสิริมงคล หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู(สมชื่อ) ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ ทุกงาน เคล็ดลับของการทำขนมถ้วยให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทานนั้น คือการใช้น้ำดอกไม้สดเป็น ส่วนผสมและขั้นตอนสุดท้ายในการทำ คือการอบร่ำด้วยดอกมะลิสด

“จันทร์” เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีผลสุกสีเหลือง เปล่งปลั่งทั้งสวยงามและมีกลิ่นหอม ชวนให้หลงใหล คนโบราณ จึงนำความมีเสน่ห์ของผลจันทน์ มาประยุกต์ทำเป็นขนม และได้นำ “ผลจันทร์ป่น” มาเป็นส่วนผสมทำให้มีกลิ่นหอมเหมือนผลจันทร์ ให้ชื่อว่า “ขนมเสน่ห์จันทร์” โดยเชื่อว่าคำว่า เสน่ห์จันทร์ เป็นคำสิริมงคลที่จะทำให้มีเสน่ห์คนรักคนหลงดังเสน่ห์ของผลจันทน์ ขนมเสน่ห์จันทร์จึงถูกนำมาใช้ประกอบในงานพิธีมงคลสมรส เพื่อให้คู่บ่าว–สาว หลงรักเสน่ห์ของกันและกันตลอดไป

เมื่อใช้ประกอบงานมงคล ความหมายจะเหมือนลักษณะของขนมเลย หมายถึง ความหนักแน่น เหนียวแน่นแบบเป็นปึกแผ่นมั่นคง

ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า มีความหมายให้คู่–บ่าวสาวนั้นมีความรักที่ยืนยาวและจะทำการใดก็ประสบความสำเร็จ นิยมใช้กะทิมากๆ เพราะสื่อถึงความรักที่จะต้องหวานชื่นในภายภาคหน้าแบบกะทิในชีวิตคู่ เพราะลอดช่องนั้นมีลักษณะที่รื่นไหลนั่นเอง อาจจะเป็นลอดช่องใบเตย หรือลอดช่องสิงค์โปร์ก็ได้

ได้รู้จักขนมที่นิยมใช้ในงานมงคลกันไปแล้ว ล้วนแต่มีความหมายแอบแฝงทุกขนม ยังมีอีกหลายอย่างที่ในงานแต่งชอบใช้มาประกอบร่วมกับพิธีเหมือนกัน ส่วนมากก็เพื่ออวยพรให้ความรักของทั้งคู่อยู่อย่างมั่นคงตลอดกาล ทุกคนอย่าลืมนำไปใช้ในวันสำคัญกันนะคะ เพื่อเสริมสร้าบความเป็นสิริมงคลให้กับคู่รักของคุณ ^^