รีวิวห้องอาหาร The Brasserie โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติรสถูกปากคนไทย

วันนี้ทีมงาน Weddinglist ได้มีโอกาสแวะมาดินเนอร์กันที่ห้องอาหาร The Brasserie ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม ห้องอาหาร The Brasserie อยู่ที่ชั้น Lobby ของโรงแรม เมื่อผ่านเข้าประตูหน้าของโรงแรมมา ห้องอาหารจะอยู่ด้านขวามือ ติดกับบาร์เครื่องดื่ม Hari’s Bar และมุมจำหน่ายเบเกอรี่ค่ะ

หลังจากเช็คอินที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าแล้ว เราจะพบกับห้องอาหารสไตล์ชิค ๆ มีหน้าต่างกระจกบานสูงเปิดเห็นวิวฝั่งถนนสีลมให้ได้นั่งรับประทานไปชมวิวไป ห้องอาหารเป็นโทนสีน้ำตาล เน้นวัสดุไม้เป็นหลัก ตัดกับเก้าอี้หลากสี โต๊ะเก้าอี้กว้างนั่งสบาย พื้นที่ระยะห่างระหว่างโต๊ะกำลังพอดีให้ได้เดินสะดวกและมีความเป็นส่วนตัวสำหรับแต่ละโต๊ะ

ส่วนไลน์อาหารที่นี่จะแยกมุมชัดเจน โดยเรียงรายอยู่ครบครันที่ฝั่งโซนด้านใน แยกกับโซนโต๊ะอาหาร ทำให้สะดวกต่อการเดินสำรวจและตักอาหารในไลน์ค่ะ

มุมแรกพบที่เป็นการต้อนรับและทักทายแขกผู้มาเยือนห้องอาหาร The Brasserie คือไลน์ขนมหวานค่ะ ซึ่งขนมหวานที่นี่ค่อนข้างมีหลากหลาย ทั้งเบเกอรี่นานาชนิด เช่น เค้กต่าง ๆ มูส เจลลี่ ทาร์ตต่าง ๆ ชูว์ครีม ฯลฯ เป็นเมนูคลาสสิค ยอดนิยมเช่น บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก มูสช็อคโกแลต บราวนี่ เค้กเรดเวลเว็ท ฯลฯ หรือเป็นเมนูที่ทางเชฟของโรงแรมมีการมิกซ์แอนด์แมทช์ และคิดสูตรขึ้นมาใหม่ เช่น เค้กมูสชาไทย เนื้อนุ่ม หอมมันทั้งรสของชาไทยและมีรสเปรี้ยวพร้อมกลิ่นส้มหอม ๆ มาตัด เป็นเมนูเก๋ ๆ ที่มีที่นี่ทีเดียว
แอบดอกจันทน์นิดหนึ่งว่าของหวานที่นี่ถูกใจทั้งสายหวาน และคนที่ไม่ชอบรสหวานจัดค่ะ เพราะเบเกอรี่ที่นี่รสชาติไม่หวานมาก แถมตัดมาเป็นชิ้นพอดีคำให้สามารถเลือกชิมได้หลายอย่างโดยไม่ตัดกำลังค่ะ

ทีเด็ดสำหรับไลน์ของหวานคือเครปสด และไอศกรีม ที่มีเชฟยืนประจำทำสดให้จานต่อจาน สามารถสั่งได้เลยว่าจะรับเครปกี่แผ่น ใส่ไส้อะไรบ้าง ซึ่งวันนี้มีแยมบลูเบอร์รี่ และแยมเชอร์รี่ ที่มีบลูเบอร์รี่และเชอร์รี่มาให้เห็นเป็นลูก ๆ อีกทั้งยังมีท็อปปิ้งเพิ่มเติมให้เราแต่งหน้าเครปได้ตามใจชอบทั้งช็อคโกแลต แยม อัลมอนด์ และวิปครีมเนื้อแน่นรสหอมมันค่ะ ส่วนคอขนมหวานแบบไทย ๆ ก็มีเมนูขนมไทยยอดนิยมหลากชนิด เช่น ฝอยทอง หม้อแกง เฉาก๊วย ลอดช่อง ทับทิมกรอบ ฯลฯ พร้อมมุมน้ำอัดลม และผลไม้ตามฤดูกาลค่ะ

ถัดไปจากมุมของหวาน ประเดิมของคาวเมนูแรกด้วยมุมขนมปังหลากชนิดและเนยแข็งค่ะ

ต่อมาคือมุมสเต็กแบบยุโรป ที่มีเนื้อต่าง ๆ สลับสับเปลี่ยนเมนูในแต่ละวัน วันนี้มีเมนูไก่ย่างทั้งตัวที่หั่นเป็นชิ้นส่วนให้ได้เลือกหยิบกันตามความชอบ เคียงคู่กับผักย่าง และน้ำเกรวี่แบบต่าง ๆ ค่ะ

ถัดไปเป็นหม้อซุป 2 ชนิด ที่มีทั้งซุปใส และซุปข้น เมนูสลับกันในแต่ละวัน

ว่าด้วยเรื่องของความหลากหลายวาไรตี้ของอาหาร ต้องวางใจที่นี่ค่ะ ด้วยความที่ย่านสีลมมีผู้คนหลากเชื้อชาติทั้งที่อาศัยอยู่ประจำ และเป็นนักท่องเที่ยว แวะเวียนมาใช้บริการที่ฮอลิเดย์อินน์ สีลม เมนูอาหารของที่นี่จึงมีความหลากหลาย แต่รสชาติจะค่อนข้างถูกปากคนไทย
เช่นในไลน์อาหารปรุงสำเร็จ จะมีทั้งเมนูไทย ๆ เช่น แกงเผ็ด และผัดต่าง ๆ และอาหารอินเดีย เช่น แกงเครื่องเทศต่าง ๆ ที่ไม่มันและกลิ่นเครื่องเทศไม่แรงจนเกินไป คนที่ไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศแรง ๆ หรือไม่เคยเปิดใจให้อาหารแถบนี้ ก็อาจลองชิมแล้วถูกใจได้ค่ะ
สำหรับไลน์อาหารปรุงสำเร็จนี้ ดูเผิน ๆ อาจเป็นเมนูที่ไม่ได้โดดเด่นหรือแตกต่างเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ลองชิมแล้วกลับเป็นรสชาติไม่ธรรมดาที่ทำให้คนชิมยิ้มได้ ที่สำคัญคือคุณภาพของวัตถุดิบและความสดของอาหารที่นี่ดีมากค่ะ

อีกสเตชั่นที่ไม่น่าพลาดคือ “เทปันยากิ” หรือสเต็กสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งเมนูเนื้อของวันนี้มีเนื้อหมู และเต้าหู้ ด้วยความที่มีแขกมาทานเยอะ เชฟจึงต้องปรุงเนื้อแต่ละชนิดไว้ล่างหน้า หั่นเป็นชิ้น ๆ วางไว้แบบพร้อมตัก แต่เนื้อไม่เย็นชืดนะคะ เพราะเชฟจะคอยยืนประจำอยู่ที่สเตชั่นคอยปรุงเสิร์ฟเติมของเป็นช่วง ๆ ค่ะ

มุมอาหารพิเศษประจำวันนี้เป็นข้าวซอยค่ะ

ถัดมาคือมุมโปรดสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารทะเล ที่มีทั้ง Seafood on ice, สลัด, Cold Cut และซาซิมิตั้งอยู่ในแถบเดียวกันค่ะ

Seafood on ice วันนี้มีกุ้ง และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งของที่นี่อาจดูตัวไม่ใหญ่มาก แต่ที่อยากนำเสนอเลยคือเนื้อกุ้งที่นี่สด หวาน และกรอบกำลังดี ส่วนหอยแมลงภู่นั้นไซส์ไม่เบา ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดไทย ๆ รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องรับรองว่าได้เดินมาตักเบิ้ลกันหลายรอบค่ะ

สลัดของที่นี่มีทั้งสลัดแบบปรุงสำเร็จ วันนี้มีสลัดไก่ สลัดแครอท ส้มตำ ฯลฯ และมีสลัดสำหรับปรุงเอง ซึ่งมีผักสดและธัญพืชชนิดต่าง ๆ กับน้ำสลัดหลากชนิด พร้อมชามคลุกให้เราลงมือปรุงเองได้ตามความชอบเลยค่ะ

มุม Cold Cut จะมีจำพวกแฮม ซาลามี่ ซีฟู้ดเทอรีน ชีสนานาชนิด ฯลฯ ค่ะ

ส่วนมุมอาหารญี่ปุ่นของที่นี่ จะเน้นเป็นข้าวปั้น ซูชิหน้าต่าง ๆ เช่นแซลมอน ปลาซาบะ ทูน่า ไข่หวาน และโรลต่าง ๆ ค่ะ ซึ่งซูชิที่นี่รสชาติดี ด้วยเนื้อปลาสด และข้าวนุ่มปรุงรสมาพอดีและไม่หนามาก ส่วนซาซิมิคืนนี้มีปลาดิบให้เลือก 2 ชนิด คือแซลมอนและทูน่า หั่นเป็นชิ้นสวยพอดีคำ เสิร์ฟมาในจานเล็ก ๆ จัดแยกส่วนมาเรียบร้อย สามารถเลือกได้ตามชอบทั้งคนที่ชอบเนื้อส้ม ๆ แทรกมันนิดหน่อย หรือเนื้อส่วนท้องค่ะ

บุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ The Brasserie นี้เน้นที่ความหลากหลายของอาหารนานาชาติ ทั้งไทย ยุโรป ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ฯลฯ ในรสชาติที่ถูกปากคนไทยค่ะ เมนูอาจจะดูไม่มากหรืออลังการมากนัก แต่ถ้าพูดถึงรสชาติคือไม่ผิดหวัง อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาปรุง ไลน์อาหารก็มีการเติมเรื่อย ๆ ไม่ขาดตอน บวกกับบรรยากาศชิล ๆ สบาย ๆ ของห้องอาหารพร้อมวิวถนนสีลมที่คึกคักทุกเย็น เหมาะกับการมานั่งรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือจับจองมุมสงบ ๆ รับวิวเต็ม ๆ ติดหน้าต่างสำหรับเดทกับคนรู้ใจ ก็ได้บรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบค่ะ

ราคาบุฟเฟ่ต์ห้องอาหาร The Brasserie (ไม่รวม VAT และ Service Charge)

วันศุกร์ – วันอาทิตย์ มื้อกลางวัน ราคา 650++ บาท ต่อท่าน

(ใช้สิทธิบัตร Pretige ลดเหลือ 418 บาท ต่อท่าน)

วันศุกร์ – วันอาทิตย์ มื้อเย็น ราคา 750++ บาท ต่อท่าน

(ใช้สิทธิบัตร Pretige ลดเหลือ 482 บาท ต่อท่าน)