เปิดประสบการณ์ใหม่ บนพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์ถนนวิทยุ ณ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล

ถนนวิทยุ ถนนที่ไม่เคยหลับไหล มีตำนานเล่าขานถึงเรื่องราวที่หลายคนอาจจะเคยลืมเลือน เพราะการเปลี่ยนทางการเมืองและสังคมจึงทำให้หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ( The Athénée Hotel, A Luxury Collection Hotel, Bangkok’ )  เป็นส่วนหนึ่งของ วังคันธวาส วังที่ประทับของ สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ประวัติศาสตร์ เนื่องด้วยในสมัยก่อนนั้นพื้นที่บริเวณย่านวิทยุ เคยเป็นที่ตั้งของวังต่างๆ  อาทิ วังวิทยุ แต่ปัจจุบันย่านนี้ได้กลายเป็น ย่านเศรษฐกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพไปเรียบร้อยแล้ว

• อีกหนึ่งความทรงจำที่มิอาจลืมเลือน บนถนนแห่งความหลังย่านประวัติศาสตร์ ” วังคันธวาส ถนนวิทยุ “ ซึ่งปัจจุบันนี้เปลี่ยนรูปลักษณ์บนพื้นที่เดิมจากโรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน เป็น  ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล (The Athénée Hotel, A Luxury Collection Hotel, Bangkok’)  โรงแรมหรู ย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพ
  .
• ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล  ส่วนหนึ่งของผืนดินแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของพระตำหนักคันธวาสที่สวยงาม ซึ่งพระตำหนักคันธวาสนี้เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระราชธิดาองค์ที่ 43 ในพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี

ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ที่หล่อหลอมความงามทางสถาปัตยกรรมเมื่อครั้งก่อน

หากจะเล่าถึงประวัติความเป็นมาก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล’  ต้องขออนุญาตย้อนกลับไป ถึงการรีแบรนด์ของโรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน เพื่อเป็นการเกริ่นนำถึงเรื่องราวที่เล่าขานบนพื้นที่แห่งนี้ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธรทรงสร้างวังส่วนพระองค์ขึ้นชื่อว่า วังคันธวาส โดยมีการออกแบบภายในตามสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษ ได้แก่ การเดินทางท่องเที่ยว การออกแบบและการตกแต่งภายใน แฟชั่น ทรงพระอักษร และเกมหมากฮอส จึงเป็นแรงบันดาลในการออกแบบและการตกแต่ง โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล พระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรคพระวักกะพิการเรื้อรังซึ่งเป็นโรคประจำพระองค์  เคยเสด็จไปทรงรับการผ่าตัดที่ต่างประเทศถึง 2 ครั้ง  จนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 มีพระอาการหนักอย่างน่าวิตก พระอาการประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ และสิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 23.15 นาฬิกา ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ที่ วังคันธวาส สิริพระชนมายุ 53 พรรษา
.
หลังการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าได้พระราชทานวังคันธวาสให้กับโรงเรียนราชินีบน เพื่อเก็บผลประโยชน์เป็นรายได้บำรุงโรงเรียน หลังจากนั้นเจ้าสัวอากร ฮุนตระกูล ได้ทำการขอเช่าที่ดินตรงวังเก่าและก่อสร้างเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวเมื่อปี 2516 ชื่อว่า โรงแรมอิมพีเรียล จนมาถึงกลางปี 2537 เจ้าสัวอากร ได้ทำการขายโรงแรมให้กับคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี เพื่อสร้างให้เป็นโรงแรมชั้น 1 ของกรุงเทพฯ และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อปี 2544 โดยใช้ชื่อ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน และปัจจุบันนี้เป็นได้เปลี่ยนเป็น ‘ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล’

ปลุกความทรงจำให้ตื่นขึ้น ด้วยภาพลักษณ์ใหม่
ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล

ความที่พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นวังเก่ามาก่อน ทางโรงแรมจึงมีแนวคิดว่า จะนำเรื่องราวของอดีตอันงดงามของ “วังคันธวาส” และสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ฯ  โดยมีการออกแบบภายในตามสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษ ได้แก่ การเดินทางท่องเที่ยว การออกแบบและการตกแต่งภายใน แฟชั่น ทรงพระอักษร และเกมหมากฮอส ซึ่งทั้งหมดนี้จึงเป็นแรงบันดาลในการออกแบบและการตกแต่ง โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล มีการผสมผสานความงามของความเป็นไทยและยุโรป รวมถึงรายละเอียดการตกแต่งในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานภาพเขียน งานจิตรกรรม เครื่องเรือน ซึ่งของแต่ละชิ้นนั้นบ่งบอกถึงรสนิยมของสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ฯ  ผู้เป็นเจ้าของวังได้อย่างลงตัว

.

บันไดทางเดินซึ่งเป็นเสมือนประตูบานแรกที่พร้อมต้อนรับแขกผู้มาเยือน

ภาพบันไดวนและบริเวณล๊อบบี้ถูกออกแบบใหม่ให้เป็นเสมือนวังที่พร้อมต้อนรับแขกคนสำคัญที่มาเยี่ยมเยือน โดยพื้นที่ทั้งหมดถูกรีโนเวทใหม่เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแชนเดอเลียร์ทรงดอกบัวที่เผยความหรูหราระยิบระยับจากเพดาน ไม้ฉลุลายไทย เครื่องถ้วยลายคราม และการตกแต่งส่วนต่างๆของทางโรงแรมยังคงมีกลิ่นอายความเป็นไทยผสานกับความหรูหราคลาสสิคในสไตล์ยุโรป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่ตราบนิจนิรันดร์ของสมเด็จเจ้าฟ้าวไลย์อลงกรณ์ฯ

ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล พร้อมให้ทุกท่านให้สัมผัสบรรยากาศความละเมียดละไมในความงามของสถาปัตยกรรมชั้นสูง

ในส่วนของการปรับปรุงพื้นที่ในทุกห้องพักของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แต่ละห้องพักนั้นได้รับการออกแบบเพื่อความเป็นส่วนตัว ด้วยการตกแต่งที่ได้นำเอาองค์ประกอบของวัฒนธรรมท้องถิ่นของประเทศไทยมาผสมผสานกับมรดกแห่งราชวงศ์ ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิก ด้วยโทนสีห้องพักอันอบอุ่น ที่ประกอบไปด้วย สีขาว สีเทา และสีแดงเข้ม อีกทั้งลวดลายไทยอันหรูหราที่ปรากฏบนผืนผ้าม่าน และวัสดุที่หุ้มเฟอร์นิเจอร์ เติมเต็มความสมบูรณ์แบบเพื่อให้ทุกท่านได้หลับสบายและฝันดีไปด้วย คอนเซ็ปต์เตียงนอนอันมีชื่อเสียงของแบรนด์ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น นอกจากนี้ยังมีบริการเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ และเทคโนโลยีแบบใช้สายและไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด อีกด้วย สำหรับแขกที่เข้าพักบนชั้น รอยัล คลับ ทุกท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับห้องพักแบบสวีทที่ได้รับการตกแต่งใหม่อย่างมีรสนิยม ด้วยโทนสีน้ำเงินรอยัลบลู และสีเทา

“ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เผยโฉมใหม่ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทลในเร็ววันนี้ เรามีความพร้อมในการเรียนเชิญแขกผู้มีอุปการะคุณให้มาร่วมดื่มด่ำไปกับอีกระดับของความหรูหราและความปราณีต การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการผสมผสานการออกแบบและการตกแต่งความปราณีตในสไตล์ร่วมสมัยที่ดีที่สุดให้เข้ากับสัมผัสอันโดดเด่นของสถานที่ได้อย่างลงตัวโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล จะเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่มีความหรูหราที่สุดในเมืองหลวงอันน่าหลงใหลแห่งนี้ ”
ชูเลง โก ผู้จัดการทั่วไป กล่าว

นอกเหนือจากทุกห้องพักและห้องสวีทที่ได้รับการตกแต่งใหม่ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แล้วนั้น โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ยังได้ปรับการออกแบบและการตกแต่งห้องอาหาร เดอะ เรนทรี คาเฟ่ (The Rain Tree Café) โดยเพิ่มเติมพื้นที่ของห้องวไลย (Valaya Room) ห้องรับประทานอาหารสไตล์ย้อนยุคที่แขกสามารถอิ่มอร่อยไปกับอาหารมื้อเช้าเลิศรส หรือจะเลือกรับประทานอาหารแบบส่วนตัวกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือเพื่อเจรจาธุรกิจ อีกทั้ง ห้อง ซีเคร็ท การ์เด้น (Secret Garden) และห้อง เดอะ เบเกอรี่ เข้าไปอีกด้วย

สระว่ายน้ำกลางแจ้งและพื้นที่จัดงานอีเว้นท์ที่ตั้งอยู่บนชั้นที่ 4 ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ยังได้รับการออกแบบและการตกแต่งใหม่ เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนอันแสนรื่นรมย์ใจกลางกรุงเทพมหานคร ส่วนห้องประชุมแอทธิเนียม และเลาจน์ในบริเวณชั้นที่หกนั้น พร้อมนำเสนอสถานที่อันสมบูรณ์แบบสำหรับการจัดงานอีเว้นท์ และงานสังคมที่แสนประทับใจ ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับหลากหลายธีมคอฟฟี่เบรกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ อาทิ ธีมสหรัฐอเมริกา ธีมฝรั่งเศส ธีมอินเดีย ธีมญี่ปุ่น ธีมอิตาลี และธีมไทย ซึ่งธีมคอฟฟี่เบรกจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวันที่จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน

บนชั้นที่ 29 เป็นที่ตั้งของ พิมานสยาม ฮอลล์ ที่เป็นห้องจัดเลี้ยงสำหรับจัดงาน อีเว้นท์ขนาดใหญ่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบและการตกแต่งมาจาก วังคันธวาส ด้วยการผสมผสานแก่นแท้ของการออกแบบสไตล์ไทยร่วมสมัย ทำให้สถานที่อันโดดเด่นแห่งนี้เป็นที่จดจำในทุกการจัดงานประชุมและ งานอีเว้นท์ของแขกที่มาใช้บริการ

โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกในโลกที่ได้รับประกาศนียบัตร ไอเอสโอ 20121 ในด้านการวางแผนและการจัดงานแบบยั่งยืน (ISO 20121 certification for planning and delivering sustainable events) อีกด้วย

การเปลี่ยนแปลงแบบไม่ธรรมดาในครั้งนี้ของ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น โฮเทล จะเผยโฉมให้ท่านได้สัมผัส ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 นี้ เป็นต้นไป

ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งงานที่ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล

• ชั้น 2 ห้องแกรนด์ฮอลล์ รองรับแขกได้สูงสุด 1,200 ท่าน
• ชั้น 3 ห้องคริสตัลฮอลล์ รองรับแขกได้สูงสุด 1,500 ท่าน
• ชั้น 4 ห้องคันธวาส  รองรับแขกสูงสุดได้ 100 ท่าน
• ชั้น 29 ห้องพิมานสยาม รองรับแขกสูงสุดได้ 400 ท่าน

• สำรองห้องพักได้ที่เว็บไซต์ www.theatheneebangkok.com หรืออีเมล reservations.theathenee@luxurycollection.com

ข้อมูลเกี่ยวกับ เดอะ ลักซ์ชูรี่ คอลเล็คชั่น® โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท
แบรนด์เดอะ ลักซ์ชูรี่ คอลเล็คชั่น® เป็นส่วนหนึ่งของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำจากทั่วโลก นำเสนอประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของการพักผ่อนอย่างแท้จริงที่จะสร้างความทรงจำอันล้ำค่าของแขกผู้เข้าพักไปตราบนานเท่านาน สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เดอะ ลักซ์ ชูรี่ คอลเล็คชั่น เปรียบเสมือนประตูที่เปิดไปสู่จุดหมายปลายทางอันน่าตื่นเต้นที่ซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วโลกปรารถนาที่จะเดินทางไปสัมผัส โรงแรมและรีสอร์ท แต่ละแห่งนั้นแสดงออกถึงสถานที่ตั้งที่โดดเด่นแบบไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังเป็นประตูที่นำพานักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกไปสู่จุดหมายปลายทางอัน เต็มไปด้วยสเน่ห์และคุณค่าของท้องถิ่นนั้นๆ อีกด้วย

ข้อมูลติดต่อ
อีเมล : Weddingsales.TheAthenee@luxurycollection.com
โทรศัพท์ : 02 650 8800 ต่อ 6203